เว็บไซต์ law.go.th หรือระบบกลางทางกฎหมาย ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เผยแพร่ “(ร่าง) พ.ร.บ.คุ้มครองการให้บริการทางเพศ พ.ศ. ....”พร้อมเปิดให้ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2566 อันเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 มาตรา 77 และ พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ที่กำหนดให้การออกกฎหมายจำเป็นต้องรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบอย่างรอบด้าน
สำหรับ (ร่าง) พ.ร.บ.คุ้มครองการให้บริการทางเพศ พ.ศ. .... นั้น ระบุเหตุผลของการจัดทำร่างไว้ว่า การบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 (ซึ่งเป็นกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน) มุ่งกำหนดโทษทางอาญาบางฐานความผิดแก่ผู้ค้าประเวณี ทำให้มิอาจเรียกร้องสิทธิของตนจากการถูกล่วงละเมิดหรือถูกเอาเปรียบ รวมทั้งผู้ใช้บริการทางเพศอาจตกอยู่ในสถานะที่มีโอกาสเสี่ยงจากโรคติดต่อ เพราะผู้ให้บริการทางเพศมิได้อยู่ภายใต้มาตรการบังคับที่เป็นกิจลักษณะในการควบคุมสุขอนามัย
อีกทั้งยังมีการอาศัยช่องว่างของกฎหมายเพื่อขูดรีดและเอารัดเอาเปรียบผู้ให้บริการทางเพศ ซึ่งกฎหมายฉบับเดิมไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้จากสภาพการณ์ที่เป็นอยู่นี้ จึงควรยกเลิก พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ทั้งฉบับ และตรากฎหมายใหม่ เพื่อคุ้มครองการให้บริการทางเพศให้ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยทั้งต่อผู้ให้บริการทางเพศและผู้ใช้บริการทางเพศ
รวมถึงมีการจัดตั้งศูนย์คุ้มครองการให้บริการทางเพศเพื่อฝึกอบรมและให้การช่วยเหลือผู้ให้บริการทางเพศที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และเพื่อให้ได้รับสิทธิและสวัสดิการตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งเพื่อปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศของประเทศไทย ตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
สรุปสาระสำคัญของ (ร่าง) พ.ร.บ.คุ้มครองการให้บริการทางเพศ พ.ศ. .... ที่น่าสนใจ 1.คำนิยามอยู่ในมาตรา 4 เช่น “การให้บริการทางเพศ” หมายถึง (1) การกระทำชำเรา (2) การยอมรับการกระทำชำเรา (3) การกระทำอื่นใดในทางเพศ เพื่อสนองความใคร่ในทางกามารมณ์ของผู้อื่นเพื่อให้ได้รับค่าตอบแทนหรือประโยชน์อื่นใด โดยในข้อ (3) นั้นให้คณะกรรมการมีอำนาจออกประกาศกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติม
“คณะกรรมการ” หมายถึง คณะกรรมการคุ้มครองการให้บริการทางเพศ ซึ่งมีทั้งคณะกรรมการส่วนกลางและคณะกรรมการจังหวัด โดยในมาตรา 33 ระบุที่มาของคณะกรรมการคุ้มครองการให้บริการทางเพศ (ส่วนกลาง) ว่า (วรรคหนึ่ง) ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานกรรมการ อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม อธิบดีกรมควบคุมโรค อัยการสูงสุด ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผู้แทนคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีแห่งชาติ ผู้แทนกลุ่มของผู้ประกอบกิจการทางเพศไม่เกินสามคน ผู้แทนกลุ่มของผู้ให้บริการทางเพศไม่เกินสามคน และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกินสามคนเป็นกรรมการ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวเป็นกรรมการ และเลขานุการ และให้ประธานกรรมการแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการได้ไม่เกินสองคน,
(วรรคสอง) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งตามวรรคหนึ่งต้องเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการคุ้มครองการให้บริการทางเพศ การกำกับดูแลการประกอบกิจการทางเพศ การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ไม่เกินสามคน ให้แต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งดำเนินงานในองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องในด้านเดียวกัน, (วรรคสาม) หลักเกณฑ์วิธีการคัดเลือกผู้แทนกลุ่มผู้ประกอบการกิจการทางเพศ ผู้แทนกลุ่มผู้ให้บริการทางเพศ ให้เป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด
ขณะที่คณะกรรมการคุ้มครองการให้บริการทางเพศ (ระดับจังหวัด) มาตรา 35 ระบุว่า (วรรคหนึ่ง) ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานกรรมการ อัยการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ประกันสังคมจังหวัด และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งไม่เกินสามคน ผู้แทนกลุ่มของผู้ประกอบกิจการทางเพศ ผู้แทนกลุ่มของผู้ให้บริการทางเพศเป็นกรรมการ และให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ,
(วรรคสอง) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งตามวรรคหนึ่ง ต้องเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการคุ้มครองการให้บริการทางเพศ การกำกับดูแลการประกอบกิจการทางเพศ การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ไม่เกินสามคน ให้แต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งดำเนินงานในองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องในด้านเดียวกัน, (วรรคสาม) หลักเกณฑ์ วิธีการคัดเลือกผู้แทนกลุ่มผู้ประกอบการกิจการทางเพศ ผู้แทนกลุ่มผู้ให้บริการทางเพศ ให้เป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด
“ผู้ประกอบกิจการทางเพศ” หมายถึง (1) บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีบทบาทเป็นตัวกลางในการติดต่อ การประสาน หรือการจัดหาผู้ให้บริการทางเพศให้แก่ผู้ใช้บริการทางเพศ ทั้งกรณีที่ได้รับส่วนแบ่งหรือไม่ได้รับส่วนแบ่ง (2) บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ประกอบกิจการอย่างอื่นเป็นกิจการหลัก แต่เล็งเห็นได้ถึงการพบปะหรือการติดต่อระหว่างผู้ให้บริการทางเพศและผู้ใช้บริการทางเพศที่อาจเกิดขึ้นได้ภายใต้บริบทของการประกอบกิจการของตนเอง
และบุคคลหรือกลุ่มบุคคลดังกล่าวนี้ได้อนุญาตทั้งโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายให้ผู้ให้บริการทางเพศและผู้ใช้บริการทางเพศเข้าทำสัญญากัน โดยมิต้องคำนึงว่าบุคคลหรือกลุ่มบุคคลดังกล่าวนี้จะได้รับหรือไม่ได้รับผลประโยชน์จากการกระทำการดังกล่าว (3) บุคคลหรือกลุ่มบุคคลนอกเหนือจาก (1) และ (2) ตามเงื่อนไขและรายละเอียดที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการ
“สถานประกอบกิจการทางเพศ” หมายถึงสถานที่ที่ใช้ในการติดต่อหรือจัดหาบุคคลหรือจัดไว้เพื่อให้บริการทางเพศหรือยอมให้มีการให้บริการทางเพศซึ่งผู้ประกอบกิจการทางเพศได้แจ้งไว้ประกอบการยื่นคำขอ
“ผู้มีอำนาจอนุญาต” หมายถึง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดอื่น (ซึ่งเท่ากับว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นการนำสถานบริการทางเพศขึ้นมาอยู่บนดิน ไม่ต้องแอบแฝงอีกต่อไป)
2.การบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ด้วยความที่งานบริการทางเพศคาบเกี่ยวกับความรับผิดชอบของหลายหน่วยงาน ในมาตรา 5 จึงกำหนดให้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รักษาการตามกฎหมายนี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของตน
3. สิทธิ หน้าที่ และความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการทางเพศและผู้ใช้บริการทางเพศ จะอยู่ในหมวด 1 ตั้งแต่มาตรา 6-มาตรา 20 เช่น กำหนดให้ผู้ประกอบอาชีพผู้ให้บริการทางเพศต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี มีผลการตรวจสุขภาพทางเพศ”สุขภาพอนามัยการเจริญพันธุ์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ โรคพิษสุราเรื้อรัง ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ขณะที่อีกด้านหนึ่งกฎหมายก็รับรองว่า ผู้ใช้บริการทางเพศย่อมได้รับการบริการที่มีคุณภาพและถูกสุขอนามัย,
