ความคืบหน้ากรณีการติดตามจับกุมแก้งคนร้ายที่มาขโมยรถในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งทาง พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.เมืองลพบุรี, พ.ต.ท.ปพนทัศน์ ศรีสถาพรวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองลพบุรี, พ.ต.ท.พัชรพล รุจาพันธ์ สว.สส.สภ.เมืองลพบุรี และ พ.ต.ท.วัชรินทร์ มะลิพันธ์ สว.สส.สภ.หนองแค จว.สระบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองลพบุรี ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายศุภสิทธิ์ อายุ 25 ปี อยู่ ต.หนองจระเข้ อ.หนองแค จ.สระบุรี
จนกระทั่งต่อมาสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดลพบุรีจนกระทั่งสามารถจับกุมนายฐิติกร หรือโต๊ด อายุ 28 ปี อยู่ ถ.พหลโยธินสายเก่า ต.หนองแค อ.หนองแค จ.ลพบุรี และนายฉัตรมงคล หรือฉัตร อายุ 26 ปี อยู่ ถ.พหลโยธินสายเก่า ต.หนองแค อ.หนองแค จ.สระบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ที่ 68/2566 และ 70/2566 ลงวันที่ 7 เมษายน 2566 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” วัน เดือน ปี ที่จับกุม 7 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 13.00 น.สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนหน้าปากซอยมุทิตา 1 ม.2 ต.ป่าตาล อ.เมือง จว.ลพบุรี
พฤติการณ์แห่งคดีและรายละเอียดในการจับ ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายฉัตรมงคล หรือฉัตร ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดลพบุรี กระทำความผิดฐาน "ร่วมกันลักทรัพย์ในเคทสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม" นี้ได้อยู่ที่บริเวณริมถนนพระปิยะ ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จว.ลพบูรี เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ตรวจสอบ เมื่อเดินทางไปถึงหน้าบ้านเลขที่ดังกล่าวพบนายฐิติกร หรือโต๊ค ยืนอยู่ที่บริเวณคังกล่าวตำหนิรูปพรรณตามหมายจับ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจทำการตรวจสอบจากการสอบถเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริงเจ้าพนักงานตำรวงจึงไต้แสดงหมายจับให้นายฐิติกร หรือโต๊ด และอ่านข้อความตามหมายจับให้ฟังแล้ว รับว่าเป็นบุตคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับกุมตัวในคดีนี้มาก่อนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ จึงได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ
โดยการจับกุมเพื่อร่วมขบวนการไปแล้ว 3 คน ก็จะเหลือเพียง คนคือ ไอ้แสบ หรือนายทิพยเนตร ที่หลังขโมยรถแล้วได้หลบหนีไปจนชนสาวพนักงานในพื้นที่จังหวัดอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กดดันอย่างหนักจนคนร้ายทนต่อการกดดันของทางเจ้าหน้าที่ไม่ไหวให้ทางภรรยากับญาติประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอเข้ามอบตัวประเกรงว่าจะถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเลยเข้ามอบตัว ซึ่งนายทิพยเนตร หรือแสบ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียคล้ายจะร้องไห้ขอโทษทางญาติของน้องผู้เสียชีวิตว่า "ผมไม่ได้ตั้งใจชนน้องที่ชนเพราะมองไม่เห็นจริงๆ คิดว่าขับชนกับเสาไฟฟ้า จนมารู้จากคลิปที่ภรรยาเอามาให้ดูว่าผมชนคนตาย จึงสำนึกผิดแล้วจึงอยากเข้ามอบตัว" - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี