นักท่องเที่ยวสาวลิทัวเนีย เหยื่อหนุ่มหื่นลูกจ้าง อช.เอราวัณ กลับ กทม.แล้ว สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวกาญจน์เผยเจ้าตัวยังอยู่ในอาการผวา ก่อนนำตัวเข้าพบยุติธรรมจังหวัดกาญจน์เพื่อขอรับการเยียวยา
ความคืบหน้าคดีที่นักท่องเที่ยวสาวชาวลิทัวเนีย อายุ 27 ปี แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรีถูกนายปราโมทย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี อยู่ ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ลูกจ้างชั่วคราวอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี กระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้ายที่บริเวณบ่อขยะเทศบาลเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ต่อมานายปราโมทย์ ได้เข้ามอบตัวสู้คดี รับสารภาพว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ทีแรกคิดจะข่มขืน แต่ยั้งใจหยุดกระทำ เดินหนี
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 2 มิ.ย.66 พ.ต.ต.ธนภัทร ทองไพบูลย์ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 1 กาญจนบุรี กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 เปิดเผยว่า จริงๆ เรื่องที่เกิดขึ้นมันคือการที่นักท่องเที่ยวออกนอกเส้นทางที่อุทยานฯกำหนด โดยความจริงตำรวจท่องเที่ยวเราก็จะมีป้ายประชาสัมพันธ์ และที่อุทยานฯ ก็มีป้ายประชาสัมพันธ์ของตำรวจท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวมีปัญหาเกิดความไม่สะดวก หรือมีภัยเขาจะรู้ว่าต้องโทรมาที่สายด่วน 1155 อยู่แล้ว เรื่องแบบนี้จะไปโทษทางอุทยานฯ ฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกับว่ากลายเป็นเส้นทางนอกอุทยานฯ มันไม่ใช่เส้นทางหลักที่นักท่องเที่ยวเขาเที่ยวกัน มันก็อาจจะเป็นเรื่องที่เราต้องประชาสัมพันธ์ว่าอย่าให้นักท่องเที่ยวออกนอกเส้นทางที่อุทยานฯกำหนด เพราะไม่รู้ว่าข้างทางที่มันเป็นป่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนักท่องเที่ยว อาจจะเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมและก็พยายามประชาสัมพันธ์ในเรื่องลักษณะนี้ไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก ตนคิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ส่วนการดำเนินการดูแลบริการผู้เสียหายทางตำรวจท่องเที่ยวของเรก็ได้อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวทุกอย่าง ตั้งแต่เรารับเรื่องมาเมื่อวันที่ 31 พ.ค.66 เราก็พานักท่องเที่ยวไปบันทึกประจำวันเบื้องต้นที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เพราะนักท่องเที่ยวใช้กำลังสู้แล้วหลบหนีมาได้ จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่เมืองกาญจน์มาแจ้งความที่ สภ.เมืองกาญจน์ แต่พนักงานสอบสวนรับเรื่องไม่ได้ เพราะเหตุมันเกิดในท้องที่ สภ.ศรีสวัสดิ์ ตำรวจท่องเที่ยวของเราจึงเชิญตัวผู้เสียหายมาที่สถานีตำรวจท่องเที่ยว เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจมากกว่านี่เป็นข้อดีของเรา เขาก็มาลงบันทึกประจำวันกับเราเป็นข้อมูลรายงานเก็บไว้
"มีสิ่งหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวของเรามีความสงสารนักท่องเที่ยวสาวผู้เสียหายรายนี้มาก คือสภาพจิตใจมีความหวาดกลัวและกดดันจากเหตุการณ์มาก สังเกตจากการที่ผู้เสียหายร้องไห้ตลอดเวลาที่บันทึกปากคำเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อทางพนักงานสอบสวนของเรา ทางไกด์ที่เป็นผู้หญิงต้องทำการโอบกอดปลอบโยนและให้กำลังใจตลอดเวลา เราได้อธิบายในส่วนของพฤติการณ์ของผู้ต้องหา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องความประพฤติส่วนตัวที่ไม่สมควรไปกระทำต่อบุคคลอื่น โดยเฉพาะในส่วนของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวประเทศไทย เราร่วมแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทางตำรวจท่องเที่ยวพยายามบริการดูแลให้เกิดความสบายใจต่อไป โดยพาไปทำทุกอย่างและก็แฮปปี้ วันนี้ก็พาไปยื่นเรื่องเยียวยาที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกาญจนบุรี และตอนนี้นักท่องเที่ยวผู้เสียหายได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ เป็นที่น่าพอใจ โดยจะเดินทางกลับประเทศในวันที่ 5 มิ.ย.66 ที่จะถึงนี้ จากเรื่องที่เกิดขึ้นโดยสรุปแล้ว สถานการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวจริงๆ ผมว่ามันปลอดภัย จะบอกว่าถ้าอยู่ในเส้นทางที่เที่ยวในที่ที่กำหนดดีกว่า"
ด้าน จ.ส.ต.พรชัย พูนสวัสดิ์ ผู้บังคับหมู่สถานีตำรวจท่องเที่ยว 1 กาญจนบุรี กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางตำรวจท่องเที่ยวเราก็ได้ให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยการนำพานักท่องเที่ยวจากที่พักไปแจ้งความที่ สภ.ศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นเราให้นักท่องเที่ยวนำไปจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ่อขยะร้างบริเวณทางเข้าใกล้ๆน้ำตกเอราวัณ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุที่อยู่นอกเส้นทางของน้ำตก ทางผู้ต้องหาก็เหมือนบอกให้นักท่องเที่ยวว่าเป็นช่องทางไปน้ำตกได้ และนักท่องเที่ยวก็ได้ตามเข้าไปซึ่งเป็นพื้นที่เปลี่ยว สุดท้ายก็เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้มีคำสั่งไล่ออกและเลิกจ้างนายปราโมทย์ ผู้ก่อเหตุออกจากตำแหน่งลูกจ้างทันที และประสานตำรวจ สภ.ศรีสวัสดิ์ ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และล่าสุดเวลา 12.00 น. นายประวัฒน์ พวงทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้ประสานงานมายังตำรวจท่องเที่ยวกาญจนบุรีเพื่อสอบถามเกี่ยวกับที่พักของผู้เสียหายเพื่อจะเดินทางไปขอพบและแสดงความเสียใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พบว่านักท่องเที่ยวสาวผู้เสียหายได้เดินทางเข้า กทม.ไปก่อนแล้ว - 003