nn ประชาชนที่พบเห็นความเลวร้ายบนถนนเกี่ยวกับรถเมล์ควันดำ ร้องทุกข์ถึง “แนวหน้า” วิงวอนให้ช่วยตรวจสอบรถเมล์ ขสมก. สาย 23 เลขรถ 3-40363 (ครีมแดง) วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารบนถนนเอกมัยอย่างเร่งด่วน เนื่องจากรถคันดังกล่าวนอกจากมีสภาพ “โกโรโกโส” แลัวยังปล่อยควันดำไม่สนใจชาวบ้านหนักหน่วงทุกวัน ท่ามกลางที่ ขสมก. ไม่มีปัญญาดูแลแก้ไขให้ดูดี จึงไม่รู้ว่าผู้บริหาร ขสมก. ทำอะไรกันอยู่ เพราะนอกจากจะวิ่งอุจาดปล่อยควันดำหนักหน่วงแล้ว เสียงร้องของประชาชนที่โทรศัพท์เข้าไปแจ้ง ก็ถูกเมินมีค่าแค่เสียง “จิ้งจก จิ้งหรีด ตุ๊กแก” ร้องกันอย่างไรกี่วันกี่เดือน ทุกอย่างยังเหมือนเดิม นั่นแสดงว่า ขสมก. ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม ไม่สนใจสุขภาพประชาชนเหมือนดังที่เคยคุยโม้โอ้อวดไว้เลย คำว่ารักสิ่งแวดล้อมของ ขสมก. ซึ่งออกอากาศโฆษณา จึงมีราคาแค่การโฆษณาชวนเชื่ออันน่าเกลียดน่าขยะแขยงอย่างยิ่ง ดังนั้น ต่อไปนี้จึงอยากฝากความหวังไว้ที่ “สื่อ” ช่วยกระตุ้นความรับผิดชอบของ ขสมก. 

nn บอกตรงๆ เมื่อได้อ่านจดหมายดังกล่าวแล้ว “ไผ่ฎำ” จึงลงไปดูทันที เพราะอยากรู้ว่าประเด็นที่ร้องมานั้นเป็นจริงหรือเท็จปรากฏว่า “โอละพ่อ” รถเมล์คันนี้สับปะรังเคสกปรกจริงๆที่ร้ายกว่านั้นก็ยังปล่อยควันดำสุดทุเรศอีกต่างหาก อนิจจารถที่วิ่งตามหลัง โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ซึ่งถือว่าแน่ เพราะสามารถวิ่งหลบหลีกได้ ยังร้องด่าเสียงดังลั่น“ไอ้ทุรยศ” หน้าด้านหน้าทนออกมาวิ่งได้อย่างไร 

nn น่าแปลกตำรวจจราจรผู้ดูแลรับผิดชอบก็ไม่เคยออกใบสั่งหรือจับกุม ปล่อยให้ออกมาวิ่งปล่อยควันดำแสลงใจประชาชน อวดโชว์ความไม่เอาไหนให้นักท่องเที่ยวเจอะเจอตลอดเวลา จนนักท่องเที่ยวที่พบเห็นพากันส่ายหัวคล้ายจะบอกว่านี่คือความ “อัปมงคล” ที่ได้สัมผัส และไม่รู้หน่วยงานรับผิดชอบเขาปล่อยไว้ได้อย่างไร 

nn พูดกันตรงไปตรงมาเรื่องนี้เมื่อ ขสมก. ละเลย หน่วยงานที่จะประกาศิตได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดคือ ตำรวจจราจร หรือถ้า กทม. เจ้าของพื้นที่ทุบโต๊ะจับมือกับตำรวจอีกแรงชนิดไม่ไว้หน้า เชื่อว่า “ไอ้รถเมล์” ควันดำไม่เหลือซากแน่นอน แต่ที่ยังออกมาวิ่งหลอกหลอนชาวบ้านอยู่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก็เพราะหน่วยงานรับผิดชอบขาดความเอาใจใส่nn สำหรับรถไฟฟ้าที่นำออกมาวิ่ง ไม่ว่าใครหน่วยไหน รับผิดชอบถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและถูกต้องแล้ว สรุปพอกันทีกับนิยายผู้บริหาร ขสมก. “เตมีย์ใบ้” nn

ไผ่ฎำ