วันที่ 6 มิ.ย.66 นายเหมย บุญทา อายุ 71 ปี พร้อมด้วยนายชัยศักดิ์ คนชม (ทนายหลี) และชาวบ้านทรายมูล หมู่ที่ 8, บ้านศิริราษฎร์ หมู่ 14 และบ้านท่าหลุก หมู่ 16 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จำนวน 30 คนรวมกว่า 16 ครอบครัวได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อขอยื่นหนังสือกับนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หลังจากต้องถูกดำเนินคดีรุกที่ ส.ป.ก.ในเขตพื้นที่ทั้ง 3 หมู่บ้าน โดยเรียกร้องขอให้ทางจังหวัดช่วยประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระงับการดำเนินคดีกับเกษตรกรที่ทำกินบนที่ดินเลขที่ 6 ส.ป.ก.พื้นที่ ต.แม่ยาว โดยชาวบ้านซึ่งเป็นเกษตรกรต่างพร้อมใจถือป้ายเขียนข้อความที่ระบายความอัดอั้นตันใจ อาทิ "ร้องขอความเป็นธรรมที่ดินทำกินในเขต ส.ป.ก.ชาวบ้านเดือดร้อนมาก ขอความเป็นธรรมที่ดินทำกินเขต สปก.ทำกินมา 20 ปี ถูกแจ้งข้อหารุกที่ (ส.ป.ก.)"
เวลาต่อมานายลิขิต มีเสรี ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย ได้เป็นตัวแทนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในการรับหนังสือร้องเรียนพร้อมกับเชิญตัวแทนชาวบ้านจำนวน 6 ท่าน เข้าหารือและรับฟังปัญหาโดยตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า พวกตนนั้นได้ทำกินในพื้นที่ดังกล่าวก่อนปี พ.ศ.2533 โดยก่อนที่จะมีการประกาศ เป็นพื้นที่ ส.ป.ก.ต่อมาในปี 2546 ได้มีนายทุนร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนได้มาทำการขับไล่พร้อมทำลายทรัพย์สินชาวบ้านและผลักดันให้ชาวบ้านออกจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ชาวบ้านที่เดือดร้อนจึงได้ร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข
จนกระทั่ง พ.ศ.2559 คณะ คสช.ได้เข้ามาบริหารประเทศ ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจึงร้องเรียนไปยังหัวหน้า คณะ คสช. แล้วคณะ คสช.จึงได้แก้ปัญหาดำเนินการสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการยึดพื้นที่ของนายทุน 309 ไร่ และชาวบ้านอีก 200 ไร่ ตามคำสั่ง คสช.ที่ 36/59 แต่ได้ระบุไว้ว่าให้จัดสรรให้เกษตรกรที่ได้ทำกินในที่ดินเดิมตามข้อ 9(2)
ส่วนที่ดินส่วนที่เหลือจากการจัดสรรให้เกษตรกรเดิม ให้นำไปจัดสรรให้กับเกษตรกรที่ยากไร้ ทำให้พื้นที่ ส.ป.ก.ที่จะจัดสรรให้ชาวบ้านที่ยากไร้จริงๆ 300 ไร่ ซึ่งหลังจาก คสช.ได้ดำเนินการแต่พบว่า ส.ป.ก.ยังไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่งของ คสช.แต่อย่างไร ทำให้ชาวบ้านและเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนไปยื่นหนังสือร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐไปยัง ป.ป.ช.จังหวัดเชียงราย พร้อมขอร้องความเป็นธรรมไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่ กทม.รวมถึงมูลนิธิภูบดินทร์ในพระราชูปถัมภ์ เรื่องต่างๆ เหล่านี้อยู่ในระหว่างการพิจารณา
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ส.ป.ก.เชียงราย ได้แจ้งข้อกล่าวว่าหาชาวบ้านที่ได้ทำกินในพื้นที่ ส.ป.ก.เดิม ว่าทำการรุกที่ ส.ป.ก.ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีการบุกรุกตามคำสั่ง คสช.ที่กล่าวมา ที่มาในวันนี้เพื่อร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้โปรดระงับการดำเนินคดีชั่วคราวของ ส.ป.ก.จังหวัดเชียงราย รอจนกว่าหน่วยงานต่างๆ ที่เกษตรกรได้ร้องเรียนแจ้งผลกลับมา
พ่อเหมย บุญทา 71 ปี บ้านท่าหลุก หมู่ 16 ต.แม่ยาว ตัวแทนเกษตรกร กล่าวว่า ที่เดินทางมาวันนี้เพื่อยื่นหนังสือกับศูนย์ดำรงธรรม หลังถูกฟ้องร้องดำเนินคดีรุกที่ ส.ป.ก.ทั้งที่ตนเองทำกินในพื้นที่ดังกล่าวก่อนประกาศเป็นเขต ส.ป.ก.ทำไมไม่ไปจัดการกลุ่มนายทุนที่ยึดครองที่ 309 ไร่ ไปทำการจัดสรรขายต่อแต่กลับมาดำเนินคดีกับชาวบ้าน
ด้านนายชัยศักดิ์ คนชม (ทนายหลี) กล่าวว่า คดีที่ ส.ป.ก.เชียงรายแจ้งเอาผิดกลุ่มเกษตรกร 16 ราย ไว้ที่ สภ.แม่ยาว จะมีการทยอยเรียกเกษตรกรเป็นรายๆ ไป โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไปจนกว่าจะครบ ซึ่งไม่รู้กำหนดเวลา ซึ่งหลังจากยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แล้ว หากยังไม่เป็นผลจะเร่งดำเนินการติดตามผลที่เกษตรกรได้ยื่นไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดผลต่อคดีต่อไป
ทั้งนี้ นายลิขิต มีเสรี ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ตามที่ชาวบ้านใน 3 หมู่บ้านเดินทางมาพบตนนั้นเพื่อระงับการดำเนินคดีกับเกษตรกรที่ทำกินอยู่ในเขตพื้นที่ ส.ป.ก.509 ไร่ ในพื้นที่ตำบลแม่ยาว เดิมทีพื้นที่ตรงนี้อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ดำเนินการจัดสรรให้เกษตรกรเพื่อทำกินแต่ด้วยเป็นพื้นที่ที่เป็นพื้นที่จำนวนมากจึงทำให้ล่าช้า เพราะต้องสำรวจข้อมูลให้ชัดเจนเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน ส่วนกรรณีที่เกษตรกรมายื่นหนังสือหลังจากรับจะเร่งดำเนินการนำเสนอต่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมเร่งส่งข้อมูลทั้งหมดให้ ส.ป.ก.เชียงราย เร่งทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่าง ๆ และรายงานมายังผู้ว่าราชการและศูนย์ดำรงธรรมภายใน 30 วัน ส่วนรูปคดีก็คงต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี