ผู้อำนวยการโรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมคณะผู้บริหาร และครูเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเพจเฟสบุ๊กรายหนึ่งหลังนำข้อความที่ไม่เป็นความจริง อ้างเป็นบทความนักเรียน และนำภาพเก่าครูกร้อนผมนักเรียนมาโพสต์ สร้างกระแสไม่ทำตามกฎระเบียบและเกิดความเสียหายให้กับทางโรงเรียน ย้ำนักเรียนทุกชั้น มีอิสระและผ่อนปรนในการไว้ทรงผมและแต่งกาย แต่ต้องอยู่กรอบระเบียบที่ทางโรงเรียนกำหนด
วันที่ 13 มิ.ย.66 นางกุสุมาวดี พลเรืองทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมคณะครูในโรงเรียน เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อุทัย จันบุตราช พนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าของเพจเฟสบุ๊กและผู้ที่เกี่ยวข้องกับเพจรายหนึ่ง ความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในข้อหานำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และหมิ่นประมาท หลังนำเสนอข้อความ พร้อมภาพครูกร้อนผมนักเรียน ซึ่งเป็นภาพเก่า เป็นการบิดเบือนและนำเสนอที่ไม่เป็นความจริงออกสู่สาธารณะชน และเผยแพร่ในโลกโซเชียล จนทำให้คนเข้าใจผิดและเกิดความเสียหาย
นางกุสุมาวดี พลเรืองทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า วันนี้ทางโรงเรียนได้เข้ามาแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับเพจเฟสบุ๊คแห่งหนึ่ง ซึ่งนำข้อความ ที่อ้างว่าเป็นบทความของนักเรียน และภาพเก่าไปโพสต์ ทั้งนี้ แม้ในข้อความจะไม่บอกถึงชื่อโรงเรียน แต่ก็ทำให้หลายคนเข้าใจได้ว่าเป็นโรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร โดยเฉพาะภาพที่ครูกร้อนผมเด็กนักเรียน ที่นำไปโพสต์ในเพจ เป็นภาพเก่าเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ซึ่งแต่ปัจจุบันครู และนักเรียนที่อยู่ในภาพก็ยังอยู่ในโรงเรียนทำให้หลายคนเข้าใจผิด และเกิดความเสียหาย
นางกุสุมาวดี กล่าวต่อว่า ในส่วนข้อความที่โพสต์ที่อ้างว่าเป็นบทความที่เขียนโดยนักเรียน ซึ่งมีลักษณะอธิบายความรู้สึกที่ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบของโรงเรียน โดยเฉพาะเรื่องทรงผมและการแต่งกาย พร้อมเรียกร้องเสรีภาพนั้นก็ไม่เป็นความจริง และมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงหลายเรื่อง เนื่องจากฎระเบียบของทางโรงเรียนฯ เช่น การแต่งกายและทรงผม นักเรียนชาย นักเรียนหญิง และในกลุ่มเพศสภาพนั้น ในการปฐมนิเทศทุกปีการศึกษา ทั้งระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทางโรงเรียน และผู้ปกครอง รวมทั้งนักเรียนก็ได้ประชุมร่วมกัน ซึ่งต่างก็เข้าใจ และยอมรับมติร่วมกันแล้ว ซึ่งเป็นที่รับรู้รับทราบกันโดยทั่วไป
อีกทั้งทางโรงเรียนก็ได้ผ่อนปรนพอสมควรและตามสถานการณ์ ไม่ได้คุมเข้มมากไป เพื่อให้นักเรียนและทุกฝ่ายมีความสุข ตามที่ปรากฏทุกวันนี้ คือนักเรียนทุกช่วงชั้น ทุกกลุ่ม มีอิสระในการไว้ทรงผม และการแต่งกาย แต่ต้องอยู่ภายในกรอบระเบียบที่ทางโรงเรียนกำหนด เพื่อให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่ง มีระเบียบ วินัย เป็นคนดีของสังคมและพ่อแม่ ซึ่งเป็นแนวทางและข้อปฏิบัติที่ยอมรับกัน นักเรียนมีความสุข เพราะไม่ได้ห้ามไว้ผม ไม่ได้มีการกร้อนผม หรือจับนักเรียนตัดผมอย่างที่ภาพเพจดังกล่าวในไปเผยแพร่ในโซเชียล จึงไม่ทราบว่าต้องการอะไร
นางกุสุมาวดี กล่าวอีกว่า ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีและรักษาชื่อเสียงของโรงเรียนที่มุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาการเรียนการสอน รวมทั้งบุคลากรครู และนักเรียน โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร จึงได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเพจดังกล่าวอย่างถึงที่สุดและขอให้หยุดพฤติกรรมทำลายความเชื่อถือของสถาบันการศึกษาและหยุดปลุกกระแสการไม่ยึดกฎระเบียบของโรงเรียน เพราะหากโรงเรียนสอนนักเรียนไม่ได้แล้วจะให้ใครเป็นผู้สอน
อย่างไรก็ตาม หากเพจดังกล่าวมีข้อสงสัยอยากมาดูด้วยตนเองว่าโรงเรียนเรามีการแต่งกาย มีการอนุญาตให้นักเรียนไว้ทรงผมและแต่งกายอย่างไรก็ขอเชิญเข้ามาดูด้วยตาตัวเอง ซึ่งโรงเรียนเต็มใจและยินดีต้อนรับเสมอ ขออย่านำเรื่องที่ไม่จริงไปเสนออีก
ด้าน ร.ต.อ.อุทัย จันบุตราช พนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งความและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้ว ซึ่งต่อไปเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบสวน โดยการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งครู นักเรียนมาสอบปากคำ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานว่า เข้าข่ายมีความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในข้อหานำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และหมิ่นประมาท หรือไม่ พร้อมกับประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตัวเจ้าของเพจเฟสบุ๊คดังกล่าว และผู้เกี่ยวข้องกับการโพสต์มาสอบปากคำตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี