7 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีน.ส.เสาวณี อายุ 37 ปี หรือ “มด” อดีตภรรยานายยงยุทธ หรือ “เสี่ยปาน 30 ล้าน” ชาวบ้านหนองบ่อ อ.หนองหาน ที่เคยถูกล็อตเตอร์รี่ รางวัลที่ 1 จำนวน 5 ใบ เมื่องวดวันที่ 16 ก.ย.58 หมายเลข 743148 เป็นเศรษฐี 30 ล้านบาท แต่การถูกรางวัลที่ 1 เสี่ยปานก็เหมือนทุกขลาภเมื่อต้องมาจบชีวิตด้วยโรคมะเร็งทวารหนักเมื่อวันที่ 13 พ.ค.65 และมีปัญหาเรื่องมรดกวุ่นวายตามมา
หลังจากเสียชีวิตเสี่ยปาน 30 ล้านได้เขียนพินัยกรรมมอบเงินจำนวน 3 ล้านให้กับลูกชายวัย 8 ขวบ แต่น.ส.สุธีรา หรือ “เก้า” ซึ่งเป็นพี่สาวของเสี่ยปานและเป็นผจก.มรดกไม่ทำตามพินัยกรรมหอบเงินที่ขายที่ได้หลายล้านหนี และไม่ยอมมอบเงินให้ลูกชายเสี่ยปานตามพินัยกรรม จนอดีตภรรยาต้องยื่นฟ้องต่อศาล จ.อุดรธานี ทั้งอาญาและแพ่ง ในข้อหายักยอกทรัพย์
ต่อมาศาลจ.อุดรธานี ได้ออกหมายจับ ที่ 186/2566 ลงวันที่ 3 เมษายน 2566 แจ้งข้อหากับ น.ส.สุธีรา ในข้อหากระทำความผิดฐาน ยักยอก จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อ น.ส.สุธีรา ผจก.มรดกของเสี่ยปาน 30 ล้านได้ พร้อมกันนี้ยังตั้งรางวัลนำจับป้าเก้าเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท
หลังจากน้องมดและป้าติ๋วพี่สาวของคนโตเสี่ยปาน 30 ล้าน ได้บุกไปทวงเงินกับป้าเก้า แต่ไม่อยู่พบเพียงนายพจน สามีของป้าพจน์ และมีการโต้เถียงกันอย่างเดือด โดยนายพจน์บอกว่า ไม่ยอมยกที่ดินและร้านก๋วยเตี๋ยวให้น้องมด เมียหนีไปแล้วและหอบเงินไปด้วย โดยน้องมดขอที่ดินและตรงที่เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวแทน เพราะถือเป็นสมบัติของเสี่ยปานที่ยังเหลืออยู่ แต่นายพจน์กลับไม่ยอม พร้อมบอกว่าขอให้ขายก่อนได้เงินแล้วจะโอนให้ แต่ป้าติ๋วและน้องมดไม่เชื่อโกหกคำโตเพราะเลื่อนนัดมาหลายครั้งแล้ว ทำให้ตกลงกันไม่ได้
ล่าสุดวันนี้ น้องมดได้นำป้ายไวนิลขนาดใหญ่ที่พิมพ์ข้อความระบุว่า “ห้ามจำหน่าย จ่าย-โอน ที่ดินแปลงนี้” มาติดที่บ้านเลขที่ 329 ม.7 ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นของเสี่ยปาน 30 ล้านที่หลงเหลืออยู่ แต่ปรากฎว่าพอน้องมดไปติดป้ายตอนเช้า ตกบ่ายมามีมือดีไปถอดเรียบร้อยแล้ว และในวันนี้ น้องมดจะเดินทางไปที่ศาลจ.อุดรธานี เพื่อให้ทนายยื่นต่อศาลเพื่อให้เพิกถอน ผจก.มรดกคือป้าเก้า หลังจากยักยอกเงินและหอบเงินหลายล้านหนีไม่ยอมเอามาให้ลูกชายเสี่ยปาน
น้องมด เปิดเผยว่า ที่ดินแปลงนี้ ถือเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายของเสี่ยปาน ซึ่งได้ซื้อมาหลังจากถูกรางวัลที่ 1 ในราคา 1.7 ล้านบาท จากพ่อเรืองเดช โดยเสี่ยปานได้บอกกับชาวบ้านทั่วไปว่า ที่ดินตรงนี้ จะให้น้องเกาลัด ลูกชาย และเมื่อลูกชายมาหา เสี่ยปานก็พูดกับลูกชายตลอดว่า ที่ดินตรงนี้เป็นของน้องเกาลัด พ่อจะให้น้องเกาลัด ล่าสุด ก่อนเสี่ยปานจะเสียชีวิต ได้มีการ ทำพินัยกรรมให้ น.ส.สุธีรา หรือ ป้าเก้า พี่สาวเสี่ยปาน เป็นผู้จัดการมรดกโดย ระบุอย่างชัดเจนว่า บ้านพร้อมที่ดิน ให้ขาย และนำเงินที่ได้มอบให้น้องเกาลัด เป็นจำนวน 3 ล้านบาท โดยให้เข้าบัญชีน้องเกาลัด 2 ล้านบาท ส่วนอีก 1 ล้านให้โอนให้น้องเกาลัด เดือนละ 7 พันบาททุกเดือนจนกว่าจะครบจำนวน 1 ล้านบาท เมื่อประกาศขายบ้านได้แล้ว (โดยขายให้กับญาติของสามีใหม่ ป้าเก้า ) ปรากฎว่า ป้าเก้า ไม่ปฏิบัติตามพินัยกรรมที่ระบุเอาไว้ ได้หอบเงินหนีทั้งหมด น้องเกาลัด ไม่ได้เงินแม่แต่บาทเดียว ป้าเก้า หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง จนกระทั่งตนได้ไปร้องต่อศาลจังหวัดอุดรธานีมีการออกหมายเรียกและหมายจับ ที่ 186/2566 ลงวันที่ 3 เม.ย. 2566
ที่ดินตรงนี้ เป็นของเสี่ยปาน ซึ่งทนายความได้บอกว่า เมื่อ ป้าเก้า ไม่ปฏิบัติตามพินัยกรรมที่ระบุเอาไว้ ก็เป็นอันยกเลิกผู้จัดการมรดก ไม่สามารถที่จะทำธุรกรรมใดๆ ได้ และน้องเกาลัดเป็นลูกชายโดยสายเลือด มีสิทธิ์ในที่ดินผืนนี้ เพียงผู้เดียว ตนจึงมาติดป้ายประกาศ เพื่อลูกชายของเสี่ยปาน จะได้สิทธิ์ครอบครองที่ดินผืนนี้เป็นผืนสุดท้ายที่ยังคงมี ตนพยายามติดต่อ ป้าเก้าตลอด แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โทรศัพท์ถูกยกเลิก
สำหรับรถยนต์ที่คิดว่าจะนำไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อเอาเงินออกมาต่อสู้เรื่องคดีความนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้เอารถไปจำนำ จะขอใช้เงินที่เหลืออยู่ตอนนี้เป็นค่าใช้จ่ายในการสู้คดีก่อน ให้สุดทางหมดหนทางจริงๆ ตนจะนำรถไปจำนำไว้ ฝากถึงป้าเก้าอีกครั้งว่าหากดูอยู่ก็ขอให้กลับมาคุยกันให้รู้เรื่อง คิดถึงหลานชายคือลูกชายเสี่ยปานด้วย.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี