นางคยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า จากผลสำรวจชี้ว่า เกือบร้อยละ 90 ของผู้ให้สัมภาษณ์ในเดือนมีนาคม 2566 ระบุว่ามีงานทำ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 79 ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว นอกจากนี้ ร้อยละ 55 ของผู้ให้สัมภาษณ์ยังระบุว่ามีรายได้เพิ่มขึ้น และเกือบครึ่งระบุว่ารายได้ของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ผลสำรวจพบว่าครัวเรือนที่มีเด็กมีการฟื้นตัวที่ช้ากว่าเมื่อเทียบกับประชากรกลุ่มอื่นๆ และมักกลับเข้าสู่ระบบการทำงานได้ยากกว่าส่วนใหญ่เนื่องมาจากภาระการต้องเลี้ยงดูบุตรหลาน โดยมีแม่และย่าหรือยายเป็นผู้รับภาระดังกล่าวสูงถึงร้อยละ 86 เมื่อเทียบกับพ่อและปู่หรือตาซึ่งมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 4
การที่ครัวเรือนที่มีเด็กและครัวเรือนที่ยากจนยังคงฟื้นตัวได้ช้าและเผชิญกับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงดูเด็ก การทำงาน และราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ความท้าทายเหล่านี้ล้วนตอกย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องหันมาเพิ่มการลงทุนในเด็ก โดยเฉพาะการจัดให้มีบริการเลี้ยงดูเด็กที่มีคุณภาพในราคาเข้าถึงได้ตลอดจนการขยายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กให้แบบถ้วนหน้ารวมถึงการเพิ่มจำนวนเงินเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัวเนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
การสำรวจยังพบอีกว่า การหาบริการเลี้ยงดูเด็กที่เหมาะสมยังเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับผู้ปกครอง ซึ่ง 1 ใน 3 ของผู้ให้สัมภาษณ์ระบุว่าไม่ได้ทำงานเนื่องจากต้องเลี้ยงดูบุตรหลาน โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และชนบท ซึ่งระบุว่าบริการรับเลี้ยงเด็กมีค่าใช้จ่ายสูงเกินไปในขณะที่ร้อยละ 5 ของผู้ให้สัมภาษณ์ ระบุว่าบางครั้งต้องทิ้งบุตรหลานอายุ 0-6 ขวบไว้ลำพังหรือให้อยู่ในการดูแลของเด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบ และอีกร้อยละ 10 บอกว่ามักนำบุตรหลานไปทำงานด้วยเพราะไม่สามารถฝากไว้กับใครได้
นางคิมกล่าวเสริมว่า “เราหวังว่าการสำรวจนี้จะช่วยเติมเต็มความพยายามของรัฐบาลไทยในการทำให้ประเทศฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 อย่างครอบคลุมโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังการกำหนดให้เด็กเป็นประเด็นหลักของวาระแห่งชาติจะช่วยให้เราไม่เพียงแต่ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดเพียงอย่างเดียว แต่ยังจะช่วยนำเราไปสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกันได้รวดเร็วขึ้นด้วย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี