โคราชงานเข้าตรวจโควิดเข้าข่าย 187 ราย ตรวจ ATK – PCR พบ 19 รายหรือ 10% ติดจริง หมอเจษฏ์ฯเผย นอน รพ. 5 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 2 ราย ชี้โควิดตัวใหม่ มีอาการในเยื่อบุต่างๆที่อยู่รอบจมูก
17 เมษายน 2566 นายแพทย์เจษฏ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หัวหน้าศูนย์วัคซีนโควิดฯ จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และช่วงหลังสงกรานต์ว่า 9-15 เม.ย. 66 ว่า จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.เป็นต้นมามีจำนวนผู้ป่วยเข้าข่ายสงสัยว่าเป็นโควิดทั้งหมด 187 คนที่เราได้รับการตรวจ ทั้ง ATK และ PCR ที่คอนเฟิร์มมีทั้งหมด 10% คือ 19 คนที่พบเชื้อว่าเป็นโควิดจริง และทั้ง 19 คนในช่วง 5-6 วันที่ปผ่านมาเราได้รับการรักษาในการนอนโรงพยาบาลมหาราชจำนวน 5 คน ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นจำนวนคนไข้ที่น้อย
นายแพทย์เจษฏ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หัวหน้าศูนย์วัคซีนโควิดฯ นครราชสีมา
แต่คาดว่าเราต้องดูอีกทีในช่วงหลังสงกรานต์ 7 วัน ซึ่งตนคิดว่าอาการตัวเชื้อตัวใหม่ที่มีข่าวขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของมีอาการในเยื่อบุต่างๆที่อยู่รอบจมูก เช่น เยื่อบุตา เยื่อบุโพรงจมูก มีอาการแดง มีอาการที่อักเสบมากขึ้น อาการที่จะพบเช่นเรื่องของตาแดง ไม่ว่าจะตาแดงหนึ่งข้างหรือตาแดงสองข้าง หรือว่าเรื่องจมูกที่มีอาการเลือดกำเดาออกอันนี้อาจจะต้องระวังไว้ด้วย เพราะมันจะไม่ค่อยคล้ายกับตัวโควิดแรกๆซึ่งตอนโควิดแรกๆเราจะได้ยินเรื่องของลิ้นไม่ได้รด จมูกไม่ได้กลิ่น แต่ตอนนี้มันจะเริ่มปรับไปในเรื่องของตัวไวรัสมันจะไปลงที่ตัวเยื่อบุต่างๆรอบๆร่างกาย
โดยเฉพาะบริเวณตา กับบริเวณจมูก อันนี้เป๋นเรื่องที่ต้องรู้ เพราะว่าการที่มีอาการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันไป ส่วนคนไข้ที่รับการรักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ทั้งหมด 5 รายมีอยู่ 2 รายที่ใส่ท่อช่วยหายใจ ตอนนี้ได้รับการรักษาดูแลอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจริงแล้วต้องแจ่งอย่างนี้ว่าในช่วงก่อนหน้าช่วงสงกรานต์เรามีคนไข้ที่รอการรักษาที่ รพ.มหาราชฯอยู่วันละ 1-2 คน ตอนช่วงสงกรานต์คิดว่าน่าจะมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเหมือนตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือโรงเรียนแพทย์ต่างๆเริ่มรายงานว่าอาจจะมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นประมาณ 2 - 2.5 เท่า ตนคิดว่าเป็นแนวโน้มในทางเดียวกัน ส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิดช่วงนี้ยังไม่มี
ทั้งนี้หลังจากนี้ไป 7 วันการสังเกตอาการตัวเองว่าสงสัยติดเชื้อนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ก็จะมีบางกลุ่มที่เรารู้สึกว่าเราเริ่มปรับตัวกับโควิดได้แล้ว หรือบางกลุ่มที่ยังกังวลอยู่ ฉะนั้นจริงๆแล้วหลายๆที่พรุ่งนี้(18 เม.ย.)วันแรกที่ทำงาน เด็กๆนักเรียนหลายคนที่เรียนซัมเมอร์ก็จะกลับไปโรงเรียน ฉะนั้นเรื่องการสกรีนนิ่งเหมือนเดิมตนคิดว่า ATK หลายๆที่หลายๆบ้านน่าจะยังมีอยู่และหลายๆที่ก็บอกว่าก็ยังจำเป็นในการที่จะเข้าไปใช้ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
เช่น เด็กนักเรียน หรือผู้สูงอายุ หรือคนที่ไปในสถานที่ที่แออัดหนาแน่นและตัวเองมีภูมิคุ้มกันต่ำอันนี้จำเป็นที่จะต้องตรวจเช็ค ATK ก่อนให้ดี รวมทั้งช่วงนี้ช่วงเลือกตั้งการปราศรัยหาเสียงจำนวนคนมกหนาแน่นขนัดเรื่องนี้ ตนคิดว่าการปรับชีวิตให้เป็นนิว นอร์มอลก็อาจจะต้องพีคตรงนี้ให้สำคัญและเมื่อไรที่เรารู้วันตัวเองจะต้องเข้าไปอยู่ในจุดที่มีผู้คนหนาแน่น ในจุดที่มีการตะโกนโดยเฉพาะการหาเสียงมีการตะโกนมีการโห่ร้องมีความสนุกมากขึ้นอันนี้อาจจะต้องระวังไว้นิดนึง และหลายๆคนที่ออกไปตนไม่ได้ห่วงเราะร่างกายเขาแข็งแรงอยู่แล้วและคนที่เคยเป็นมาแล้วหลายครั้งจะรู้เลยว่าการมีอาการก็เพียงเล็กน้อย ไม่รุนแรงเหมือนครั้งแรก
แต่ที่เป็นห่วงคนที่อยู่ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก เด็กเล็ก คนสูงอายุ คนที่ป่วยติดเตียงอันนี้ต้องระวังมากๆเลย ฉะนั้นเมื่อเรารู้หรือมีอาการต้องแยกตัวเอง เราต้องกักตัวเองต่างหาก ไม่ไปรวมกัน ไม่กินข้าวรวมกับ ไม่ไปกอดจูบกัน ตรงนี้น่าจะช่วยให้หลายๆคนลดจำนวนการติดเชื้อโควิดไปได้ อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นน่าจะมีแค่ 7-14 วันและจะกลับมาสู่ปกติเหมือนก่อนช่วงสงกรานต์ ฉะนั้นอยากให้ทุกคนสบายใจได้ว่ามันจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ ไม่ได้กว้างมากและเชื่อว่าทุกโรงพยาบาลก็มีการเตรียมยาและเตรียมการรักษาไว้ได้ดี.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี