ค้น 2 จุดเมืองชล ล่าแก๊งจีนหลอกเช่าวัตถุมงคล แสบใช้‘นอมินี’คนไทย

ความคืบหน้ากรณีตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) , ตม.ชลบุรี และตำรวจท่องเที่ยวพัทยา เข้าจับกุมแก๊งชาวจีนหลอกเช่าวัตถุมงคลให้กับนักท่องเที่ยวในราคาสูง โดยสามารถจับกุมชาวจีนได้ทั้งหมด 12 คน ภายในวันเขาชีจรรย์ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : มันกลับมาแล้ว!จับแก๊งจีนแสบ เช่าที่วัดให้เช่าวัตถุมงคลราคาแพง เร่งล่านายทุน)

ล่าสุดวันนี้ (11 มิ.ย.66 ) พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จว.จันทบุรี , ชุดทำงานสืบสวน ตร. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรืองนวมดี รอง ผกก.สส.สภ.สัตหีบ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จ.ชลบุรี , ตม. , ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยาเข้าค้น 2 จุด เพื่อหาหลักฐานต่างๆซึ่งเป็นเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับแก๊งชาวจีนที่หลอกเช่าวัตถุมงคลราคาสูงให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจากสามารถออกหมายจับชาวจีน 2 คน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน 

จุดแรกเข้าค้นที่ร้านอาหารไทยจีน ตั้งอยู่บนถนนพัทยานาเกลือ หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบพนักงาน 10 คน เป็นคนไทย 4 คน สัญชาติเมียนมา 4 คน และสัญชาติจีน 2 คน เบื้องต้นคนงานสัญชาติเมียนมา มีความผิดเกี่ยวกับการทำงานผิดนายจ้าง 2 คน นอกจากนั้นยังตรวจยึดหลักฐานต่างๆภายในร้านไปตรวจสอบ อาทิ เครื่องรูดบัตรเครดิต เอกสารๆที่พบในร้านไปตรวจสอบหาความเชื่อมโยงกับชาวจีนทั้งสองที่ออกหมายจับ

จุดที่ 2 เข้าค้นที่บ้านหลังหนึ่งเลขที่ในหมู่บ้านภายใน ซ.เขาน้อย ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของชาวจีนที่ถูกออกหมายจับ แต่ไม่พบชาวจีนที่ถูกออกหมายจับ พบเพียงชาวจีนเป็นผู้หญิง 2 คน และเด็ก 1 คน อ้างว่าเป็นผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชาวจีนที่ถูกออกหมายจับทั้ง 2 คน เบื้องต้นไม่พบหลักฐานอะไรที่เกี่ยวข้องกับชาวจีนที่ออกหมายจับ 

พ.ต.อ.เขมรินทร์ กล่าวว่า จากการจับกุมของชุดสืบสวนชลบุรี เมื่อวันที่ 6 พ.ค.66 ก็ประมาณ 1 เดือน ซึ่งพบหลักฐานต่างๆ จึงเข้ามาค้นในวันนี้ 2 จุด เป็นบ้านที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับชาวจีนที่ถูกออกหมายจับ อีกจุดเป็นร้านอาหารซึ่งคนจีนที่ถูกออกหมายจับเป็นเจ้าของ โดยได้นำเครื่องรูดบัตรเครดิตที่ธนาคารออกให้กับร้านอาหารนำไปรูดบัตรเพื่อชำระค่าเช่าวัตถุมงคล นอกจากนั้นทางชาวจีนที่ทำธุรกรรมกับทางวัดนั้น เอกสารยังมีข้อสงสัย คล้ายนิติกรรมอำพราง ซึ่งเรามีหลักฐานก็ต้องสืบสวนขยายผลต่อไป

พ.ต.อ.เขมรินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่ชาวจีนมาดำเนินกิจการจำหน่ายวัตถุมงคลตามวัดนั้น จะมีคนไทยเป็นคนกลางเป็นนอมินีให้ ในปัจจุบันมีพยายามตัดตอน และชาวจีนมีความระมัดระวังรอบคอบมากขึ้นด้วย ซึ่งจะมีคนไทยเข้าไปดำเนินการทางนิติกรรมแทนคนจีน เรามีพยานหลักว่ามีชาวจีนเป็นผู้รับผลประโยชน์ และเจ้าของกิจการตัวจริงอยู่เบื้องหลัง ส่วนกรณีทางวัดมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ของวัดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นประโยชน์ในแนวทางการสืบสวนอย่างมาก พนักงานสอบสวนต้องตรวจสอบหลักฐานสัญญาต่างๆว่าเท็จจริงอย่างไร ขอเวลาทางเจ้าหน้าที่ชุดทำงานอีกสักระยะ

-005