ชาวบางกลอยจัดรำลึก 9 ปี“บิลลี่” ถูกอุ้มหาย “มึนอ”-ลูกถือป้าย “ที่นี่มีคนหาย” วอนนายกฯ ลงนามตามข้อเสนอ กก.อิสระให้ชาวบ้านที่ต้องการคืนถิ่นดั้งเดิมได้กลับป่าใหญ่
วันที่ 17 เมษายน 2566 ที่บริเวณด่านเขามะเร็ว อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ชาวบ้านบางกลอยประมาณ 50 คนได้ร่วมกันจัดงานรำลึกการหายตัวไปของ “บิลลี่” หรือนายพอละจี รักจงเจริญ โดยนายนอแอะ มีมิ ผู้อาวุโสประจำชุมชนบางกลอย บุตรชายปู่คออี้ ได้เป็นผู้เริ่มต้นจุดเทียนอธิษฐานถึงบิลลี่ หลังจากนั้น น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมึนอ อดีตภรรยาบิลลี่พร้อม ด.ช.วี วัย 10 ขวบ บุตรชายคนเล็กของบิลลี่และมึนอ ได้ร่วมกันจุดเทียน พร้อมถือป้าย “ที่นี่มีคนหาย” ขณะที่ชาวบ้านต่างทยอยกันจุดเทียนรำลึกถึงบิลลี่เช่นกัน
หลังจากนั้นทั้งหมดร่วมกันถือป้ายที่เขียนว่า “9 ปีบิลลี่หาย พวกเรายังตามหา” บริเวณป้อมด่านเขามะเร็วซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่มีคนเห็นบิลลี่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ควบคุมตัวและหายตัวไป โดยนายพงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ชาวบ้านบางกลอย กล่าวว่า การจัดพิธีที่ด่านเขามะเร็วในวันนี้เพราะชาวบ้านต้องการรำลึก 9 ปีที่บิลลี่หายไป และในวันที่ 24 เมษายน 2566 จะมีการไต่สวนคดีบิลลี่ โดยแม่ของบิลลี่และมึนอ จะเดินทางไปให้ปากคำ ก็หวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะอำนวยความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนได้
มึนอกล่าวว่า 9 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่บิลลี่หายไปและปัญหาที่เขาต่อสู้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งเรื่องที่ดินทำกินและความเดือนร้อนของชาวบางกลอย ชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบากโดยชาวบ้านต้องการกลับไปทำมาหากินในพื้นที่ดั้งเดิมของบรรพบุรุษซึ่งมีข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการลงนาม
“มีความพยายามบอกว่าปัญหาของชาวบางกลอยได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ในความเป็นจริงญาติพี่น้องของบิลลี่ยังประสบปัญหาและไม่ได้รับการแก้ไขใดๆ อยากให้เขาอธิบายเป็นข้อๆให้ชัดเจนมาเลยว่าได้แก้ไขอะไรไปบ้างแล้ว ไม่ใช่กล่าวลอยๆ สำหรับพวกเราแล้วเห็นว่ามันยังไม่ได้รับการแก้ไขอะไรเลย” มึนอ กล่าว
ขณะที่นางกิ้บ ต้นน้ำเพชร ชาวบ้านบางกลอยกล่าวว่า เรายังคิดถึงบิลลี่ ความหวังที่บิลลี่พยายามต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ทำกิน สิทธิชุมชน ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ในการที่จะขึ้นศาลในคดีการหายตัวไปของบิลลี่นั้น ก็ยังมีความหวังในกระบวนการยุติธรรม หวังว่าคนผิดจะถูกดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมาย คนที่ทำบิลลี่ เขาจะได้รับผิดหรือไม่ เขามีคนช่วย มีตัวแทน เขาจะถูกลงโทษตามกฎหมายหรือไม่ และขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ลงนามในข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระฯ ที่มีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ทั้งนี้ข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระฯระบุว่า กรณีกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านบางกลอยที่ประสงค์จะอยู่อาศัยในพื้นที่ชุมชนบ้านบางกลอย หมู่ 1 (บริเวณพื้นที่ตั้งชุมชนปัจจุบัน) จำนวนประชากร 732 คน ใช้แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการส่งเสริมอาชีพโดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณภาพ และให้การเยียวยากลุ่มราษฎรที่ได้รับผลกระทบ จากการโยกย้ายชุมชน
กรณีกลุ่มชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยที่ประสงค์จะกลับไปดำรงวิถีชีวิตด้วยระบบเกษตรแบบไร่หมุนเวียนในพื้นที่บางกลอยบน (พื้นที่เดิมของชุมชนก่อนถูกโยกย้าย) จำนวน 150 คน ใช้แนวทางพัฒนาพื้นที่ต้นแบบส่งเสริมระบบเกษตรแบบไร่หมุนเวียน ตามหลักการคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฯมาตรา 70 และมติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553 โดยดำเนินการผ่านการจัดโครงการศึกษาเชิงทดลองแบบมีส่วนร่วม โดยมอบหมายให้ ทส. แต่งตั้งคณะทำงานร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์ ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยประสงค์จะกลับไปดำรงวิถีชีวิตด้วยระบบเกษตรแบบไร่หมุนเวียน คณะกรรมการอิสระฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)ดำเนินการสำรวจการใช้ประโยชน์พื้นที่ตามวิถีวัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย และจัดทำแผนที่ระบุขอบเขตการใช้ประโยชน์ทีดินตามมาตรา 64 และจัดทำแผนบริหารจัดการพื้นที่พร้อมกำหนดมาตรการกำกับดูแลการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างสมดุลและยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี