"เลขาธิการ กพฐ."ยืนยัน แม้"หยก"จะไม่มารายงานตัวตามกำหนดทางโรงเรียน ก็พร้อมให้เข้าเรียน แต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบที่โรงเรียนกำหนดไว้
จากกรณี น.ส.หยก เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง อายุ 15 ปี โพสต์ข้อความช่วงกลางดึกว่าถูกไล่ออกจากโรงเรียน พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์ที่ได้รับแจ้งว่าจากนี้ไปตนคือบุคคลภายนอก ล่าสุด คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ได้ออกแถลงการณ์ ชี้แจงสาเหตุทำไมไม่มีสถานะเป็นนักเรียนนั้น (อ่านข่าวประกอบ : อ่านชัดๆ!โรงเรียนแถลงการณ์ปม‘หยก’ เปิดสาเหตุทำไมไร้สถานะนักเรียน)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ตนได้หารือเรื่องดังกล่าวกับผู้อำนวยการโรงเรียนและกรรมการสถานศึกษาแล้ว ซึ่งทางโรงเรียนได้ชี้แจงรายละเอียด โดยน้องหยกได้มีชื่อเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ แต่ในวันมอบตัวซึ่งทางโรงเรียนกำหนดไว้ในวันที่ 2 เมษายน 2566 น้องหยกไม่สามารถมารายงานตัวได้ เนื่องจากยังถูกควบคุมตัวอยู่ในสถานพินิจ ดังนั้น ทางโรงเรียนจึงกันที่นั่งไว้ให้ และยืดระยะเวลารายงานตัวเข้าเรียนให้จนถึงวันที่ 10 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ทางโรงเรียนต้องส่งข้อมูลนักเรียนให้กับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่ก็ไม่ได้มีการมารายงานตัวในวันดังกล่าว จึงไม่มีชื่อนักเรียนในฐานข้อมูลระบบ ซึ่งแม้จะไม่มารายงานตัว ทางโรงเรียนและทางราชการก็พร้อมให้น้องหยกเข้าเรียน เพียงแต่ต้องปฏบัติตามระเบียบที่ทางโรงเรียนกำหนดไว้
"ทางคณะกรรมการสถานศึกษา จึงออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องดังกล่าว และจนถึงวันนี้ หากน้องหยกต้องการเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ ก็ยังมีที่นั่งว่างสำหรับให้น้องหยกเข้าเรียน เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบ ซึ่งมีการทำประชาพิจารณ์สอบถามความคิดเห็นจาก 3 ส่วน คือ ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ก่อนออกมาเป็นข้อกำหนดที่ใช้ร่วมกันภายในสถานศึกษา ดังนั้น ผมเองอยากให้สังคมมีความเข้าใจในส่วนนี้ แต่หากน้องหยกไม่อยากทำตามกติกาดังกล่าว ก็สามารถเลือกเรียนได้ในช่องทางอื่นๆ ทั้งการศึกษานอกระบบ หรือการเรียนด้วยตัวเองที่บ้าน หรือ โฮมสคูล เป็นต้น"นายอัมพร กล่าว
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องเครื่องแต่งกายชุดนักเรียน หรือชุดไปรเวตมาเรียนนั้น ทาง ศธ.กำหนดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.2551 ไว้เป็นกรอบ แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสถานศึกษา ซึ่งมีบางแห่ง กำหนดให้มีการแต่งกายชุดไปรเวตสัปดาห์ละ 1 วัน แต่ต้องเป็นไปตามความคิดเห็นของส่วนรวมที่กำหนดร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ ครู นักเรียน และผู้ปกครอง รวมถึงเรื่องทรงผมก็มีการเปิดกว้างให้สถานศึกษา นักเรียน และผู้ปกครอง สามารถกำหนดได้เอง ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากให้สังคมมีความเข้าใจ เพราะโรงเรียนเป็นสถานที่บ่มเพาะให้เด็กเป็นคนดี สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ สิ่งที่กำหนดขึ้นมาเป็นกรอบ เพื่อให้สังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้ เช่นเดียวกับประเทศชาติ ที่ต้องมีรัฐธรรมนูญ มีกฎหมาย เป็นกรอบในการดำเนินชีวิต เพื่อประชาชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีโรงเรียนมีการออกระเบียบในคู่มือนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ โดยระบุว่า “ต้องไม่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีความ หรือการถูกลงโทษทางกฎหมาย” นั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ในการยกร่างแถลงการณ์ของกรรมการสถานศึกษา ไม่มีเรื่องดังกล่าว ซึ่งโดยหลักการแล้วไม่สามารถกำหนดเช่นนั้นได้ เพราะถือเป็นการริดรอนสิทธินักเรียน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี