ตร.รวบทันควัน “ต้นคอลาย” ชักมีดจ้วง “อ้วนเป๋” เจ้าถิ่นปล่อยเช่าเสื่อริมหาดพัทยา อ้างแค้นถูกขโมยเงินตอนเมา แต่พยานระบุหักผลประโยชน์ธุรกิจมืด
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 16 เม.ย. ร.ต.อ.สราวุธ ศิลป์สาย รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุคนใช้อาวุธมีดแทงกันเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดขึ้นที่ บนชายหาดเมืองพัทยา ซอย 13/4 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนำกำลังสายตรวจ ฝ่ายสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบศพ นายทศพล แซ่ลิ้ม อายุ 38 ปี คนพิการประเภท 2-3 พิการด้านความพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย และความพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย เจ้าของฉายา “อ้วนเป๋” เป็นเจ้าถิ่นอาชีพปล่อยเช่าเสื่อริมชายหาด นอนจมกองเลือด สภาพถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่บริเวณกลางหน้าอก และปลายคิ้วข้างซ้าย จนเป็นฉกรรจ์ขนาดใหญ่ ใกล้กับเก้าอี้คู่ใจ และเสื่อ 2 ผืนที่รอปล่อยเช่าลูกค้า ท่ามกลางชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวที่มุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก
ส่วนคนร้ายหลังจากก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไป ตำรวจได้วิทยุสั่งการสกัดจับ สุดท้ายไม่รอดถูกตำรวจจราจรรวบตัวไว้ได้ทันควัน ที่บริเวณปากทางเข้าถนนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 100 เมตร ทราบชื่อคือ นายสมชาติ อัยลา อายุ 43 ปี หรือ “ต้น คอลาย” อยู่ในสภาพอาการมึนเมาสุรา ในมือถืออาวุธมีด ยาวประมาณ 1 ฟุต ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบสวนยัง สภ.เมืองพัทยา
สอบถามนายสมชาติ หรือ “ต้น คอลาย” ผู้ก่อเหตุให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งดื่มสุรากับกลุ่มเพื่อนบริเวณดังกล่าว จากนั้นได้เดินไปทวงเงินผู้ตายที่เก็บไว้ได้ เป็นแบงก์ 500 จำนวน 1 ใบ ซึ่งเงินดังกล่าวยืนยันว่าเป็นของพี่สาวที่โอนมาให้ ก่อนจะเดินไปกดตู้เอทีเอ็มแล้วเบิกเงินสด ก่อนกลับมานั่งดื่มต่อในวงเหล้า ด้วยความเมาเลยทำเงิน 500 บาท หล่นหายไป โดยผู้ตายพูดเองว่าเป็นคนเก็บเงินดังกล่าวไว้ได้ จึงเดินเข้าไปทักทวงอยู่หลายรอบแต่ผู้ตายไม่คืน เลยเกิดความโมโหชักอาวุธมีดที่ติดตัวมาจ้วงแทงผู้ตายไป 1 ครั้ง แล้ววิ่งหลบหนีไม่รอดถูกจับกุมได้
ขณะที่ น.ส.นาตยา สาธรณ์ อายุ 35 ปี พยานเห็นเหตุการณ์ ระบุว่า ได้เดินทางมาจากกรุงเทพ มาเล่นน้ำวันสงกรานต์ และนั่งพักผ่อนอยู่ที่ชายหาดเมืองพัทยา โดยตอนแรกเห็นทั้งคู่กำลังมีปากเสียงทะเลากันเรื่องเงิน ก่อนทั้งคู่จะแยกกัน สักพักไม่นานผู้ก่อเหตุได้เดินกลับมาหาผู้ตายอีกครั้ง และมีป่กเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนผู้ก่อเหตุจะชกต่อยทำร้ายร่างกาย แล้วแทงผู้ตายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เสียชีวิตคาที่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ด้าน นายบอย อายุ 25 ปี พยานซึ่งเป็นคนรู้จักผู้ก่อเหตุ ที่ยืนบริเวณเกิดเหตุ เล่าว่า ส่วนตัวคิดว่าเป็นการทวงเงินธุรกิจผิดกฎหมาย เนื่องจากเคยได้ยินข่าวว่า ผู้ตายไปรับยาเสพติดจากกรุงเทพมหานคร แล้วส่งต่อให้ผู้ตายไปจำหน่ายต่อให้กับกลุ่มวัยรุ่น และนักท่องเที่ยวตามชายหาด แต่เกิดหักผลประโยชน์กัน ซึ่งผู้ตายโดนเชิดเงินค่าของ ผู้ตายจึงได้ทักทวงเสียงดัง “เงินกูอยู่ไหน” จึงทำให้ผู้ก่อเหตุโกรธแค้นกระโดดเตะเสยหน้าและใช้มีดจ้วงแทงดังกล่าว
เบื้องต้นจากการสอบสวน ผู้ก่อเหตุ ยังคงให้การวกไปวนมา และขัดแย้งกับพยาน เนื่องจากเมาสุราอย่างหนัก ส่วนที่พยานระบุว่า หักผลประโยชน์ และทวงเงินเรื่องธุรกิจผิดกฎหมาย ตำรวจคงต้องรอผู้ก่อเหตุ สร่างเมาเสียก่อน เพื่อจะสอบในเรื่องประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติม โดยจากการตรวจสอบประวัติ ผู้ก่อเหตุ พบว่าเคยถูกจับกุมมาแล้ว 6 ครั้ง และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อ 16 มกราคม ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี