เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 28 เมษายน 2566 ที่ สภ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บังคับบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงข่าวตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ร่วมกับอาสาอำเภอเมืองนครปฐม จับกุมนายชานน พลเยี่ยม หรือเบิร์ด อายุ 24 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 271 ม.2 ต.โป่งเปือย อ.เมือง จ.บึงกาฬ พร้อมยึดมีดคัตเตอร์เปื้อนเลือดที่ใช้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายหนูมอณ ศรีโท คนขับแท็กซี่เขียว เหลือง ทะเบียน 1มค-499 กทม. ที่ได้ว่าจ้างมาจาก กทม.ให้มาส่งแถววัดไผ่ล้อม อ.เมือง นครปฐม

จากการสอบถามนายชานน ให้การรับสารภาพว่า ต้องการชิงรถแท็กซี่คันดังกล่าวเพื่อใช้เป็นยานพาหนะในการที่จะไปก่อเหตุปล้นร้านทองใน กทม. ซึ่งจากการสอบถามนายชานน ว่าถูกจับคราวนี้สำนึกหรือไม่นายชานน บอกว่า เฉยๆ เข้าคุกเดี๋ยวก็ออก และถ้าเจอตำรวจก็ยิงสู้ ก็แค่ตายไม่เห็นมีอะไร

ด้าน พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า นายชานนฯ เป็นบุคคลอันตราย เพราะพร้อมที่จะก่อเหตุ และแต่ละครั้งมีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบแผนโจรกรรมร้านทองที่ไปซุ่มดูไว้แล้ว พร้อมเส้นทางหลบหนีหากได้รถแม็กซี่คันนี้  และยังพบมีดยาว 1 เล่ม มีดสั้น 1 เล่ม เหล็กแหลม 1 อันใบมีดคัตเตอร์ มีดตัดกระจกที่เตรียมมา เคสนี้ต้องยอมรับว่าคนขับแท็กซี่มีสติดี เมื่อถูกมีดคัตเตอร์ปาดคอถึงสามทียังตั้งสติบีบแตรรถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ และชนรถที่จอดข้างทาง ทำให้คนร้ายกลัวจึงเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีปีนรั่วเข้าไปในที่ว่าการ อำเภอเมืองนครปฐม ซึ่งมีอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) และผู้ใหญ่บ้านเข้าเวรอยู่จึงจับกุมไว้ได้ ขณะที่นายหนูมอณ มีบาดแผลถูกมีดคัตเตอร์ปาดที่คอ ได้รับบาดเจ็บขณะนี้อาการดีขึ้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา พยายามชิงทรัพย์และพยายามฆ่าผู้อื่น

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อ 22.40 น.วันที่27 เมษายน นายชานน พลเยี่ยม หรือเบิร์ด หลังใช้ มีคัตเตอร์ ปาดคอคนขับแท็กซี่แล้วได้กระโดดข้ามรั้วกำแพงที่ว่าการอำเภอเข้าเมาหลบอยู่ที่ข้างห้องป้องกันในสภาพตัวเปื้อนเลือด  เจ้าหน้าที่เวร และ อส.จึงเข้าไปสอบถามนายชานนว่าเป็นอะไรตัวเปลื้อนเลือด นายชานนอ้างว่า ทะเลาะกันมา เลยเอามีดแทง ขอหลบตัวในนี้ก่อน อส.จึงวิทยุแจ้งร้อยเวรฯมา ขณะนั้นทางโรงพยาบาลนครปฐม แจ้งว่ามีคนขับแท็กซี่ถูกทำร้ายร่างกาย ใช้มีดแทงคอมารักษาตัว จึงควบคูมตัวนายชานนไว้ ส่วนนายหนูมอณ คนขับแท็กซี่แพทย์รับตัวไว้นักษาบาดแผลที่ลำคอ อาการปลอดภัยแล้ว

ด้านนายชานน พลเยี่ยม หรือเบิร์ด ให้การรับสารภาพโดยไม่สะทกสะท้าน และว่าได้เรียกแท็กซี่มาจากกรุงเทพมหานครให้มาส่งที่วัดไผ่ล้อม เมื่อมาถึงถนนเทศาซอย 10 เป็นซอยระหว่างศาลแขวงนครปฐมกับที่ว่าการอำเภอเมืองนครปฐม นายชานน ให้คนขับเลี้ยวเข้าซอย เมื่อรถเข้าซอยเป็นซอยเปรี่ยว จึงลงเลือกใช้มีดคัตเตอร์ ลงมือปาดคอไปสามที คนขับบีบแตรรถเสียงดังลั่นซอยจึงเปิดประตูวิ่งหนี ปีนข้ามรั้วเข้าไปหลบซ่อน ไม่รู้ด้วว่าเป็นที่ว่าการอำเภอ

ขณะที่นายหนูมอณ ศรีโท คนขับแท็กซี่ กล่าวว่า เมื่อคนร้ายใช้มีดคัตเตอร์แทงและปาดที่คอ พยายามตั้งสติแล้วบีบแตรเพื่อหวังให้มีคนช่วย และคนร้ายตกใจเปิดประตูนถวิ่งหลบหนี ตัวเองก็ตกใจเห็นเลือดออก จึงรีบขับรถไปโรง พยาบาล ยังเสียหลักไปชนรถของชาวบ้านเสียหายอีกด้วย ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการควบคุม และแจ้งข้อหา และดำเนินคดี นำตัวผู้ต้องหาฝากขัง และพรุ่งนี้( 29 เม.ย.) นำตัวส่งศาลจังหวัดนครปฐมต่อไป