วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 นสพ.The Independent ของอังกฤษ รายงานข่าว Hundreds of thousands of fish die in Vietnam as Asia swelters in searing heat ระบุว่า ที่อ่างเก็บน้ำ Song May ในจังหวัด Dong Nai ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเวียดนาม ปลานับแสนตัวตายเกลื่อนปกคลุมผิวน้ำ ซึ่งสาเหตุมาจากสภาพอากาศร้อนจัดทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยในส่วนของเวียดนามนั้นไม่มีฝนตกมาหลายสัปดาห์แล้ว ส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลง
แต่นอกจากนั้นแล้ว สื่อท้องถิ่นยังอ้างถึงการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดว่าเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำได้ปล่อยน้ำออกเพื่อพยายามรักษาผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ท้ายน้ำแต่เนิ่นๆ แต่ความพยายามของพวกเขากลับไร้ผล โดยบริษัทที่รับผิดชอบในการจัดการทะเลสาบเริ่มขุดลอกเมื่อต้นปี 2567 โดยวางแผนที่จะปล่อยน้ำเพิ่มเติมลงในอ่างเก็บน้ำสำหรับปลา และเพื่อกำจัดตะกอนและเศษซาก
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงตัดสินใจปล่อยน้ำที่ถูกขุดจากอ่างเก็บน้ำออกสู่บริเวณท้ายน้ำ แทนที่จะปล่อยกลับคืนสู่อ่างเก็บน้ำ ส่งผลให้ระดับน้ำลดลงและทำให้ปลาตายตามที่ปรากฏเป็นข่าว ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ในช่วง 10 วันที่ผ่านมาชาวบ้านต้องทนกับกลิ่นในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งชาวบ้านต้องเดินเรือผ่านผืนน้ำขุ่นมัวของอ่างเก็บน้ำ ท่ามกลางซากปลาที่ตายแล้วลอยเกลื่อน ทั้งนี้ จังหวัด Dong Nai วัดอุณหภูมิได้ 40 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติเดิมเมื่อ 2 ทศวรรษก่อน
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนครั้งประวัติศาสตร์พร้อมสภาวะที่แผดเผา กระตุ้นให้เกิดมาตรการฉุกเฉินทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่ง แม็กซิมิเลียโน เฮอร์เรรา (Maximiliano Herrera) นักประวัติศาสตร์อุตุนิยมวิทยา เคยโพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์) ไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2567 ว่า คลื่นความร้อนในแถบเอเชียตะวันออก คือเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ภูมิอากาศโลก
เมื่อมองไปดูประเทศเพื่อนบ้านของเวียดนามอย่างกัมพูชา นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต (Hun Manet) ต้องออกประกาศปืดโรงเรียน รวมถึงเตรียมแผนสำรองน้ำฉุกเฉิน ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงถึง 43 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่ต่างจากชาติร่วมอาเซียนอย่างไทย ที่สถิติการใช้ไฟฟ้าพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ และมีรายงานอุณหภูมิสูงถึง 44 องศาเซลเซียส ที่ จ.อุดรธานี ขณะที่ ฟิลิปปินส์ อากาศร้อนได้ทำให้เมืองโบราณอายุ 300 ปี ที่เคยจมอยู่ใต้น้ำในโครงการก่อสร้างเขื่อน ได้ปรากฏให้ผู้คนมองเห็นได้ เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนลดลง และทางการก็สั่งให้จัดการเรียนการสอนทางออนไลน์แทนการมาเรียนที่โรงเรียน
ในภูมิภาคเอเชียใต้ บังกลาเทศสั่งปิดโรงเรียนหนีอากาศร้อนจัด ขณะที่อินเดีย มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 ราย ที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับโรคลมแดด ท่ามกลางการจัดการเลือกตั้งระดับชาติ ด้านองค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กร ต่างออกมาเตือนว่า ปี 2567 อาจร้อนถึงขั้นทุบสถิติปี 2566 ที่ผ่านมาก็เป็นได้
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.independent.co.uk/climate-change/news/vietnam-heatwave-asia-fish-die-off-b2538386.html
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี