เหนือ-อีสาน-กลางร้อนระอุ!
พุ่งทะลุ42องศา
‘ฝุ่น-ควันพิษ’สะสมต่อเนื่อง
จุดความร้อนไทยเพิ่ม1.7พันแห่ง
นครนายกผวาไฟป่าปะทุอีกรอบ
ส่งจนท.เร่งสกัดหวั่นลามเขาใหญ่
ไทยพบจุดความร้อนเพิ่ม 1,763 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 818 จุด ขณะที่เมียนมายังมาเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนทะลุ 1.4 หมื่นจุดสูงปรี๊ดในรอบ 5 ปี ส่งผลให้ฝุ่นควันย่ำแย่ต่อเนื่อง ด้านอุตุฯเตือน “เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศร้อนจัดทะลุ 42 องศาฯ การสะสมของฝุ่นยังสูงเนื่องจากการระบายอากาศไม่ดี ด้านจ.นครนายกปั่นป่วนอีกครั้ง หลังไฟป่าระลอกใหม่ปะทุบริเวณช่องเขานางดำ รอยต่อเขาตะแบก ฝั่งบ้านวังรี ต.เขาพระ เจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง24ชั่วโมง ระดมกำลังนับร้อยเดินเท้าเข้าสกัด หวั่นลามถึงเขาใหญ่
เมื่อวันที่ 11 เมษายน สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)หรือ GISTDA เปิดเผยข้อมูลการสำรวจจุดความร้อนจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ประจำวันที่ 10 เมษายนว่า ไทยพบจุดความร้อน 1,763 จุด ขณะที่เมียนมาร์ยังมีจุดความร้อนมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียนอยู่ที่ 14,849 จุด สปป.ลาว 3,676 จุด เวียดนาม 271 จุด กัมพูชา 228 จุด และมาเลเซีย 66 จุด จุดความร้อนใน
ทั้งนี้ ในประเทศไทยพบจุดความร้อนในพื้นป่าอนุรักษ์มากที่สุด 818 จุด ตามด้วยป่าสงวนแห่งชาติ 563จุด พื้นที่เกษตร 199 จุด พื้นที่ชุมชนอื่น 91 จุด พื้นที่เขต สปก. 83 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 9 จุด จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับคือ เชียงราย 286 จุด เชียงใหม่ 258 จุด แม่ฮ่องสอน 201 จุด
พร้อมกันนี้ จิสด้า ยังเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ซึ่งสถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้บริเวณชายแดน เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ประกอบกับภูมิประเทศทางภาคเหนือของไทยมีลักษณะเป็นหุบเขาแอ่งกระทะ จึงสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับการพัดและการเคลื่อนตัวของกระแสลมในพื้นที่เป็นสำคัญ
วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป มีฟ้าหลัวตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ขณะที่ลมใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่อาจเกิดขึ้นระยะนี้ด้วย ส่วนภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
กรมอุตุนิยมวิทยายังพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 น.วันนี้ (11 เมษายน) ถึง 12:00 น. วันที่ 12 เมษายน ภาคเหนืออากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฟ้าหลัวตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 37-42 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ มีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจ.นครราชสีมา และบุรีรัมย์ อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกอากาศร้อนมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจ.ชลบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิสูงสุด 32-39 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ภาคใต้ฝั่งตะวันออก อากาศร้อน มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จ.สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อน มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจ.ระนอง พังงา และกระบี่ อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส สถานการณ์ฝุ่น ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบนมีการสะสมของฝุ่นหมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมาก เนื่องจากการระบายอากาศไม่ดี ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ยังมีการสะสมน้อย เนื่องจากการระบายอากาศบริเวณดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ดี
ความคืบหน้าหลังตรวจพบกลุ่มไฟป่าบริเวณช่องเขานางดำ รอยต่อเขาตะแบก ฝั่งบ้านวังรี ต.เขาพระ จ.นครนายก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ ซึ่งจุดที่พบไฟอยู่ในแนวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทางศูนย์บัญชาการได้ประสานนายพงษ์สวัสดิ์ ธีระวัฒนกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)เขาพระ เตรียมรถดับเพลิงและรถน้ำใกล้เคียง เพื่อรอช่วยเหลือชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง หากกลุ่มไฟเคลื่อนตัวลงมาพื้นราบเข้าสู่ชุมชนและพื้นที่เกษตร จะเข้าช่วยเหลือทันที อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ พบกลุ่มไฟเคลื่อนตัวจากเขานางดำไปทางทิศเหนือ มุ่งหน้าสู่เขาตะแบก อีกประมาณ 500 เมตร จะถึงแนวต.ชะอม จ.สระบุรี ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด 24 ชั่วโมง
ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 11 เมษายน นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก พร้อมผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครนายก ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่วังรีรีสอร์ท หมู่ 12 ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งตั้งเป็นกองอำนวยการดับไฟป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ยุทธการดับไฟป่าเขาตะแบก) ซึ่งไฟป่ายังพบเพียง 1 วง และมีกำลังจากทุกฝ่าย ทั้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทหาร และพลเรือน รวมถึงเฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรฯ มาช่วย 1 ลำ โดยมีหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นผู้อำนวยกองอำนวยการดับไฟป่า พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และสถานีดับไฟป่านครนายก ปราจีนบุรี 3 ผลัดรวม 220 คน เดินเท้าเข้าไปยังจุดหัวไฟ โดยมีเฮริคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คอยส่งอาหารและเครื่องดื่มให้เจ้าหน้าที่ และเวลา 12.15 น. เฮริคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรฯจะขึ้นบิน 3 เที่ยว เพื่อโจมตีหัวไฟ ซึ่งหัวไฟอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ยังไม่ข้ามเขตจ.นครนายก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี