ความคืบหน้ากรณีมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT ได้ติดตามพฤจิกรรมของรถปิกอัพคันหนึ่ง ซึ่งได้ขนสุนัขกว่า 10 ตัวแออัดอยู่ภายในกรงท้ายรถ โดยขับตระเวนไปแบบไร้จุดหมาย ก่อนที่จะสกัดจับได้ที่จ.สุพรรณบุรี เมื่อค่ำวานนี้ ( 14 เม.ย.) ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ขอบคุณจากใจ!! เพจดังแจ้งข่าวดี สกัดจับได้แล้วรถขนหมา จนมุมที่สุพรรณบุรี)
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT รายงานว่า ตำรวจสองโรงพักสกัดไม่อยู่ สาวแสบบุกรุกเข้ามาขนหมาที่ถูกอายัดไว้ขึ้นรถหนีไปแล้วหลัง WDT และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดบัวหลวง นำส่งหมาของกลาง 17 ชีวิต ที่ได้รับการอายัดไว้ให้อยู่ในความดูแลของมูลนิธิ เข้าที่พักพิงชั่วคราวกลางดึกเมื่อคืนวาน
สายวันนี้ สาวแสบเจ้าของหมาบุกเข้ามาขนหมากลับขึ้นรถขับฝ่าประตูออกไป ทั้งที่มูลนิธิมีข้อเสนอที่จะจัดหาสถานที่พักให้หมาก่อน เพื่อให้เจ้าของไปหาที่พักให้ได้โดยไม่ต้องเอาหมาไปเบียดเสียดและอบร้อนอยู่ในรถ ไปจนถึงโอกาสที่คนกับหมาจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
เนื่องจากเราได้พบว่าบริบทความรักที่เจ้าของมีต่อหมา ก็ไม่แพ้ความรักใดๆ ที่ทุกคนล้วนมีให้แก่สัตว์เลี้ยงของตนเอง จึงพยายามยื่นข้อเสนอ เพื่อเป็นทางออกที่ดี แต่กลับไม่เป็นผลโดยในเหตุการณ์วันนี้ มูลนิธิได้ประสานตำรวจ สภ.แสวงหา เข้ามาระงับเหตุแต่ไม่สามารถสกัดไว้ได้
พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.ลาดบัวหลวง จึงเตรียมออกหมายเรียกและหมายจับเพื่อไม่ให้มีการขนหมาออกไปตระเวนอย่างไม่มีจุดหมายได้อีก ต้องติดตามความเป็นไปกันอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ทาง WDT ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ สภ.บางปลาม้า และผู้กำกับ สภ.ลาดบัวหลวง เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าของหมาที่ตระเวนขนหมาเดินทางไปทั่วโดยไม่มีจุดหมาย ขณะนี้มูลนิธิได้ทำเอกสารกล่าวโทษในรายงานคดีอาญาและลงบันทึกประจำวันการนำน้องหมาเข้าพักพิงชั่วคราวที่จังหวัดอ่างทอง เตรียมขนย้ายอีกครั้งขึ้นเชียงใหม่ในการดูแลของมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม
สำหรับสาเหตุของเรื่องนี้ ยังไม่สามารถดำเนินการสอบสวนอย่างชัดเจนได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เนื่องจากเจ้าของเจรจาสับสน และไม่มีบัตรแสดงตนใดๆเลย จึงไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นคนไทยหรือเป็นคนลาว ที่สำคัญตอนนี้เจ้าของก็หายตัวไปแล้ว และไม่ทราบว่าจะกลับมาให้ปากคำที่ สภ.ลาดบัวหลวงได้เมื่อไหร่ มูลนิธิจำเป็นต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าของนำหมาไปแออัดยัดเยียดอยู่ท้ายรถกระบะแล้วตระเวนไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
โดยผู้ต้องสงสัยอ้างย้ายบ้านมาจากที่อยู่เดิมเพราะมีคนกลั่นแกล้งและรังแกหมา จึงหอบหมาทั้งหมดพร้อมแม่ตระเวนหาที่อยู่ใหม่ แต่จากการที่ประชาชนประสานแจ้งมาที่ WDT ตลอดมามีการพบเห็นรถคันนี้พร้อมกับบรรทุกหมาหลายครั้ง รวมทั้งที่ชายแดนหนองคาย ล่าสุดสารภาพว่า ใต้รถมีเอกสารจากประเทศลาวด้วย แต่ไม่ยอมรับว่าเป็นคนลาวทั้งๆที่ไม่มีเอกสารบัตรประจำตัวใดๆมาแสดง
ทั้งนี้ ในโลกโซเซียลได้แสดงความคิดเห็นมากมาย โดยส่วนใหญ่เห็นว่า หากเป็นไปตามที่มีการกล่าวอ้างจริง ก็เข้าใจในความรักสัตว์ของเจ้าของหมา แต่ขณะเดียวกันก็จะเป็นการทรมานสัตว์หรือไม่ที่จะต้องอยู่อุถดอู้ในท้ายกระบะแคบๆ ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ เมื่อมีผู้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือหาทางออกให้ ก็ควรจะพิจารณาและค่อยๆหาทางแก้ไขปัญหา อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อน้องหมาที่ตัวเองอ้างว่ารักและผูกพัน
ขอบคุณข้อมูล ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT