เกิดเหตุสลดผัวรุ่นเดอะวัย 60 ปีเกิดอาการหลอนกินเหล้าและเสพยาหนัก ราดน้ำมันใส่เมียตาบอดชาวพม่าก่อนจุดไฟเผาดับคาบ้าน กำนันพร้อมชาวบ้านช่วยกันจับเอาไว้ได้ ร้องไห้ฟูมฟายอยากตายตามเมียไปด้วย
วันนี้ (7 มิ.ย.66) เมื่อเวลา 08.00 น.ตำรวจ สภ.ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งมีเหตุผัวใช้น้ำมันราดจุดไฟเผาเมียตัวเองจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 9 บ้านคำภูเงิน ต.บ้านตาด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.จำลอง ทับสีแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ดงเย็น พร้อม ร.ต.อ.บุญหนัก สุทธิบริบาล รองสว.(สอบสวน) สภ.ดงเย็น เดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพ อบต.บ้านตาด ตำรวจชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวเก่าๆ ฝาบ้านมุงด้วยสังกะสี พบนายนิรุตต์ พรหมนอก กำนันตำบบ้านตาดและชาวบ้านช่วยกันจับกุมตัวคนเผาเมียเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ทราบชื่อคือนายสมร หรือนายหวาย อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและจุดไฟเผาเมียตัวเองเสียชีวิตคาบ้าน หลังจับกุมได้นายสมร มีอาการร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก เสียใจที่เมียตายและตัวเองไม่ตายตามไป
ส่วนบริเวณหลังบ้านพบศพนางสีนวล อายุประมาณ 58 ปีถูกไฟเผาไปทั้งร่างเสียชีวิตสภาพศพไหม้เกรียม มือหงิกงอ บริเวณข้างบ้านพบน้ำมันดีเซลบรรจุใส่ขวดน้ำตั้งอยู่ 2 ขวด โดยนางสีนวลเป็นภรรยาของนายสมร และเป็นคนพิการตาบอด แต่ทั้งคู่ก็อยู่บ้านหลังนี้มานานกว่า 5-6 ปีแล้ว โดยมีนายสมร คอยดูแลเมียที่พิการตลอด จนวันนี้เกิดเหตุเมื่อนายสมรจุดไฟเผาเมียตัวเองตายและหวังจะฆ่าตัวตายตามไปด้วยคาดว่าคงทุกข์ใจเรื่องชีวิตที่พาเมียตาบอดต้องลำบาก
นายบัญญัติ อายุ 63 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์คนแรก เปิดเผยว่า นายสมรอยู่บ้านหลังนี้กับเมียสองคน โดยเขาต้องคอยดูแลเมียพม่าที่ตาบอด ก่อนเกิดเหตุเวลา 08.00 น. เจ้าของร้านค้าอยู่ตรงข้ามวิ่งหน้าตื่นไปบอกตนที่บ้านอยู่ห่างประมาณ 20 เมตรว่า นายหวายเผาบ้านแล้ว ตนจึงรีบเข้าไปช่วย ตอนแรกก็นึกว่าเขาไม่เผาคน แต่เห็นนายหวายเผาเมียแล้ว ไฟก็ลุกพรึบๆ ขณะที่นายหวายก็นอนข้างๆ เมีย ตนก็รีบเอาน้ำมาดับสาดไปที่เมียนายสมร แต่ก็ไม่ทันไฟไหม้มือหงิกงอตายแล้ว
"เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา นายสมรมีอาการหลอนนอนกลางถนนแล้วโวยวายมาแล้ว ไม่คิดว่าวันนี้จะมาเผาเมียตัวเอง เหตุเผาเมียตัวเองคิดว่าเขากินเหล้าและเสพยาหนักทำให้หลอน หวังฆ่าเมียตัวเองแล้วตัวเองจะตายตามเหตุการณ์นี้สะเทือนใจชาวบ้านอย่างมาก เพราะในหมู่บ้านไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย - นายบัญญัติ กล่าว - 003