เมียแค้นจัด! ผัวโดดขึ้นหน้ารถ กระทืบกระจกหน้าแตก ฝากรอยเท้าไว้กระจกหลัง ผัวคิดว่าเมียโดนสระน้ำตาย ขอแรงกู้ภัยกว่า 30 คน งมหา 2 ชม. ไร้วี่แวว ญาติโทรมาแจ้งว่าพบตัวแล้วอยู่บ้าน เมียขอย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีกเลยพอแล้ว
3 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองการุ้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือจาก นายอเนก อายุ 36 ปี สามี ว่าภรรยาตนเอง ชื่อ น.ส.เกศรา หรือ ม่วย อายุ 33 ปี หลังตนเองได้มีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง หลังจากนั้น น.ส.เกศรา ได้ขับรถยนต์อีซูซุ สีขาว กระบะ 4 ประตู ทะเบียน รกณ 4636 กรุงเทพ ออกมาด้วยความโมโห ตนได้วิ่งไปห้าม โดยกระโดดขึ้นหลังกระบะแล้วใช้เท้าถีบที่กระจกหลัง ไป 3-4 ครั้ง แต่ น.ส.เกศรา ไม่ยอมหยุดรถยนต์ ตนจึงวิ่งไปยืนขวางหน้ารถยนต์ และวิ่งขึ้นที่ฝากระโปรงอีก แล้วใช้เท้าถีบไปที่กระจกหน้าตรงคนขับ จนกระจกหน้าแตก หลังจากนั้น น.ส.เกศรา ได้วิ่งลงจากรถยนต์แล้ววิ่งหนีไปที่สระน้ำ ตนคาดว่าจะโดดสระน้ำเสียชีวิตหรือไม่ ภายในสระน้ำ หมู่ 3 บ้านใหม่คลองเคียน ต.บ้านใหม่คลองเคียน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
หลังจากได้รับแจ้ง จึงวิทยุประสานไปยัง กู้ภัยอุทัยธานี (ชุดประดาน้ำ) ไปยังที่เกิดเหตุ บริเวณสระน้ำดังกล่าว พบชาวบ้านจำนวนมากต่างมายืนมุงดู ในเนื้อที่สระน้ำ 1 ไร่ ที่มีความลึก 5 เมตร กู้ภัยอุทัยธานีจำนวนกว่า 30 นาย ภายในสระน้ำมีชุดประดาน้ำจำนวน 7 คน ลงไปดำหา น.ส.เกศรา ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง กลางแสงแดดที่ร้อนจัด แต่ก็ยังไร้วี่แววไม่พบตัว โดยมีนายอเนก ผู้เป็นสามีพร้อมกับญาติๆทั้ง 2 ฝ่ายและชาวบ้านมายืนมุงดูเป็นจำนวนมาก
หลังจากนั้น นายอเนก ได้นำธูปมาจุดบอกเจ้าที่เจ้าทาง พอปักธูปลงดิน ก็ได้มีโทรศัพท์จากนางสายลม ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.เกศรา แจ้งมาว่าพบ น.ส.เกศรา แล้ว โดยได้เดินจากจุดเกิดเหตุกว่า 10 กิโล มาถึงบ้านตนเองแล้ว สร้างความดีใจให้กับญาติๆและผู้เป็นสามี พร้อมกับนำตัว น.ส.เกศรา มาพบเจ้าหน้าที่เจ้าตำรวจเพื่อสอบปากคำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ร.ต.อ.จตุพร แก้วการไร่ ร้อยเวร สภ.เมืองการุ้ง ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับได้ยึดรถยนต์มายัง สภ.เมืองการุ้ง เพื่อเจราค่าเสียหายกับนายอเนก โดย น.ส.เกศรา เปิดเผยว่า ตนเองแต่งงานอยู่กินกับสามีมาได้ 2 ปี ซึ่งตนเองได้ทะเลาะกันบ่อยครั้ง และอยากจะออกไปจากตรงนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะทะเลาะกันเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว และนายอเนกเป็นคนอารมณ์รุนแรงและหึงหวงมาก
ช่วงที่เกิดเหตุ มีปากเสียงที่กระท่อม ตนเองก็ขับรถยนต์ออกมา นายอเนกได้วิ่งมาแล้วขึ้นกระบะท้าย ใช้เท้าถีบไปที่กระจกหลัง 3-4 ครั้ง แต่กระจกไม่แตก หลังจากนั้นขึ้นไปที่ฝากระโปรงรถยนต์อีกแล้วใช้เท้าถีบที่กระจกหน้าตรงคนขับจนกระจกหน้าแตก ด้วยความตกใจ ตนรีบเปิดประตูวิ่งหนีเลยมาที่ขอบสระน้ำ แล้ววิ่งเข้าป่าอ้อย แล้วเดินไปหาคนรู้จัก เพื่อขอให้มาส่งที่บ้านแม่ ตนโมโหมากที่ใช้เท้าถีบกระจกหน้ารถแตกและกระจกหลังฝากรอยเท้าของนายอเนกไว้ด้วย ซึ่งรถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์ที่แฟนเก่าเสียชีวิตไปแล้วได้สร้างมากับตนเอง มันเจ็บในใจ ไม่ให้เกียรติเรา และไม่ให้เกียรติสิ่งของเรา
ตนขอบอกตรงนี้เลยว่า ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับนายอเนก อดีตสามีอีก ไม่อยากมีอะไรที่มันผูกพันธ์กันอีกแล้ว ต่างคนต่างอยู่ โดยให้รับผิดชอบคือซ่อมกระจกรถยนต์ให้ใหม่ มันรุนแรงเกิดไปที่เอาเท้ามาถีบหน้ารถยนต์ ทุกอย่างเขารู้หมด ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรกับตัวหนูแล้ว พอกันที่กล่าวในทีสุด -009