ฝืนคำสั่ง "บ้านสุขาวดี" เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ดื้อสั่งคนงานเข้าซ่อมแซมต่อเติมเวทีอาคารรุกที่สาธารณะ-ก่อสร้างโดยไม่ ได้รับอนุญาต หลังเมืองพัทยาเพิ่งเข้ารื้อถอนพื้นที่ของอาคารบางส่วนไปไม่ถึง 3 วัน
ความคืบหน้ากรณีที่เมืองพัทยามีคำสั่งห้ามใช้ ต่อเติม ระงับ และห้ามใช้อาคาร ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารจำนวน 3 หลังภายในบริเวณบ้านสุขาวดี ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะในส่วนของอาคาร A ซึ่งเป็นอาคารและเวทีขนาดใหญ่ที่ก่อสร้างอยู่บนพื้นที่ดินสาธารณะขนาด 11 ไร่ 1 งาน โดยสร้างอาคารเป็นโครงเหล็ก 2 ชั้นจำนวน 1 หลังและป้ายโฆษณาจำนวน 2 ป้าย ซึ่งมีการฟ้องร้องและอุทธรณ์กันตั้งแต่ระดับจังหวัดไปจนถึงการฟ้องร้องที่ศาลปกครองว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดย "บ้านสุขาวดี" ให้เหตุผลว่าอาคารดังกล่าวตั้งอยู่พื้นที่งอกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เมืองพัทยามั่นใจว่าจากแนวเขตการรังวัดและภาพถ่ายทางอากาศนั้นเป็นการบุกรุกพื้นที่สาธารณะอย่างแน่นอน จึงเป็นข้อพิพาทเพื่อรอผลการตรวจสอบ
กระทั่งต่อมาศาลปกครองได้มีคำสั่งคุ้มครองเป็นการชั่วคราวเพื่อตรวจสอบและล่าสุดศาลก็มีคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองแล้ว เมืองพัทยาจึงได้เร่งรัดเข้ามาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนอาคาร B และ C เมืองพัทยาแจ้งว่าจากการรังวัดแนวเขตจากระดับน้ำทะเลสูงสุด แล้วพบว่าอาคารอยู่ในแนวที่มีการล่วงล้ำลำน้ำ โดยปัจจุบันได้มีการตัดพื้นที่ของอาคาร C ไปแล้วเพื่อลดขนาดให้อยู่ในระยะห่างจากทะเลตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนอาคาร B นั้นยังคงรอการดำเนินการอยู่เนื่องจากการศาลยังให้การคุ้มครอง
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (2 มิ.ย.66) นายสุริยา แก้วเขียว ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร นายมารุต อุทัยวัฒนานนท์ วิศว กรโยธาชำนาญการ นายเกียรติศักดิ์ คงเขียว วิศวกรโยธาชำนาญการ นายกฤษฎาสิทธิ์ เกษจินดา นายช่างโยธา นายชัยวัฒน์ แจ้งสว่าง นายช่างโยธาชำนาญการ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง และเจ้า หน้าที่สำนักการช่างเมืองพัทยา นำกำลังบุคลากรกว่า 20 คน พร้อมอุปกรณ์และเครื่องจักรหนัก อาทิ รถแบ็คโฮ รถบรรทุก เดินทางกลับมายัง บ้านสุขาวดี ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อีกครั้งเพื่อดำเนินการรื้อถอนอาคารหลังดังกล่าวอีกรอบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้คือในวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา เมืองพัทยาได้ทำการตัดน้ำ ตัดไฟ และทุบรื้อพื้นที่เวทีและอุปกรณ์ตกแต่งบางส่วนออกไป เพื่องดไม่ให้ทางบ้านสุขาวดีสามารถใช้พื้นที่ในการจัดงานได้ ระหว่างที่รอช่วงเวลาในขบวนการจัดซื้อ-จัดจ้างตามกฎหมาย เพื่อให้ ภาคเอกชนเข้ามารับเหมางานรื้อถอนอาคารทั้งหมดออกจากพื้นที่ไปอย่างเป็นรูปธรรม
นายสุริยา แก้วเขียว ผอ.ส่วนควบคุมอาคารเมืองพัทยา ระบุว่าอาคารดังกล่าวถือว่าสิ้นสุดขบวนการไปแล้วหลังศาลปกครองยกเลิกการคุ้มครอง ด้วยพบว่าเป็นอาคารที่ปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต และอยู่ในพื้นที่พิพาทเพื่อรอพิสูจน์ทราบว่าที่ดินสาธาณะขนาด 11 ไร่ 1 งานหรือไม่ โดยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เมืองพัทยาจึงนำกำลังพร้อมอุปกรณ์เข้ามาทำการรื้อถอน ตัดน้ำ-ตัดไฟ พร้อมมีคำสั่งห้ามการก่อสร้าง ต่อเติม หรือใช้อาคาร ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารอย่างเข้มงวด
แต่ปรากฏว่าช่วงสายวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงมาตรวจพื้นที่กลับพบว่าทาง "บ้านสุขาวดี" มีการกระทำที่ฝ่าฝืนคำสั่ง โดยพบว่ามีการมอบหมายให้คนงานเข้ามาทำการซ่อมแซมและปรับปรุงอาคาร รวมทั้งเวทีการแสดงที่เมืองพัทยาได้ทุบทำลายไปบางส่วนเพื่อนำกลับมาใช้งานใหม่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำเรื่องเข้ารายงานต่อเมืองพัทยา กระทั่งมีการหารือพร้อมขนสรรพกำลังเข้ามารื้อถอนอีกครั้ง ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้จะมีการทุบทำลายอาคารเพื่อให้เกิดความเสียหายมากขึ้นจนไม่สามารถใช้งานได้ ตามกำลังของอุปกรณ์และคนที่สามารถสนับสนุนภารกิจได้อย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ยังขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสนับสนุนภารกิจ ซึ่งหากพบว่ามีการขัดขวางก็จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
นายสุริยา กล่าวต่อไปว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมอาคาร ส่วนควบคุมอาคาร สำนักการช่างเมืองพัทยา ในฐานะนายตรวจ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 ไปลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ด้วยจากการเข้าตรวจสอบอาคารดังกล่าวอีกครั้งพบว่ามีบุคคลซึ่งน่าเชื่อได้ว่าเป็นพนักงานของบริษัทฯได้เข้ามาปรับปรุงอาคารเวทีซึ่งเมืองพัทยาได้ทำการรื้อถอนไปเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ดังนั้น การกระทำดังกล่าวจึงถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามใช้หรือยินยอมให้บุคคลใดเข้าไปในอาคารที่เมืองพัทยาได้ออกคำสั่งห้ามใช้อาคาร (แบบ ค.4) ในส่วนนี้จะได้ใช้ประกอบการแจ้งความร้องทุกข์กรณีฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารต่อไป
มีรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้เมืองพัทยายังเตรียมดำเนินการตามกฏหมายในกรณีที่มีบางหน่วยงานจัดทำโครงป้ายเหล็กขนาดใหญ่ภายในโครงการบ้านสขุขาวดี แต่มีแนวป้ายคร่อมพื้นที่ของทางสาธารณะที่ติดกับซอยสุขุมวิท 8 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไปเช่นกัน