ผู้ให้บริการทางเพศย่อมได้รับความคุ้มครองจากการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ไม่ว่าในขณะประกอบอาชีพหรือภายหลังได้หันไปทำงานอื่นๆ แทนแล้ว, สิทธิในการได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม ทั้งจากผู้ใช้บริการทางเพศโดยตรง และจากการทำสัญญาส่วนแบ่งรายได้ระหว่างผู้ให้บริการทางเพศกับผู้ประกอบกิจการทางเพศ (ซึ่งที่ผ่านมามีการสะท้อนปัญหาสถานบริการเอารัดเอาเปรียบ อาทิ แบ่งสัดส่วนค่าตอบแทนให้ผู้ให้บริการทางเพศเพียงร้อยละ 30-40 ของค่าใช้บริการที่ได้รับจากลูกค้า),
สิทธิในการเข้าถึงบริการที่จำเป็นจากรัฐ อาทิ ได้รับสวัสดิการด้านสุขภาพทั้งในส่วนของการป้องกันโรคและการรักษาโรค การสมัครเป็นผู้ประกันตนและได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม ได้รับบริการตรวจสุขภาพทางเพศตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม หรือกฎหมายอื่น ตลอดจนมีสิทธิในการร้องเรียนและขอรับความช่วยเหลือจากศูนย์คุ้มครอง เพื่อให้ได้รับสิทธิและสวัสดิการตามกฎหมาย และดำเนินการให้ได้รับความคุ้มครองตามที่ผู้ให้บริการทางเพศร้องขอ,
สิทธิในการได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยผู้ให้บริการทางเพศและผู้ใช้บริการทางเพศ ย่อมได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA), กระบวนการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างผู้ให้บริการทางเพศและผู้ประกอบกิจการทางเพศ มีกระบวนการไกล่เกลี่ย แต่หากต้องเป็นคดีความก็ให้อยู่ในเขตอำนาจของศาลแรงงาน
4.การตั้งสถานประกอบกิจการทางเพศ อยู่ในหมวด 2 มาตรา 21-32 ว่าด้วยคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตประกอบกิจการ ข้อกำหนดด้านสถานที่ตั้ง (เช่น ต้องไม่อยู่ใกล้ศาสนสถาน สถาบันการศึกษา เป็นต้น) สุขอนามัยและความปลอดภัยของสถานที่ การป้องกันเหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนโดยรอบ หน้าที่ของผู้ประกอบกิจการที่จะต้องร่วมกับภาครัฐในการดูแลสุขภาพของผู้ให้บริการทางเพศ รวมถึงต้องกวดขันไม่ให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ (หลักการเดียวกับสถานบันเทิงทั่วไป ที่ต้องตรวจบัตรประชาชนผู้ต้องการเข้าไปใช้บริการ)
5.บทกำหนดโทษ อยู่ในมาตรา 49-61 เบื้องต้นไม่พบบทลงโทษผู้ให้บริการทางเพศโดยตรง และไม่มีข้อกำหนดให้ผู้ให้บริการทางเพศต้องทำงานในสถานประกอบกิจการทางเพศเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นบทลงโทษที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการทางเพศผู้มีอายุไม่ถึง 18 ปี การที่พ่อแม่ผู้ปกครองให้บุตรหลานอายุไม่ถึง 18 ปี มาขายบริการทางเพศ การเป็นธุระจัดหาผู้ขายบริการทางเพศที่อายุไม่ถึง 18 ปี การบังคับบุคคล (ในทุกอายุ) เพื่อให้บริการทางเพศรวมถึงการประกอบกิจการสถานบริการทางเพศโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับผู้สนใจอ่าน (ร่าง) พ.ร.บ.คุ้มครองการให้บริการทางเพศ พ.ศ. .... ฉบับเต็ม(ในรูปแบบไฟล์ PDF) หรือร่วมแสดงความคิดเห็น สามารถเข้าไปได้ที่เว็บไซต์ www.law.go.th (แนะนำให้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊ก ซึ่งจะใช้งานง่ายกว่าในโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน) เลือกหมวด “โครงการรับฟัง” ที่ด้านบนซ้าย จากนั้นในกรอบ “ตัวกรอง”ด้านขวาของหน้าจอ ให้เลือก “กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” และ “กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว” ทั้งนี้ สามารถแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2566
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี