ค้นห้างกลางกรุง
‘ตร.ไซเบอร์-กสทช.’ผนึกกำลัง
ยึดอุปกรณ์เถื่อนเพียบ
เครื่องดักฟัง/วิทยุสื่อสาร
หนองคายทลายรัง‘ซิมผี’
ตัดช่องทางกลุ่มมิจฉาชีพ
ตร.ไซเบอร์-กสทช.-สรรพสามิต ตัดช่องกลุ่มมิจฉาชีพ ปูพรมค้นห้างดังกลางกรุง จับกุมและยึดอุปกรณ์สื่อสารเถื่อนเพียบ ส่วนที่หนองคายบุกทลายรังซิมผีกลางเมือง พบจำหน่ายออนไลน์ ลูกค้ารีวิวอื้อ
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญรอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. เผยว่าได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.4 บก.สอท.1 พ.ต.ท.พรชัย บัวด้วง รอง ผกก.4 บก.สอท.1 นายจาตุรนต์ โชคสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม (กสทช.)และ นายวิโรจน์รัตน์ แจ่มวรรณา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการตรวจสอบสรรพสามิต และฝ่ายป้องกันและปราบปราม 4 สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม พร้อมกำลังขุดสืบสวน บก.สอท.1 นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ปูพรมเข้าตรวจค้น 9 จุดบริเวณชั้น 4 ของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ในกทม. ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายอุปกรณ์มือถือและอุปกรณ์โทรคมนาคมขนาดใหญ่ กลางกรุง พบมีผู้ลักลอบนำอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ผิดกฎหมายมาวางขาย โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายทั้งนี้ เพื่อป้องกันและตัดช่องทางไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพมาซื้อ ในการนำไปใช้ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งปัจจุบันมีการลักลอบนำเข้าอุปกรณ์โทรคมนาคมโดยผิดกฎหมาย และลักลอบจำหน่ายให้แก่บุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมที่กำหนดไว้
จากการตรวจค้นพบว่ามีผู้ประกอบการบางรายนำสินค้าประเภทเครื่องวิทยุคมนาคมที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาในราชอาณาจักร และไม่ผ่านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน (Type Approval Test) เช่น โทรศัพท์มือถือ , เครื่องติดตาม (GPS Tracker) , อุปกรณ์ล่ปอยสัญญาณ Wifi , เครื่องดักฟัง, วิทยุสื่อสาร , โดรนถ่ายภาพ มาวางจำหน่ายจำนวนมาก
โดยทางเจ้าหน้าที่พบร้านที่กระทำผิด จำนวน 9 ร้าน จึงจับกุมผู้ดูแลร้าน 7 คนพร้อมตรวจยึดเครื่องโทรคมนาคมผิดกฎหมาย ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ ,นาฬิกาใส่ชิมการ์ด, เครื่องติดตาม (GPS Tracker) ,เครื่องดักฟัง ,อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณ Wifi ,วิทยุสื่อสาร ,โดรนถ่ายภาพ ,อุปกรณ์โทรคมนาคมและกล้องใส่ชิมการ์ด รวม 157 รายการ มูลค่ากว่า 707,000 บาท
ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “มี และ ค้า ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีใหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ จึงควบคุมผู้กระทำความผิดพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามนโยบายของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ได้สั่งการให้ทำการระดมจับกุมผู้กระทำผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 โดยเน้นการจับกุมผู้ที่กระทำผิดเกี่ยวกับ ซิมม้า และบัญชีม้า เพื่อปิดกั้นช่องทางการกระทำผิดของคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นั้น
พ.ต.อ.นิคม ชัยเจริญ ผกก.3 บก.สอท.3 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สอท.3 บก.สอท.3 ทำการสืบสวนหาข่าวผู้ที่กระทำผิดในลักษณะดังกล่าวทั้งช่องทางเปิดร้านในแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ พบว่ามีการโพสต์ขายซิมโทรศัพท์ ผ่านแอปพลิเคชัน Shopee โดยมีชื่อร้าน “7phone” จากการตรวจสอบแสดงความคิดเห็นหลังการซื้อขายของลูกค้า จากร้าน “7phone” ทราบว่าร้านค้าดังกล่าว ได้มีการขายและส่ง ซิมโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนเปิดใช้งานพร้อมใช้ มาเป็นจำนวนหลายครั้งแล้วจริง และได้มีลูกค้ามาแสดงความคิดเห็นหลังการรับสินค้าว่าได้รับสินค้าจริง และใช้งานได้จริงตามรายการ “ซิม True พร้อมใช้งาน (ชุด 5เบอร์,10เบอร์) ไม่ผ่านแอปใดๆ ทั้งสิ้น” และมีหน้าร้านชื่อ ศูนย์บริการทรูเอเจนท์พลัส อ.เมือง จ.หนองคาย จึงดำเนินการล่อซื้อซิมโทรศัพท์มาตรวจสอบพบว่าเป็นซิมที่ลงทะเบียนพร้อมใช้จริง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และขออนุมัติศาลจังหวัดหนองคายออกหมายค้น จนนำมาสู่ “ปฏิบัติการบุกค้นทลายแหล่งขายส่งซิมผี “7phone” กลางเมืองหนองคาย”
ต่อมาวันที่ 25 พ.ค.66 พ.ต.อ.นิคม ชัยเจริญ ผกก.3 บก.สอท.3 จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.3 นำโดย พ.ต.ต.ศิรสิทธิ์ ทันศรี สว.กก.3 บก.สอท.3 นำกำลังเข้าตรวจค้น ศูนย์บริการทรูเอเจนท์พลัส พบนายกิติพัฒน์ แสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน จากการสอบถาม นายกิติพัฒน์ ให้การรับว่าซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ตรวจพบในกล่องพัสดุเป็นซิมการ์ดที่ลงทะเบียนในนามของบุคคลอื่นและตนเองมีหน้าที่แพ็คซิมการ์ดใส่กล่องเพื่อส่งให้กับผู้ที่สั่งซื้อจริง จึงได้จับกุม นายกิติพัฒน์ เจ้าของร้านในความผิดฐาน “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวใช้บริการได้” และตรวจยึดซิมโทรศัพท์เครือข่ายทรูและดีแทคที่ลงเบียนแล้ว จำนวน 180 ซิม ที่บรรจุจ่าหน้าซองเตรียมส่งให้ลูกค้า และซิมโทรศัพท์ เครือข่ายทรู อีกจำนวน 496 ซิม นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี