ปอศ.รวบหนุ่มเมืองสิงห์ โพสต์ขายแบงก์พันปลอมทางทวิตเตอร์ ใครซื้อโดนด้วย
11 พฤษภาคม 2566 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.พัฒนา ฉายาวัฒน์ รอง ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ป.ปฏิบัติราชการ รอง ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. , พ.ต.ท.วีระชน หล่าสกุล , พ.ต.ท.กริช วรทัต, พ.ต.ท.วิวัฒนชัย คลื่นแก้ว รอง ผกก.5 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัต สว.กก.5 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายกฤษฎา อายุ 25 ปีโดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ปลอมเงินตรา” โดยจับกุมได้ที่สถานที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่วันที่ 10 พฤษภาคม 2566
สืบเนื่องมาจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีผู้ใช้งานทวิตเตอร์มีการโพสต์ประกาศโฆษณาเชิญชวนเกี่ยวกับจำหน่ายธนบัตรชนิดใบละ 1,000 บาท ปลอม จึงประสานความร่วมมือมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.5 บก.ปอศ. ให้ดำเนินการสืบสวน ตรวจสอบ เนื่องจากหากมีผู้นำธนบัตรปลอมไปชำระสินค้าและบริการ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ดังกล่าว คือ นายกฤษฎา มีการจำหน่ายธนบัตรปลอมจริง โดยจำหน่ายธนบัตรปลอมมูลค่า 1,000 บาท ในราคา 100 บาท พร้อมมีการจัดโปรโมชัน ซื้อ 10 ใบ แถม 1 ใบ โดยจัดส่งทางขนส่งเอกชนมีทั้งแบบชำระเงินปลายทาง และโอนเงินก่อนรับสินค้า
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ จนกระทั่งวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นศาลจังหวัดสิงห์บุรีเข้าทำการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางและพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ผลการตรวจค้นพบนายกฤษฎา อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมตรวจยึด 1.ธนบัตรปลอมใบละ 1,000 บาท จำนวน 23 ฉบับ 2.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง 3.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 5 เล่ม ในชั้นจับกุม นายกฤษฎา รับว่าซื้อธนบัตรปลอมมาจากช่องทางออนไลน์มาในราคาใบละ 30 บาท แล้วนำมาขายต่ออีกทอดหนึ่งในราคาใบละ 100 บาท โดยจะมีการนัดรับส่งของกันในพื้นที่ภาคเหนือ จากนั้นจะมาโพสต์ขายในทวิตเตอร์จนมีผู้สั่งซื้อมากกว่า 30 ครั้ง มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 3 แสนบาท จึงได้จับกุมตัวนายกฤษฎา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการขยายผลติดตามจับกุมทั้งผู้ขายและผู้ซื้อต่อไป
ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนถึงพี่น้องประชาชน ว่าการซื้อ - ขายธนบัตรปลอม หรือการเปิดเพจขายธนบัตรปลอม มีความผิดตามกฎหมายอาญา โดยผู้ทำธนบัตรปลอมต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท ส่วนผู้ที่ใช้โดยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสามแสนบาท
สำหรับประชาชนทั่วไปควรเพิ่มความระมัดระวัง และตรวจสอบธนบัตรก่อนรับ โดยหากเป็น
ธนบัตรจริงจะสามารถสังเกตเห็นลวดลายบนธนบัตรเคลื่อนไหวได้และหากยกส่องดูจะเห็นลายน้ำ
และแถบสีที่เป็นเส้นตรง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย https://www.bot.or.th/Thai/Banknotes/Pages/identity.aspx) ข้อมูลเพิ่มเติม : ฝ่ายกลยุทธ์และบริหาร
กิจการธนบัตร โทรศัพท์ : 0 2356 8687-90 E-mail : banknoteinfo@bot.or.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี