นายกฯห่วงยอดป่วยโควิดพุ่ง2เท่า
สั่งสธ.จับตาXBB.1.16
เฝ้าระวังจว.ใหญ่เมืองท่องเที่ยว
‘กทม.-เชียงใหม่-ภูเก็ต-ชลบุรี’
ติดเชื้อในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น
ย้ำปชช.-กลุ่ม608เร่งฉีดวัคซีน
นายกฯห่วง ปชช. หลังกรมควบคุมโรครายงานผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ประจำสัปดาห์เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 2 เท่า และกระจายหลายจังหวัดโดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่าง “กทม.-เชียงใหม่-ภูเก็ต-ชลบุรี”ติดเชื้อระหว่างคนในครอบครัว ย้ำขอให้ทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 เร่งรีบเข้ารับวัคซีนพร้อมสั่ง สธ.ประเมินสถานการณ์ระบาดและติดตามสายพันธุ์ XBB.1.16 ใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 นายอนุชาบูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้ และรับทราบสถานการณ์ระบาดในประเทศรายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 16-22 เมษายน ตามรายงานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น นายกฯเป็นห่วงประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 ขอให้รีบเข้ารับวัคซีนที่สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้านโดยเร็ว พร้อมสั่งให้กระทรวงสาธารณสุขติดตามสถานการณ์โควิด และการระบาดของเชื้อสายพันธุ์โควิด XBB.1.16 อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ จากข้อมูลกรมควบคุมโรค ผู้ป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนกว่า 2 เท่า พบกระจายหลายจังหวัดโดยเฉพาะเมืองใหญ่เมืองท่องเที่ยว ที่มีประชากรหนาแน่น เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อระหว่างสมาชิกครอบครัว และการร่วมกิจกรรมที่รวมกลุ่มคนจำนวนมาก และผู้เสียชีวิตเป็นกลุ่ม 608 อายุเฉลี่ย 75 ปี ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนมาก่อน และมีบางส่วนไม่ได้รับเข็มกระตุ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เมื่อติดเชื้อแล้วอาการรุนแรง ดังนั้น การฉีดวัคซีนหรือวัคซีนเข็มกระตุ้นยังจำเป็นมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง 608 จะช่วยลดอาการหนักและเสียชีวิตได้ ส่วนผู้ที่มีปัญหาเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป หรือ LAAB ได้เช่นกัน ติดต่อขอรับบริการได้ที่สถานบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้าน
นายอนุชายังกล่าวถึงกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขเผยข้อมูลโควิด XBB.1.16 ซึ่งเป็นลูกผสมของสายพันธุ์โอมิครอน BA.2.10.1 และ BA.2.75 ว่า การระบาดมีแนวโน้มพบเพิ่มขึ้น แพร่กระจายได้ดีกว่า XBB.1.5 ความสามารถหลบภูมิคุ้มกันได้ดี ยังไม่มีหลักฐานแสดงว่าทำให้โรครุนแรงขึ้น อาการที่พบคือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก อาจพบเยื่อบุตาอักเสบ คันตา ตาเหนียวร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม สธ.ชี้แจงว่า กรณีเชื้อสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 นั้น เป็นธรรมชาติของเชื้อไวรัสที่จะกลายพันธุ์ตลอดเวลา แต่ยังคงเป็นลูกผสมของสายพันธุ์โอมิครอนเดิม และไม่ได้รุนแรงไปกว่าสายพันธุ์เดิม ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดเพิ่มขึ้น เป็นไปตามการคาดการณ์ของกรมควบคุมโรค และไม่ได้รุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกัน ทั้งจากการติดเชื้อและการได้รับวัคซีน
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขคาดว่าการระบาดของโควิด-19 จะสูงขึ้นช่วงฤดูฝน จึงปรับคำแนะนำแนวทางการฉีดวัคซีนใหม่ ให้เป็นการฉีดวัคซีนโควิดประจำปี จึงขอให้ประชาชนเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดประจำปีก่อนเข้าฤดูฝน ซึ่งเริ่มฉีดปี 2566 เป็นปีแรก โดยฉีดปีละ 1 เข็ม ใช้วัคซีนชนิดใด หรือรุ่นใดก็ได้ โดยให้ห่างจากเข็มสุดท้าย หรือประวัติการติดเชื้ออย่างน้อย 3 เดือน และไม่ต้องนับว่าเป็นเข็มที่เท่าใด อีกทั้งสามารถฉีดพร้อมกับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ โดยฉีดที่ต้นแขนคนละข้าง นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุข เลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ควรสวมหน้ากากอนามัยหากต้องไปร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากหรือไปในที่สาธารณะ
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความระบุ อาร์คทูรัส (Arcturus) XBB.1.16 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว พบรุ่นลูกรุ่นหลานแล้วในไทย และเผยว่า ได้วิเคราะห์ข้อมูลรหัสพันธุกรรมจากฐานข้อมูลโควิดโลก หรือจีเสส (GISAID)” เมื่อวันที่ 24 เมษายน พบ XBB.1.16 ทั่วโลก 3,439 ราย ไทยพบ 24 ราย รุ่นลูก XBB.1.16.1 ทั่วโลกพบ 909 ราย ไทยพบ 1 ราย
รุ่นหลาน XBB.1.16.1.1 ทั่วโลกพบ 122 ราย ประเทศไทยยังไม่พบ XBB.1.16.1.2 ทั่วโลกพบ 68 ราย ประเทศไทยยังไม่พบ XBB.1.16.2 (ORF3a:V13L, ORF1a:P926H) ทั่วโลกพบ 232 ราย ประเทศไทยพบ 6 ราย XBB.1.16.3 (A2893C) ทั่วโลกพบ 72 ราย ประเทศไทยพบ 1 ราย
ศูนย์จีโนมฯ รพ. รามาธิบดี ได้วิเคราะห์จากรหัสพันธุกรรมโควิดทั้งจีโนมพบว่า โอมิครอนลูกผสม XBB.1.16.1 ได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาดเหนือกว่า XBB.1.16 ประมาณ 9% โอมิครอนลูกผสม XBB.1.16.1.1 ได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด เหนือกว่า XBB.1.16 ประมาณ 29% โอมิครอนลูกผสม XBB.1.16.1.2 ได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด เหนือกว่า XBB.1.16 ประมาณ 20% โอมิครอนลูกผสม XBB.1.16.2 ได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาดเหนือกว่า XBB.1.16 ประมาณ 1%
“สรุป ความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด ระหว่าง XBB.1.16 และ XBB.1.16 ที่กลายพันธุ์ไปในรุ่นลูกรุ่ม หลาน ไม่แตกต่างกันมากนัก ในอาเซียนประเมินว่าสิงคโปร์จะมีการระบาดของโอมิครอนลูกผสมสายพันธุ์ย่อย XBB.1.16 มากที่สุด ส่วนโอมิครอน XBB.1.16 รุ่นลูก หรือรุ่นหลานจะกลายพันธุ์ก่อให้เกิดอาการติดเชื้อรุนแรงหรือไม่ ต้องเฝ้าติดตาม”ศูนย์จีโนมฯระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี