รวบปลัดอําเภอ
คดีเรียกรับสินบน จ.กระบี่
แลกต่อใบอนุญาตโรงแรม
ป.ป.ป.ร่วมกับ ป.ป.ท.และป.ป.ช.จับ“ปลัดอำเภอหญิง”ใน จ.กระบี่ เรียกรับสินบน แลกกับการต่อใบอนุญาตโรงแรม พบทำมาแล้วหลายครั้ง อีกคดีหนึ่ง หลายหน่วยงาน ผนึกกำลัง เปิดปฏิบัติการบุก รวบ 9 เจ้าหน้าที่ อบต. 5 จังหวัด ยักยอกเงินหลวงไปใช้จ่ายส่วนตัว พบความเสียหายแล้วกว่า 300 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รักษาราชการแทนรองผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) เปิดเผยว่า ตำรวจ ปปป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกันจับกุมปลัดอำเภอหญิงรายหนึ่งใน จ.กระบี่
โดยปลัดอำเภอหญิงรายดังกล่าวมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่ไปขอต่อใบอนุญาต แต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตหลังจากเวลาผ่านไปหลายเดือน โดยได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายที่ไปยื่นขอต่อใบอนุญาตธุรกิจโรงแรม และขออนุญาตเพิ่มจำนวนห้องพักต่อนายอำเภอเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 แต่ผู้ต้องหาได้รักษาราชการแทน และเป็นผู้มีอำนาจลงนามในหนังสือการขอต่อใบอนุญาต
จนกระทั่งต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หรือผ่านมาประมาณ 9 เดือน ผู้ต้องหามีความพยายามประวิงเวลาไม่ต่อใบอนุญาตให้เพื่อจะเรียกรับเงิน โดยแจ้งกับผู้เสียหายว่าการต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมจะต้องมีค่าใช้จ่าย 1 แสนบาท และอ้างว่าจะต้องนำเงินไปดูแลเจ้านาย ซึ่งปกติการต่อใบอนุญาตตามระเบียบแล้วจะเสียค่าธรรมเนียม 2 หมื่นบาทโดยพิจารณาตามขนาดของกิจการ ผู้เสียหายจึงมาร้องทุกข์ให้ตำรวจ ปปป.ดำเนินคดี และวางแผนนัดหมายให้ผู้ต้องหามารับเงิน 1 แสนบาทจากผู้เสียหาย จากนั้นจึงแสดงตัวเข้าจับ ก่อนจะคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ จากการสอบสวนพบว่าปลัดอำเภอรายนี้เคยถูกร้องเรียนการเรียกรับผลประโยชน์มาแล้วหลายครั้ง จำนวนครั้งละหลักหมื่นถึงแสนบาท และกำลังจะมีคำสั่งย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่น แต่ครั้งนี้ได้เรียกรับเป็นครั้งสุดท้าย และยังพบว่ามีประวัติการเล่นพนันออนไลน์อีกด้วย
วันเดียวกัน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ ปปป. และหน่วยงานในสังกัด บช.ก. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) , สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และเจ้าพนักงานธนาคารกรุงไทย ร่วมปฏิบัติการ stop cyber Corruption จับกุมเจ้าพนักงานสังกัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ 7 จังหวัด ทั่วประเทศ ที่ ป.ป.ท.ได้ตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชีของหน่วยงานได้ยักยอกเบิกถอนงบประมาณของหลวงไปใช้จ่ายส่วนตัว
ทั้งนี้ ได้ดำเนินการตรวจสอบการทำธุรกรรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่น่าสงสัย จนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดได้ 9 ราย ใน อบต.นิลเพชร จ.นครปฐม, อบต.หนองหัวโพ จ.สระบุรี, อบต.ห้วยยายจิ๋ว จ.ชัยภูมิ, อบต.โคกหล่าม จ.ศรีษะเกษ, อบต.นาเขลียง จ.นครศรีธรรมราช
เบื้องต้นผู้ต้องหาจำนนด้วยหลักฐาน และให้การรับสารภาพ ซึ่งหลังจากนี้ ยังจะนำรูปแบบการประทุษกรรมดังกล่าวไปสืบสวนและตรวจสอบธุรกรรมที่เข้าข่ายการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆอีกหลายแห่ง ซึ่งถือเป็นการยับยั้ง ป้องปราม ตัดวงจรการกระทำผิดที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคตได้
นายกฤษณ์ กระแสเวส รองเลขาธิการคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กล่าวว่า การทุจริตการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานราชการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว เกิดจากผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่กลับละเว้นหน้าที่ นำรหัสการทำธุรกรรมไปให้กับเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และพบว่า มีการทุจริตในลักษณะเดียวกันมาอย่างต่อเนื่องเฉพาะอบต.เล็กๆก็มีความเสียหายแล้วกว่า 300 ล้านบาท
พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐที่ยักยอกเงิน ร้อยละ 90 ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ และระบบนี้สามารถเบิกจ่ายได้ทุกที่ทุกเวลา เบื้องต้น มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 7,900 แห่งที่ใช้ระบบธุรกรรม KTB Corporate Online ของธนาคารกรุงไทย และบางกรณีพบว่ามีการใช้ลูกจ้างป็นนอมินี เพื่อโอนเงินให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงขึ้นไป ทั้งยังมีการตกแต่งบัญชีเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่และยังมีการตัดการแจ้งเตือนธุรกรรมที่เกิดจากการทำทุจริตออกเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตด้วย
อย่างไรก็ตาม พบว่าปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีการระเบียบมาตรการในการเบิกจ่ายเงินทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันการทุจริตไว้ดีแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตาม จึงการทุจริตขึ้น ซึ่งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะมีความผิดทั้งทางแพ่ง อาญา และวินัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี