ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกับ สภ.คลองลึกฯจับกุมสาวชาวลาวใช้หนังสือเดินทางที่มีรอยตราประทับอยู่ต่อปลอม ขณะจะเดินทางออกไปประเทศกัมพูชาที่ ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

23 เมษายน 2566 เมื่อเวลา 08.00 น. ขณะที่ พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.พัมนชัยภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก,พ.ต.ท.จิรพัฒน์ เขียวศิริ สว.ส.ทท.สระแก้ว(สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยวสระแก้ว)และ กองร้อยทหารพรานที่1302ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่13 (ร้อย ทพ.1302ชค.ทพ.13) สนธิกำลังร่วมกันเฝ้าตรวจบริเวณ ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 

ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ ตม.ประจำจุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกราชอาณาจักร ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ว่าเครื่องไบโอเมตริกซ์ (เครื่องตรวจพิสูจน์บุคคล) ได้ตรวจพบหญิงสาวชาวลาวใช้หนังสือเดินทางที่มีรอยตราประทับปลอม หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบ น.ส.ภูเงิน  อายุ 30 ปี ถือหนังสือเดินทางสัญชาติลาว 

จากการตรวจสอบในหนังสือเดินทางพบมีรอยตราประทับการขออนุญาตอยู่ต่อปลอม จำนวน 2 รอยตรา จึงควบคุมตัว น.ส.ภูเงิน สาวชาว สปป.ลาว มาสอบสวนที่ห้องสอบสวน ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

จากการสอบสวน น.ส.ภูเงิน อ้างว่า ทำงานอยู่ที่พระนครศรีอยุธยา เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2565 การอนุญาตอยุ่ในประเทศไทยของตนได้หมดอายุลง เพื่อนได้แนะนำให้ไปติดต่อกับคนไทยชื่อ 'เจ๊มัด' (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ซึ่งสามารถนำหนังสือเดินทางไปต่อการอนุญาตอยู่ต่อให้ได้ โดยเสียค่าดำเนินการเป็นเงิน 1,000 บาท และไม่ต้องเดินทางไปด้วยตนเอง โดยนำพาสปอร์ตไปให้เจ๊มัดที่ร้านมิดี้คาราโอเกะ ประตูน้ำพระอินทร์ราชา อ.บางประอินทร์ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยไม่รู้ว่าเป็นรอยตราประทับปลอม

จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา "ใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราที่ทำปลอมขึ้น" ตามประมวลกฎหมายอาญา และ"เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาราจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด" ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดี และสืบสวนขยายผลจับกุมขบวนการปลอมรอยตราประทับในพาสปอร์ตมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.012