ชาวประมง‘สตูล’ จอดเรือปิดร่องน้ำ‘ปากบารา’ ทวงสัญญาหลังเรือ 3 ลำถูกจับ
13 มิถุนายน 2566 ความคืบหน้าเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลกระบี่บูรณาการร่วมกับหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ (สตูล) ออกปฏิบัติงานตรวจปราบปรามผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 และ พ.ศ.2560 (ฉบับแก้ไข) พบเรือประมงใช้เครื่องมือ อวนครอบปลากะตักที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) กำลังลักลอบทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่งบริเวณ เกาะเละละ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ห่างจากชายฝั่งเกาะเละละ ประมาณ 969 เมตร จึงเข้าทำการตรวจสอบและจับกุมเรือประมง 3 ลำ พร้อมลูกเรือรวมจำนวนทั้งสิ้น 12 คน ดำเนินคดีที่ สภ.เกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล ส่งผลให้ชาวประมงเรืออวนปลากะตักทุกลำที่ทำการประมงในพื้นที่ ไม่กล้าออกทำการประมงต่อไปอีกได้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 มีการนำเรือมาจอดบริเวณปากทางเข้าออกร่องน้ำปากบารา ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางแก้ไขในเรื่องพื้นที่ทำกินการประมง ตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่และพื้นที่ทับซ้อนของเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา พร้อมอ้างถึงวันที่ได้มาทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น นายอำเภอ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล หัวหน้าอุทยานเกาะตะรุเตา สมาชิกสภาจังหวัด สมาคมประมงจังหวัดและผู้นำชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้มีการลดหย่อนพื้นที่ออกทำการประมงพื้นบ้านที่มีขนาดไม่เกิน 10 ตันกรอส จนกว่าจะหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
อีกทั้งได้อ้างถึงเอกสารประกอบกับวันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เชิญตัวแทนประมงพื้นบ้านเข้าร่วมประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาพื้นที่ทำประมงในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และได้ประสานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับเรื่องความเดือดร้อนจากการประกาศเขตไมล์ทะเลไว้พิจารณา พร้อมเร่งรัดการประชุมกับคณะกรรมการประมงจังหวัด ประกอบด้วย ประมงจังหวัดและอุทยานว่าจะกำหนดเขตใหม่เพียงทะเลเพียงใดมีร่องน้ำใดที่ชาวบ้านสามารถประกอบอาชีพต่อไปได้ ซึ่งทาง อ.ละงู ได้ทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือจึงขอให้ท่านช่วยติดตามความคืบหน้าดังกล่าวและแจ้งให้กรมประมงทราบอีกทางหนึ่งด้วย
นายวรวิทย์ หมีนหวัง อายุ 38 ปี ตัวแทนประมงปลากะตักผู้ยื่นข้อเรียกร้อง เปิดเผยว่า การนำเรือมาครั้งนี้เพื่อทวงสิทธิ์ในครั้งนั้นที่มีการพูดคุย มาวันนี้ยังมีการจับกุมอีกและหากมีการเสียค่าปรับไปแล้วตามที่เจ้าหน้าที่จับกุมกล่าวอ้างว่าไม่รู้การทำข้อตกลงกัน แล้วจะจับกุมอีกหรือไม่ การจอดเรือในครั้งนี้ไม่ต้องการให้ใครเดือดร้อนหรือเสียหาย แต่จะจอดอยู่แบบนี้ไปจนกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรไม่เอาแล้วด้วยวาจา
จากนั้นได้มีการพูดคุยเจรจากับนายธวัช ช่วยเกตุ ปลัดอาวุโสอำเภอละงูพร้อมยื่นหนังสือข้อเสนอต่อผู้บังคับบัญชา และเชื่อว่าจะสามารถพูดคุยกันได้สถานการณ์น่าจะคลี่คลายในเร็ววัน เพราะที่ผ่านมากลุ่มประมงดังกล่าวก็พร้อมพร้อมจะปฏิบัติตามหากมีการชี้แจงพูดคุยเพื่อให้พวกเขามีพื้นที่ทำกิน
ขณะที่เรือเรือสปีดโบทโดยสารจำนวน 20 ลำวิ่งจากท่าเทียบเรือปากบารา ต.ปากน้ำ ไปยังเกาะตะรุเตาและหลีเป๊ะ ซึ่งต้องวิ่งผ่านร่องน้ำคลองปากบารา ยังไม่เชื่อมั่นถึงสถานการณ์ว่าจะยืดเยื้อหรือไม่ จึงได้นำเรือไปจอดลอยลำบริเวณชายหาดปากบารา และที่บริเวณแหลมเต๊ะปันไว้ชั่วคราวทั้ง 2 จุด เพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์ชาวประมงปลากะตักเกิดนำเรือปิดอ่าวบริเวณร่องน้ำปากคลองปากบารา จะได้ไม่เกิดผลกระทบกับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางจากท่าเทียบเรือปากบารา ไปยังเกาะหลีเป๊ะได้.........-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี