ผู้ใหญ่บ้านในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ผวาเห็นหนุ่มหลอนยาคลุ้มคลั่งล็อกคอเมียตัวเอง พอเข้าไปช่วยกลับชายคลั่งกลับหันปืนขู่จะยิง โร่แจ้งตำรวจ แต่ทางตำรวจบอกไม่ใช่เหตุซึ่งหน้าจับไม่ได้ ขณะที่ฝ่ายตำรวจยอมรับผู้ใหญ่บ้านได้มาแจ้งความไว้จริง ร้อยเวรรับเรื่องไว้แล้วเตรียมเรียกผู้ใหญ่บ้านมาสอบปากคำก่อนเรียกผู้ถูกกล่าวมาสอบปากคำตามขั้นตอน แต่หากผู้ก่อเหตุไม่มาก็จะออกหมายเรียกและตามจับตามขั้นตอน ขณะที่ชายคลั่งหลบหนีไปแล้ว
วันที่ 8 เม.ย.66 นายเจริญทรัพย์ แดงชาติ ผู้ใหญ่บ้านโคกหญ้าคา ต.ยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือเกรงจะไม่ปลอดภัย หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ประสบเหตุชายเกิดอาการหลอนยาคลุ้มคลั่งล็อกคอภรรยาตัวเองเหมือนจะทำร้าย จึงเข้าไปช่วยเหลือ แต่ชายที่คลุ้มคลั่งกลับใช้ปืนที่ดัดแปลงขึ้นหันมาขู่จะฆ่าผู้ใหญ่บ้าน จนเกิดการยื้อแย่งกันจากนั้นชายคนดังกล่าวได้ล้วงมีดจากกระเป๋าผู้ใหญ่ที่เอาติดไปด้วย เพราะตอนเกิดเหตุไปดูวัวที่ผูกเลี้ยงไว้ในทุ่งนา ก็ยื้อยุดฉุดกระชากกันสักพักก่อนจะมีคนเข้ามาช่วยเอาตัวผู้ก่อเหตุออกไป แต่ผู้ก่อเหตุขู่อาฆาตจะเอาชีวิต ผู้ใหญ่บ้านจึงไปแจ้งความที่ สภ.ถาวร แต่ทางตำรวจกลับบอกว่าไม่ใช่เหตุซึ่งหน้าไม่สามารถจับกุมได้ ตอนนี้ผู้ก่อเหตุก็ยังลอยนวลจึงเกรงจะไม่ปลอดภัย เพราะผู้ก่อเหตุขู่เอาไว้
โดยนายเจริญทรัพย์ ผู้ใหญ่บ้านโคกหญ้าคา เล่าว่า วันเกิดเหตุตนก็ออกไปดูวัวที่ทุ่งนาซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน จากนั้นได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกัน ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่เขตติดต่อกับหมู่ของตน คือบ้านโคกหัวเสือ ผ่านไปไม่ถึง 5 นาทีก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งทราบชื่อภายหลังคือนายสมชาย (ขอสงวนนามสกุล) ลักษณะเหมือนหลอนยาคลุ้มคลั่ง ล็อคคอเมียตัวเองแล้วเดินมาตามถนน มาทางที่ตนเองเลี้ยงวัวอยู่แล้วจู่ๆ ชายคนดังกล่าวที่ล็อกคอเมียตัวเองก็ตะโกนขึ้นมาว่า "กูจะฆ่าผู้ใหญ่บ้านให้มึงดู" ซึ่งตนก็งงเพราะไม่เคยมีเรื่องกับชายดังกล่าว รู้แค่ว่าเป็นลูกบ้าน ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านใกล้กัน ตนก็พยายามจะห้ามไม่ให้ชายคนดังกล่าวทำร้ายภรรยา แต่พอจังหวะที่ตนหันหลังนายสมชาย ก็ถือปืนผาที่ประดิษฐ์ขึ้นเองมาจ่อที่ตนแล้วขู่จะฆ่า ตอนนั้นตกใจมากตั้งสติได้จึงตัดสินใจกระโดดเข้าไปแย่งปืนเพราะถ้าวิ่งหนีก็อาจจะถูกยิง จังหวะที่แย่งปืนได้ก็หยิบมือถือโทรไปหา ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกหัวเสือ ให้มาช่วยเพราะเห็นว่าคนก่อเหตุเป็นลูกบ้านของเขา
แต่ขณะกำลังโทรศัพท์คุยกับผู้ใหญ่โคกหัวเสือ นายสมชาย ก็กระโดดเข้ามาล้วงเอามีดในกระเป๋าของตนที่สะพายมาสำหรับเลี้ยงวัวด้วย ตนก็พยายามยื้อแย่งมีดจากนายสมชาย ตอนนั้นโทรศัพท์ยังไม่ได้วางสายผู้ใหญ่บ้านก็ได้ยินเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งตอนที่ยื้อแย่งมีดและปืนกับนายสมชาย ก็มีชาวบ้านมาเห็นพอดี แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย กระทั่งผ่านไปมา 5 นาทีนายสมชาย ก็หยุดแล้วเดินกลับไปที่บ้าน ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่ากลัวมาก ถ้าไม่มีคนมาเห็นก็อาจจะถูกยิงหรือโดนแทงไปแล้ว
แต่ที่คาใจคือหลังเหตุการณ์สงบลง ตนไปแจ้งความที่โรงพักแต่ตำรวจบอกว่าไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ไม่สามารถจับกุมหรือทำอะไรได้ ตนก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะตัวนายสมชาย ก็หนีไปแล้ว จึงเกรงจะไม่ปลอดภัย ก็อยากให้เจ้าหน้าที่เอาผิดกับนายสมชาย เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้อาจไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก ส่วนตัวยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรกับนายสมชาย แต่ที่ผ่านมาภาครัฐเคยมีโครงการหมู่บ้านสีขาวในการปราบปรามยาเสพติด จึงอาจทำให้นายสมชาย ไม่พอใจหรือไม่เพราะนายสมชาย ก็มีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ด้านผู้ใหญ่ปรีชา สำเร็จดี ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกหัวเสือ บอกว่า นายสมชาย ซึ่งเป็นลูกบ้านมีประวัติเรื่องยาเสพติด ที่ผ่านมาก็เคยก่อเหตุทำร้ายคนในหมู่บ้านมาแล้วแต่พูดคุยตกลงกันได้ กระทั่งมาเกิดเหตุกับผู้ใหญ่โคกหญ้าคา ซึ่งขณะเกิดเหตุผู้ใหญ่ก็กำลังโทรแจ้งตนเองพอดีก็ได้ยินเสียงเหตุการณ์ในสายตลอด แต่ตอนนี้นายสมชายหนีไปแล้วก็อยากให้เจ้าหน้าที่ทำอะไรสักอย่างจะได้ไม่เกิดเหตุขึ้นอีก
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามที่บ้านนายสมชาย แต่ไม่พบนายสมชาย พบเพียงนางสุพิษ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ภรรยานายสมชาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุสามีดื่มเหล้าไป 6 ขวดและสูบกัญชา ดื่มน้ำกระท่อมด้วย แต่ไม่รู้ว่าเสพยาบ้าหรือไม่ พอสามีเมาก็โวยวายอาละวาดแล้วก็ล็อกคอตนเดินไปตามถนน จนไปเจอผู้ใหญ่บ้านโคกหญ้าคา เขาก็ตะโกนว่าเดี๋ยวกูจะฆ่าผู้ใหญ่ให้มึงดู ซึ่งตนคิดว่าสามีพูดไปเพราะความเมา ก็จะไม่คิดว่าเขาจะทำจริงๆ เพราะไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน ส่วนที่ทางผู้ใหญ่บ้านไปแจ้งความว่าสามีพยายามฆ่านั้นก็ร้ายแรงเกินไป สามีอาจจะทำไปเพราะความเมา
จากนั้นภรรยาของนายสมชายได้ก็พาผู้สื่อข่าวเดินไปดูที่หลังบ้านก็พบต้นกัญชาและบ้องกัญชาที่สามีทำเอาไว้
เมื่อไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถาวร ก็ทราบว่าผู้ใหญ่บ้านโคกหญ้าคา ได้มาแจ้งความไว้จริง ซึ่งร้อยเวรก็รับเรื่องไว้แล้วก็จะเรียกผู้ใหญ่บ้านมาสอบปากคำก่อน จากนั้นถึงจะเรียกผู้ถูกกล่าวมาสอบปากคำตามขั้นตอน แต่หากผู้ก่อเหตุไม่มาก็จะออกหมายเรียก และตามจับตามขั้นตอน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี