2 ล้านเกือบหายวับ กลุ่มคนร้ายบุกงัดหน้าต่างบ้านหนุ่มวัย 30 ปี เจาะจงยกตู้เซฟและกุญแจ ขณะเจ้าบ้านออกไปรับหลานเลิกเรียน กลับมาพบคนร้ายยกตู้เซฟไปทิ้งไว้ในรั้วบ้านของเพื่อนบ้าน โดยที่ทรัพย์สินในตู้มูลค่ากว่า 2 ล้านบาทยังอยู่ครบ คาดคนร้ายเป็นคนใกล้ตัว มีเพียงกุญแจ แต่ไม่รู้รหัสตู้เซฟ ประกอบกับตู้มีน้ำหนักมาก จึงตัดสินใจยอมแพ้ทิ้งไว้ ผวาหนักเพิ่งทำบุญขึ้นบ้านใหม่เพียงแค่ 5 วัน วอนตำรวจล่าตัวให้เร็วที่สุด

วันที่ 2 มิถุนายน 2566 เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านแห่งหนึ่ง ต.นาบินหลา อ.เมือง จ.ตรัง ภายหลังจากเกิดเหตุมีกลุ่มคนร้ายงัดหน้าต่างบ้านเข้าไปขโมยตู้เซฟนิรภัย ที่อยู่ภายในห้องนอน น้ำหนักกว่า 70 กิโลกรัม ก่อนยกออกไปจากห้องนอน แต่ปรากกฎว่ากลับนำตู้เซฟหลังดังกล่าวไปทิ้งไว้ภายในรั้วบ้านของเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นหลังที่อยู่ติดกัน โดยเหตุการณ์คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ของวานนี้ (1 มิ.ย.) ที่ผ่านมา โดยที่ทาง ร.ต.อ.เวชยันต์ หิรัญญสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา

ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด ปลูกติดกันจำนวนหลายหลัง อยู่ภายในโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบตู้เซฟหลังดังกล่าวพบว่าถูกนำไปทิ้งไว้ภายในรั้วบ้านของเพื่อนบ้านหลังติดกัน ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 30 เมตร โดยที่สภาพตู้เชฟยังสมบูรณ์ ยังไม่มีการเปิด และทรัพย์สินที่อยู่ภายในมีมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท ยังอยู่ครบ ก่อนจะเข้ามาตรวจสอบหน้าต่างภายในห้องนอนพบมีร่องรอยถูกงัด และมีกุญแจตู้เซฟได้สูญหายไป ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ภายในบ้านไม่ได้มีการสูญหายไปแต่อย่างได

ก่อนเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝง และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่สามารถเก็บได้ทั้งหมด เพื่อนำรวบรวมกับผลทางการสืบสวนสอบสวน ในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ท่ามกลางเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย อยู่ในอาการขวัญผวา หวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการสอบสวนเบื้องต้น คาดว่าในช่วงเวลาระหว่าง 16.00 – 17.00 น. วานนี้ (1 มิ.ย.) ซึ่งเป็นเวลาที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก คนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน บุกเข้ามาในรั้วบ้าน ก่อนจะทำการงัดหน้าต่างของห้องนอนห้องที่ 1 และเข้ามาภายในตัวบ้าน พร้อมทั้งได้เดินเข้าไปยังห้องนอนที่ 2 ซึ่งเป็นห้องที่ตั้งตู้เซฟอยู่ ก่อนจะยกตู้เซฟวกกลับมายังห้องนอนที่ 1 และหยิบกุญแจตู้เซฟที่ตั้งไว้บนตู้ห้องนอนที่ 1 และได้นำตู้เซฟออกไปทางหน้าต่างที่งัดเข้ามา เมื่อนำออกไปแล้วจึงได้ยกตู้เซฟโยนผ่านรั้วบ้านไปยังบ้านที่ติดกัน ซึ่งมีร่องรอยตกกระแทกกับแผ่นปูน และได้ยกต่อออกไปไว้ข้างบ้านของเพื่อนบ้าน ก่อนที่จะทิ้งไว้ดังกล่าว

เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายได้พยายามที่จะใช้กุญแจไขตู้เซฟแล้ว แต่ปรากฏว่า ต้องมีการปลดล็อกโดยการหมุนรหัสอีกชั้น จึงไม่สามารถเปิดนำทรัพย์สินไปได้ ประกอบกับฝนตกที่หนัก และตู้เซฟมีความหนัก ประกอบกับคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้รถ จยย. หรือการเดิน จึงไม่สามารถยกตู้เซฟหนีไปได้ ก่อนจะทิ้งไว้ดังกล่าว

เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ปกติบ้านจะอยู่กัน 2 คน มีตนและหลาน ซึ่งเป็นลูกของพี่สาว ส่วนพี่สาวจะมาอยู่เพียงบางครั้ง ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวได้มาซื้อเมื่อเดือน มี.ค.66 ที่ผ่านมา และเพิ่งจะทำบุญขึ้นบ้านใหม่ไปเมื่อวันที่ 28 พ.ค.66 หรือเพียงแค่ 5 วัน โดยวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 15.30 น. ตนได้ขับรถออกไปรับหลานสาวที่โรงเรียน โดยไม่มีใครอยู่บ้าน เมื่อกลับมาจึงบ้านประมาณ 5 โมงกว่าๆ และทำกับข้ามตามปกติ เพราะไม่มีอะไรผิดสังเกต และได้เข้าไปในห้องนอน แต่พบว่าผ้าปูที่นอนหล่นจากเตียง และหน้าต่างโดนงัด กุญแจตู้เซฟที่ตั้งบนตู้หายไป และได้ไปเปิดห้องนอนอีกห้องที่ตั้งตู้เซฟอยู่ ก็เห็นว่าตู้เซฟหายไปแล้ว โดยที่ทรัพย์สินในตู้เซฟมีทองคำ เครื่องเพชร มูลค่ารวมแล้วกว่า 2 ล้านบาท

เจ้าของบ้าน กล่าวทิ้งท้ายว่า มองจากพฤติการณ์การก่อเหตุแล้วนั้นตนมองว่าน่าจะเป็นคนใน และรู้เวลาเข้าออกของตนดี เพราะไม่ได้มีการรื้อค้นทรัพย์สินในจุดอื่นๆของบ้านเลย โดยที่เข้ามาเจาะจงจะเอาตู้เซฟเพียงอย่างเดียว อีกทั้งบ้านหลังนี้ไม่มีใครเข้าออก มีเพียงแค่แม่บ้านรายหนึ่งเท่านั้น ที่ตนจ้างมาทำความสะอาดและดูแลบ้าน โดยปกติจะเข้ามาเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านในทุกวัน แต่หลังจากเกิดเรื่องก็ได้หายไป ในเรื่องนี้ก็ได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจไปแล้ว จึงอยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด เพราะหวาดกลัวและผวากันทั้งบ้าน และไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่ก็โชคดีที่คนร้ายไม่สามารถเปิดตู้เซฟได้ โดยคนร้ายน่าจะคิดว่ามีเพียงแค่กุญแจก็สามารถเปิดตู้ได้ จึงไม่ได้ยกเอาไป เนื่องจากมีน้ำหนักมาก และเป็นที่น่าเสียดายว่ายังไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด.