สืบเนื่อง นายกวี ศรีสรรค์ เลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองนครพนม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “ขโมยไปขายหรือไปทำไสยาศาสตร์ พระพรหมทองเหลืองประดิษฐานที่หอให้ผู้คนกราบไหว้ที่เทศบาลเมืองนครพนม ถูกขโมยไปเมื่อคืน ฝากคนร้ายร้ายรีบส่งคืนด่วน” ซึ่งมีคนแชร์และแจ้งเบาะแสเป็นจำนวนมาก ทั้งทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีคนร้ายแอบไปขโมยพระพรหมในสถานที่ราชการ บ้านพัก และร้านอาหารอีกหลายแห่ง
ล่าสุดวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าบริเวณริมรั้วทางเข้าสำนักงานเทศบาลเมืองนครพนม มีหอพระพุทธรูปและหอพระพรหมอยู่ใกล้เคียงกัน โดยที่แท่นปูนสำหรับวางรูปหล่อทองเหลืองพระพรหม มีแต่ความว่างเปล่า เพราะองค์ประติมากรรมถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนฉกไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งนายกวี เปิดเผยว่า คนร้ายอาจจะทำตามใบสั่งของพวกสายมู ขโมยเพื่อไปประกอบพิธีตามความเชื่อ จึงอยากให้นำกลับมาคืน พร้อมบอกว่า ที่สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม ก็ถูกคนร้ายขโมยพระพุทธรูปไปเช่นกัน
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม (ทกจ.นครพนม) ที่อยู่ในพื้นที่สนามกีฬาจังหวัดนครพนม พบหอพระตั้งโดดเด่นอยู่หน้าสำนักงาน เหลือเพียงราวเทียนสุพรรณหงส์และแจกัน ส่วนพระพุทธรูปองค์เล็ก เพิ่งนำมาตั้งแทนองค์เก่าที่สูญหายไป โดย นายคงกริช พงษ์พันธ์ ผอ.ทกจ.นครพนม เปิดเผยว่า ทุกวันก่อนเข้าสำนักงานจะต้องกราบไหว้พระพุทธรูปหน้าที่ทำงานเสมอ เช้าวันนี้ไม่เห็นองค์พระ จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ จึงทราบว่าถูกคนร้ายยกไปแล้ว ปกติสนามกีฬาจะปิดประตูทุกด้านช่วงเวลาประมาณ 20.00 น.บังเอิญมีการปรับปรุงกำแพงสนามกีฬา อาจเป็นช่องโหว่ให้คนร้ายลอบเข้ามาขโมยองค์พระพุทธรูปหายไป แต่จะประสานหน่วยงานใกล้เคียงเช็คกล้องวงจรปิดว่าคนร้ายมีลักษณะอย่างไรและมีกันกี่คน
นอกจากนี้ ที่ร้านอาหารใกล้กับโรงแรมฟอร์จูน ริวเวอร์วิว ท้ายเมืองนครพนม ริมทางฟุตบาทหน้าร้าน มีศาลพระภูมิเคียงคู่กับหอพระพรหม ก็ถูกคนร้ายแอบขโมยไปเช่นเดียวกัน ซึ่งเช็คจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายใช้รถยนต์ไม่ทราบสีและยี่ห้อมาจอด ก่อนจะเดินมาคว้าองค์พระพรหมและพระสยามเทวาธิราช ซึ่งอยู่ในหอเดียวกันใส่รถขับหลบหนีไป
ล่าสุด นายสุรัตน์ ก้องเกียรติกมล ประธานชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพจังหวัดนครพนม ได้พา นายตุ๋ย อายุ 67 ปี พร้อม นายอู๋ อายุ 38 ปี ลูกชาย นำองค์ประติมากรรมพระพรหมทองเหลือง จำนวน 3 องค์ มายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้ายที่ขโมยพระพรหมจากหลายสถานที่ พร้อมเปิดเผยว่า ตนเปิดบ้านเป็นศูนย์พระเครื่องอยู่ด้านหลังการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) มีใบอนุญาตถูกต้องทุกอย่าง โดยวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา มี นายโอ๋ เซียนพระชื่อดัง หอบพระพรหมทั้ง 3 องค์ มาขายให้ตน ในราคา 2,000 บาท ตนได้ถามแล้วว่าไม่ได้ขโมยใครมานะ เซียนโอ๋ยืนยันว่าเป็นการไปบูชามาจากเจ้าของโดยตรง ด้วยความเชื่อใจจึงรับไว้
กระทั่งนายอู๋ ลูกชาย มาบอกว่ามีการแชร์ข่าวพระพรหมถูกคนร้ายขโมยหายไปหลายแห่ง ตนจึงติดต่อประสานนายสุรัตน์ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ด้วยการนำพระพรหมที่รับซื้อไว้มาให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม ประชาสัมพันธ์หาตัวเจ้าของมารับคืน ต่อมาเทศบาลเมืองนครพนมได้มาตรวจสอบรูปลักษณ์แล้ว ปรากฏว่าไม่ใช้พระพรหมของทางเทศบาล ในขณะเดียวกันมีตำรวจสืบสวน สภ.เมืองนครพนม มาขอรายละเอียดจากสองพ่อลูก พร้อมเผยว่า มีผู้เสียหายมาแจ้งความว่าถูกขโมยพระพรหมหายไปประมาณ 6 ราย คาดเป็นฝีมือของเซียนโอ๋เพียงคนเดียว จึงส่งรูปพรรณสัณฐานผู้ต้องสงสัยรายนี้ไปยัง สภ.ใกล้เคียง เพื่อนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
- 006