กรณีพนักงานส่งพัสดุรายหนึ่ง กดกริ่งรัวๆ เรียกลูกค้าที่หน้าบ้าน จนถูกเจ้าของบ้านออกมาโวยว่าทำแบบนี้ไม่มีมารยาท ก่อนหัวร้อนด่ากัน ลูกค้าฉุนวิ่งตามไปเอาเรื่อง พาพวกไปเคลียร์ ก่อนชกพนักงานส่งพัสดุจนสลบ ก่อนฝั่งไรเดอร์จะยกพวกมาเคลียร์ จนกลายเป็นเปิดศึกตีกันเละทั้งสองฝ่าย
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 15 มิ.ย. 66 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ ริว พนักงานส่งของ มาพร้อม สุมิตรา คุณอาของริว อีกฝ่าย หนึ่ง เจ้าของบ้าน มาพร้อมทนายคนกลาง ชำนัญ ศิริรักษ์
อาการตอนนี้เป็นยังไง?
ริว : ยังเจ็บตรงหัว และซี่โครงครับ
คุณหนึ่งโดนอะไรบ้าง?
หนึ่ง : บาดเจ็บนิดหน่อย ปะทะกันก็ต้องมีบ้าง
เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น?
ริว : ผมเคยไปส่งของบ้านเขาประมาณ 3 ครั้ง ครั้งที่สามคือครั้งที่มีเรื่อง ครั้งแรกไปส่งให้แม่เขา แม่เขาขอเลื่อนเป็นส่งพรุ่งนี้ ผมก็บอกว่าโอเค ได้ พอวันที่สอง ผมเอาพัสดุไปส่ง มีทั้งหมด 3 ชิ้น เขาขอแกะก่อน ผมบอกว่าแกไม่ได้ ถ้าแกะผมเสียตังค์นะ
ทำไมแกะแล้วเสียตังค์?
ริว : เป็นระบบบริษัท เขาห้ามแกะ ผมก็บอกว่าห้ามแกะนะพี่ เพราะถ้าแกะผมเสียตังค์ ผมเพิ่งมาทำงาน 2 อาทิตย์เองครับ เขาบอกระดับชั้นแล้วแกะ จ่ายตังค์อยู่แล้ว ผมเห็นบ้านเขาหลังใหญ่ก็เลยยอมให้แกะ ทีนี้แกะปุ๊บเขาก็จ่ายตังค์ผมปกติ ผมก็เรียกเขาว่าคุณพี่ มีพัสดุมาอีกชิ้น เป็นของวันต่อไป เขาสั่งมาอีก ก็โทรบอกว่ามีพัสดุมาส่งนะ บอกราคาเท่านี้ๆ เขาบอกว่าถ้าราคานี้เขาไม่ได้สั่ง ผมก็เลยบอกว่าจะไม่ได้สั่งได้ยังไง ที่อยู่เป็นที่ของพี่หมดเลย มันมาเลขที่บ้านพี่หมดเลย เขาบอกงั้นตีกลับไป ผมก็โอเคครับ ถ้าตีกลับรบกวนถือสาย 15 วิ มันเป็นกฎบริษัท เดี๋ยวผมจะตีกลับให้ เขาพูดว่าจะพูดอะไรนักหนาวะ แล้วก็ตัดสายทิ้งเลย พอเขาตัดสายทิ้ง ก็คิดในใจว่าเอาแล้ว บ้านนี้น่าจะมีปัญหาแน่นอน ผมก็ไปถามรุ่นน้องที่ทำงานด้วยกันว่าบ้านนี้เป็นไง เขาบอกว่าบ้านนี้ดุ ประมาณนั้น พอมาวันเกิดเหตุ ครั้งที่ 3 ผมขี่มอเตอร์ไซค์มาก่อนถึงบ้าน ผมก็กดโทรหาเขา เขาไม่รับสาย ผมถึงหน้าบ้านเขาพอดี กดกริ่งเขาก็ไม่ออกมา แต่เห็นว่ามีคนอยู่ ผมก็กดครั้งที่สอง โทรศัพท์ก็ยังโทรหาอยู่ ทีนี้ผมกดเบิ้ลสองที พี่คนนี้(หนึ่ง) เดินออกมาพูดจากับผมดีเลยนะ
คุณได้ยินเสียงยังไง?
หนึ่ง : ก่อนเข้ามาคุณบีบมอเตอร์ไซค์ก่อน แล้วถึงกดกริ่ง
ริว : ไม่ได้บีบแตร
หนึ่ง : ไม่เป็นไร เรามีคลิป
ริว : ได้พี่ เอาออกมาเลย
หนึ่ง : อยู่ที่ตร.อยู่แล้ว คุณกดครั้งแรกถูกต้อง แต่ครั้งที่สอง คุณกดประมาณ 4 ครั้ง แล้วผมยืนดูด้วย ผมก็ถามว่ามีอะไร มาส่งของใคร ผมพูดดีมั้ย ผมถามก่อน
ริว : เขาพูดดีในตอนแรก เขาถามว่าของใครครับ ผมก็บอกว่าของคุณแม่เขา เขาก็ถามว่าราคาเท่าไหร่ ผมบอกว่า 399 สักพักแม่เขาตะโกนลงมาจะโทรอะไรขนาดนั้น ไม่มีมารยาทเลย ผมก็ตกใจ อ้าว จะไม่มีมารยาทอะไร ผมโทรหาพี่ พี่ก็ไม่รับ
หนึ่ง : คนที่ถามว่ามีมารยาท ไม่ใช่แม่ผมนะ ผมถามว่าน้อง การกดออดเป็นมารยาท 1 ครั้ง ถ้าเขาไม่ลงมา คุณกดอีกครั้ง อันนั้นถูกต้อง แต่นี่กดติ๊งๆ มันไม่ใช่มารยาท แล้วคุณเหวี่ยงกลับมาว่าพี่ผมร้อน ผมเหนื่อย คุณได้พูดคำนี้มั้ย
ริว : พูดครับ พอแม่เขาตะโกนว่าผมไม่มีมารยาท ผมก็อ้าว ผมก็สวนกลับไปว่าผมไม่มีมารยาทยังไงพี่ ผมโทรหาพี่ พี่ก็ไม่รับสายผม ผมกดกริ่งพี่ก็ไม่ออกมา ผมทำงานยืนรอพี่ตั้งนาน ผมก็ร้อน ผมต้องส่งบ้านอื่นอีก ผมโทรหาพี่ ทำไมพี่ไม่ออกมา แม่เขาก็เดินออกมา พี่คนนี้ก็เดินถกแขนเสื้อออกมาเลย
เดินถกแขนมา?
ริว : แม่เขาด่าใส่เป็นชุดเลย
หนึ่ง : แม่ผมไม่ได้ด่า ผมถามมารยาทในการกดกริ่ง เขากดกันแบบนี้เหรอ ผมถามด้วยถ้อยคำที่ดีนะ ไม่กระแทกกระทั้น เขาบอกว่าผมร้อน ผมเหนื่อย แต่หน้าบ้านผมมีร่มนะ ก่อนไปเขาบอกว่าพี่เป็นเหี้x อะไร
คุณถามมั้ย?
ริว : ไม่ครับ พอผมบอกผมร้อน แม่เขาก็เดินมา พี่เขาก็ถกแขนเสื้อ ผมก็คิดในใจว่ามีเรื่องแน่นอน ผมก็ถอยหลังออกมา จะไปขึ้นรถ เขาก็เดินเปิดประตูออกมา เขาเดินออกมานอกประตู ยืนจ้องหน้ากับผมนี่แหละ แล้วผมก็บอกว่าไอ้สลัด มาดิ
คุณก็กวนตีนจริงๆ?
ริว : ยอมรับว่าผิด เพราะผมก็โดนด่ามา
ก่อนไปก็ขอด่านิดนึง?
ริว : มาดิ ไอ้สลัด
จากนั้นคุณขี่ไปเลย เขาก็วิ่งไล่คุณ?
หนึ่ง : วิ่งตาม แต่ไม่ทัน
ริว : เขาวิ่งออกมาปุ๊บ เขาวิ่งมาถึงหน้าซอย ผมก็จะขี่วนไปอีกซอย แต่เขาก็ยังวิ่งตามอยู่ ผมก็เลยวนรถกลับไปหน้าป้อมยาม เขาตะโกนบอกรปภ.ว่าไม่ต้องเปิดให้มันออก แต่รปภ.ไม่ได้ยิน พอรปภ.เปิดประตู ผมออกไปปุ๊บ ผมกำลังจะขี่กลับโกดัง เพราะรู้ว่ามีเรื่องแล้ว กะไปบอกโกดัง เจอเพื่อนผมขี่มาพอดี ก็เลยบอกเพื่อนว่าเฮ้ย ผมมีเรื่องว่ะ ลูกบ้านที่ผมไปส่งของจะตามมาเฉยเลย ส่วนเขาก็กำลังยืนเล่าให้รปภ. ฟัง พอเขาเห็นเพื่อนผม เขาก็ถอยหลัง เพื่อนผมก็บอกว่าเขามาส่งของ จะมาต่อยเพื่อนผมได้ไง จะไปทำเขาทำไม แค่นี้แดดก็ร้อนพออยู่แล้ว เขาก็ด่ากันไปมา จนเพื่อนผมใช้คำที่แรงเกินไป อันนี้ผมก็ยอมรับ
ด่าเขาว่าเป็นลูกโสเภณี?
ริว : ใช่ อันนั้นยอมรับว่าเพื่อนผมด่าเขาแรงเกินไป ผมไม่ได้เป็นคนด่า แม่เขาก็ไปยืนหน้าซอย แม่เขาเหมือนกดโทรศัพท์เหมือนจะอัดคลิป ผมก็ตกใจ กลัวโดนไล่ออก ก็บอกเพื่อนผมว่าแกกลับไปก่อน มันไม่มีอะไรแล้ว ผมจะส่งของต่อ เหลืออีก 2 ชิ้นไม่มีอะไรหรอก เพื่อนก็ถามว่าแน่ใจนะ พอเพื่อนกลับปุ๊บเขาหายไปไหนไม่รู้ ผมก็ขี่ส่งของต่อ
หนึ่ง : ถ้าเขาไม่ตั้งใจมีเรื่อง เขาคงไม่เรียกผมให้ตามมา ทีแรกเขาบอกให้ตามมาเลย
ริว : ก็พี่กับแม่พี่เล่นใส่ผมขนาดนั้น
หนึ่ง : ผมไปถึงป้อมมีเพื่อนตามมาเวลาเร็วเกินไปมั้ย
ริว : ดูกล้องหน้ายามได้เลย ผมไม่ได้กดโทรศัพท์อะไรเลย
หนึ่ง : ผมเข้าใจ แต่ถ้าคุณไม่ต้องการมีเรื่อง คุณขี่ออกไปเรื่องก็ไม่เกิดแล้ว แต่คุณตามเพื่อนคุณมา ผมคนเดียว คุณมาสาม
เหมือนตั้งใจมาหาเรื่อง เขาบอกแบบนั้น แต่ริวมองว่ายังไง?
ริว : ผมต้องส่งของที่นี่ทุกวัน ผมก็อยากเคลียร์ พี่ดูตัวเขากับตัวผมสิ ถ้าหลุดเข้าไป ผมโดนแน่นอน
หนึ่ง : ถ้าผมไม่ท้าทาย ผมจะออกจากบ้านมั้ย
ริว : ถ้าพี่กับแม่พี่ไม่ใส่ผมตั้งแต่แรก ผมไม่ท้าทายพี่หรอก
หนึ่ง : ถ้าคุณไม่ท้าทาย ผมจะออกจากบ้านมามั้ย แล้วคุณพาเพื่อนมาอีก รวมเป็นสาม ผมคนเดียว คุณไล่มา แล้วคุณตะโกนด่าไอ้ลูกกะ... ผมไม่อยากมีเรื่อง แต่เมื่อคุณมาสาม ผมก็ต้องโทรตามเพื่อนผมมา
หลังจากเหตุการณ์ตรงนี้แยกย้ายกันมั้ย?
ริว : แยกครับ
ริวไปส่งของต่อ ส่วนคุณเองเห็นเขามากันแบบนี้ คุณโทรตามเพื่อนมา?
หนึ่ง : ตามมาหนึ่งคนครับ
แค่น้ำผึ่งหยดเดียว แล้วกลายเป็นว่ามีเหตุเกิดขึ้น เอาพวกรุมตีกัน ริวถูกกระทืบเกือบตาย?
ริว : โห เล่นซะ ถ้าเพื่อนไม่มารับ ป่านนี้ไม่รู้ผมเป็นยังไง
หลังจากริวไปส่งของ อะไรเกิดขึ้น?
ริว : ผมไปส่งของให้บ้านพลเมืองดีเสร็จ ผมขี่ไปท้ายซอยแคมป์คนงาน ผมขี่กลับมามีกระบะคันนึงเหมือนจะชนผม กระบะสีดำ ผมก็เบรก เขาปาดหน้าผมเลย ผมก็ตกใจแล้ว คิดว่าผมขับย้อนศรอะไรหรือเปล่า เขาจะมาด่าอะไรผม แล้วเขาก็เปิดประตู ผมจำหน้าพี่เขาได้ ก็เอาแล้ว ผมโดนแน่นอนเลย มีคนตัวใหญ่ล่ำๆ คนนึง คนนี้ก็ลงมา แม่เขาก็ลงมา
มากันกี่คน?
ริว : ชาย 3 หญิง 1 ครับ
มากี่คน?
หนึ่ง : มีผมกับเพื่อน สองคนครับ รถกระบะสีดำ คนในรูปหนึ่งคน แล้วก็ผม แม่ไม่ได้มา แต่เดินตามมาทีหลัง
ริว : เขาวิ่งไล่ผมมา ผมก็ถอยหลัง แล้วเขาก็บอกให้ผมตามเพื่อนที่ด่าเขามา ผมก็บอกว่าอ้าว ผมเกี่ยวอะไร ผมมาส่งของให้พี่ พี่ไม่ออกมามันเกี่ยวอะไร เขาก็วิ่งไล่ ผมก็วิ่งหนี เขาบอกให้โทรตามเพื่อนมึงมาที่ด่ากู ด้วยความใส่กางเกงสแลคทำงาน มันตึง ผมหนีไม่ทัน ผมก็เลยหยุด ผมก็บอกว่าผมผิดอะไร เขาบอกมึงโทรหาเพื่อนมึงซะ ผมก็จะโทรหาเพื่อนผม จังหวะผมหยิบโทรศัพท์ เขาซัดผมเลย ต่อยเลย พอต่อยเสร็จเหมือนโทรศัพท์ตก ก็ถอดหมวกผม ดึงฮู้ดคลุม ผมก็ไม่รู้ว่าโดนอะไรบ้าง แต่รู้ว่าโดนรุมจนสลบ แล้วใครสักคนกระทืบหน้าผม จนผมตื่น ผมก็ถอดเสื้อฮู้ดมองหน้า จำหน้าได้หมดเลยว่าใครบ้าง เขาลากผมไปอยู่ตรงฟุตบาธ บอกให้โทรหาเพื่อนมา ผมก็ยกมือไหว้ บอกว่าผมเกี่ยวอะไร เขาก็ยังซัดผมอีกนะ พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรก เขาวิ่งมาห้าม บอกว่าพอแล้ว มันเกินไปแล้ว ประมาณนี้ ผมก็ร้องไห้ ยกมือไหว้ ขอโทษเขา เขาบอกให้โทรตามเพื่อนผมมา จังหวะเพื่อนผมโทรมาพอดี ในกลุ่มก็พูดว่านั่นไงเพื่อนมันมาแล้ว ผมก็แหวนหน้าดู หัวหน้างานผมมา ผมก็เลยฉีกตัวออกไปหาหัวหน้างานผม หัวหน้างานผมก็คุยกับเขา แต่พวกเขามากันเยอะแล้ว
มากี่คน?
หนึ่ง : มีแค่ 2 คน แต่จะมีคลิปที่ตามมาอีกหนึ่งคน
ริว : สองครับ หัวหน้างานบอกว่าจะมารับตัวผมกลับ ทำเด็กแบบนี้ได้ไง มากระทืบจนสลบ มีคนโทรแจ้งมา มีคนเห็นว่าทำแบบนี้กับลูกน้องเขาได้ยังไง เขาก็ให้ไปถามลูกน้องว่าพูดอะไร ผมก็ถามว่าผมพูดอะไร ด่าผมไม่มีมารยาทอะไร ผมยืนรอตั้งนาน เขามาด่าผมโน่นนี่นั่น แม่เขาหรือน้องสาวเขาไม่รู้ เดินอ้อมมาตบหน้าเพื่อนผมที่ด่าเขาลูกกะ.. แล้วเกิดการต่อยกันขึ้น แล้วฝั่งเขาควักคมแฝก ควักอะไรมาหมดเลย แต่พวกผมมือเปล่า พวกผมมือเปล่าก็วิ่งหนี จนไปถึงบ้านก่อสร้าง ก็เลยหยิบพวกไม้ไล่หวดเขาตามคลิปเลย
หนึ่ง : ผมต่อยทีเดียว เขาหลับไปแล้วนะ ผมก็ลากน้อยไปไว้ริมฟุตบาธ ไม่มีการซ้ำนะ ไม่มีการรุม ต่อยทีเดียวครับ ผมก็บอกว่าน้องตามสองคนที่ด่ามา น้องไม่ด่าไม่เป็นไร พลเมืองดีออกมาก็ถูกต้อง บอกวาจะไม่ทำอะไรแล้ว ให้น้องโทรตามเพื่อนมาเคลียร์กัน ต่อจากนั้นไม่เกินนาทีน้องเขาฟื้น มีพลเมืองดีบอกว่าอย่าทำน้องเลย ผมบอกไม่ทำแล้วครับ ให้เขาตามคนที่ด่ามาเคลียร์ ตอนนั้นอารมณ์ผมขึ้นแล้ว มีคนมาด่าแม่ขนาดนั้น ผมก็ต้องเรียกมาเคลียร์ เป็นใคร มีเรื่องอะไรมาด่าผม จากนั้นก็มีคลิป
มีคนยืนยันว่าไม่ได้ต่อยทีเดียว พวกริวมาเพราะอะไร?
ริว : มีผู้ประสงค์ดีในหมู่บ้านแจ้งในกลุ่มผู้บริหาร
ผู้หญิงเสื้อเหลืองเป็นใคร?
ริว : เป็นรองซุปครับ มายืนเจรจา ถ้าพวกผมตั้งใจมีเรื่องไม่โทรหาตร.หรอกครับ
น้องสาวคุณหนึ่งไปตบเขาก่อน เสื้อเหลืองพยายามไปห้าม คุณผลักเขากระเด็น มันก็เริ่มจากตรงนี้เลย แล้วก็ต่อยกันเลย?
ริว : แล้วเขาก็ควักอาวุธออกมา พวกผมก็วิ่งหนีไปเอาไม้
หนึ่ง : ก่อนหน้านั้นเขาด่าผมเยอะกว่านั้น เขาด่าผมไอ้เหี้x ไอ้ตุ๊ด ถ้าอยากเคลียร์พวกคุณต้องถอยออกไปก่อน ให้หัวหน้ามาคุยคนเดียว
ริว : โอ้โห พี่ยืนกันตัวเบ้อเร่อ พี่เล่นผมซะอ่วมเลย
หนึ่ง : แต่หัวหน้าคุณไปยืนปะทะชิดกัน ข้างหลังก็ด่า
สรุปแล้วกรณีที่บริษัทน้องที่มาเราไม่ได้เป็นคนโทร แต่คุณคิดว่าเขาเป็นคนโทร มีข้อมูลไลน์ในหมู่บ้านที่เขาพูดคุยกันว่าขอเบอร์ใครก็ได้ พนักงานโดนกระทืบ จากนั้นมีการโทรกัน และเอาภาพส่งให้กันในกลุ่มไลน์ ระวังเสื้อเขียวๆ นะ คุณนั่งจับบ่าน้องอยู่?
สุมิตรา : ตอนนี้น้องร้องไห้อยู่
มีพลเมืองดีที่อยู่ในหมู่บ้านคุณเขาส่งไปตามว่ามีพนักงานโดน พนักงานก็เลยมา อันนี้เคลียร์มั้ยว่าเขาไม่ได้เป็นคนโทร?
หนึ่ง : เคลียร์ แต่ไม่เข้าใจ จะไปหยิบอาวุธในรถตรงไหน
สุมิตรา : คนที่เขาเห็นเขาเข้าใจอย่างนั้น ตอนนี้น้องหวาดกลัวและร้องไห้
เขาบอกเขาไม่สบายใจเพราะบอกว่าเอาถุงดำไปคลุมหัวคุณ?
ริว : ผมไม่เคยพูดเลยว่าถุงดำ ผมบอกว่าเอาฮู้ดคลุมหัวผม
คุณว่าน้องพูดว่าเอาถุงดำคลุม เปิดคลิปแล้วเขาพูดว่าเป็นฮู้ดนะ เรื่องโทรตามก็เคลียร์นะ ประเด็นตอนนี้จะยังไงกันต่อไป ฝั่งนี้จะยังไง?
ริว : เพื่อนผมแขนหักคนนึง หัวแตกคนนึง ขาเป็นแผลน่าจะเยอะอยู่เหมือนกัน พันแผลทั้งห้านิ้ว โดนทั้งหมด 5 คน ผมหัว ลิ้นปี่ ข้อมือ หัวไหล่
แจ้งความหรือยัง?
ริว : ยังไม่แจ้งความ
สุมิตรา : เขาเพิ่งหายอ้วกเมื่อวาน เดี๋ยวจะพาไปทำ mri เพราะหูเขาอื้อ วิ้งหู ต้องทำ mri
คุณไปแจ้งความมั้ย?
หนึ่ง : ก็ไปแจ้งตั้งแต่วันนั้นครับ
คุณแจ้งมั้ย?
ริว : ยังไม่ได้แจ้งครับ
สุมิตรา : น่าจะส่วนบริษัทเขาไปแจ้งหรือเปล่า แต่น้องยังไม่ได้แจ้ง
คุณแจ้งใคร?
หนึ่ง : ก็สามคนครับ เพื่อนผมดั้งน่าจะหัก และต้องไปตรวจเช็กเบ้าตา ก็เจ็บกันทั้งสองฝั่ง เข้าใจแหละครับมันปะทะกัน
พี่ชำนัญมองยังไง?
ชำนัญ : มันแบ่งเป็นสองช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เวลาแรกน้องที่ส่งของอาจมีช่วงแรกที่มีการปะทะด้วยวาจากัน ผมมองว่าถ้ามองการแก้ปัญหาโดยใช้สติ พี่เจ้าของบ้านใช้วิธีการคอมแพลนหรือแจ้งบริษัทเพื่อให้ลงโทษหรือตักเตือนพนักงานตรงนี้ได้ ผมมองว่านี่เป็นทางออกแรก ส่วนน้องเองอาจอารมณ์ร้อนโต้เถียง อันนี้ก็มองเรื่องวุฒิภาวะคนทำงาน ถ้าเราทำงานต้องใช้สติตรงนี้ด้วยเหมือนกัน จุดแรกผมมองว่าเหมือนปะทะกันทั้งคู่ พอๆ กัน ใช้อารมณ์กันทั้งคู่
คุณหนึ่ง เป็นเจ้าของบ้านสามารถแจ้งบริษัทต้นสังกัดได้เลย?
ชำนัญ : ได้เปรียบกว่าเยอะ ส่วนน้องส่งของเราไปด่าเขาก็อาจถูกเขาดำเนินคดีได้ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ การพูดจาไม่เหมาะสม ดูหมิ่นก็ว่ากันไป แต่ช่วงที่มีการท้าทายและออกไป ผมมองว่ามันขาดตอน ต่างคนต่างเหมือนพาพวกกันมา ไปเจอน้องช่วงที่สอง ผมมองว่าทางพี่ที่ไปทำร้ายน้อง มันขาดตอนกับช่วงแรก ถึงแม้พี่จะบอกว่าพี่โมโห พี่โกรธ แต่มันขาดช่วงเวลาที่พี่จะบอกว่าบันดาลโทสะหรือป้องกันหรืออะไร ไม่สามารถอ้างได้แล้ว มันเกิดการรุมทำร้ายเขา ผมมองว่าเป็นต่างกรรมต่างวาระแต่ละช่วง น้องก็เป็นผู้เสียหายถูกกระทำตรงนั้น ส่วนอีกอันต่างคนต่างพาพวกกันมา เป็นลักษณะของการวิวาท ชุลมุนต่อสู้กัน ก็ต้องมาดูว่าผลของการต่อสู้ มีใครได้รับบาดเจ็บขนาดไหน เพียงใด เพราะโทษจะต่างกัน ชุลมุนต่อสู้เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสมั้ย เสียชีวิตมั้ย ตรงนี้จะมีผลเรื่องการรักษา ผมมองว่าปัญหาเรื่องนี้จริงๆ ถ้าเราใช้สติและความเข้าใจกันนิดนึง
ทางนี้บอกว่าแม่เขาด่าก่อน?
ชำนัญ : การด่ากันทั้งสองฝ่าย ผมมองว่าถ้าน้องเป็นผู้ให้บริการ บางครั้งเราต้องอดทนกับวิธีการสื่อสารกับลูกค้า ถ้าน้องอดทนนิดนึงอาจไม่ได้เกิดปัญหา เพราะเรายังต้องส่งในพื้นที่นั้นอยู่ แต่วิธีการสื่อสารกับผู้ร่วมสังคม ก็ฝากไปถึงรวมๆ
ฝากถึงแม่ด้วย อย่าใช้คำพูดรุนแรงกับพนักงานเหมือนกัน บางทีเอาตรงๆ ก็มีความเหนื่อยล้า ใจเขาใจเรา แม่คุณก็เอาเรื่องเหมือนกันใช่มั้ย?
หนึ่ง : แม่เขาเลี้ยงเด็กพี่ แล้วเด็กนอน การกดแบบนั้น แล้วเด็ก 8-9 เดือนเขาร้องไห้ ก็ลองคิดข้อนี้ก่อนนะ อันดับแรกคุณกดแตรแล้วกดกริ่งขนาดนั้น เด็กตื่นร้องไห้ คนที่เลี้ยงเด็กเขาออกมาจะกดอะไรขนาดนั้น
ถ้าเขาด่าคุณตอนนั้น แล้วคุณต่อยเดี๋ยวนั้นเลย อันนั้นอีกเรื่อง แต่นี่มีช่วงเวลาขาดไปแล้ว โทสะคุณอาจลดไปแล้ว แต่คุณไปเริ่มก่อเหตุใหม่?
ชำนัญ : เลือกที่จะเลี่ยงได้แล้ว แต่ไม่เลี่ยง กฎหมายจะมองอย่างนั้น
กรณีที่บ้านมีเด็ก แล้วพนักงานไปส่งของกดติ๊งๆ อีก จะมีเรื่องกันอีกมั้ย?
หนึ่ง : พนักงานทั่วไป หนึ่งติ๊งสองติ๊ง ก็ออกมาแล้ว ถ้ากดปกติไม่มีใครไปด่าหรือมาโวยวายหรอก ตอนกดติ๊งผมลงมา แต่เอาเด็กนอน มันออกมาเด็กร้องไห้ ผมก็ต้องเดินลงมา
ริว : พี่อยู่ชั้น 1 แม่พี่อยู่ชั้นบน ผมเห็นพี่นั่งอยู่ แต่พี่ไม่ออกมา
หนึ่ง : ผมอยู่ชั้นสอง ผมเดินลงมานะ ถามว่าใครมาส่งของอะไร แม่ผมอยู่ข้างล่าง เลี้ยงหลาน
ริว : แม่พี่อยู่ข้างบน แต่ไม่เป็นไร พี่เล่าเลย
ผมเชื่อว่าสังคมจะมองทันทีว่าถ้าต่อไป มีคนมากดออดแบบนี้อีก ต้องมีเรื่องแบบนี้กันอีกเหรอ แล้วจะเอายังไงต่อไป?
หนึ่ง : ต้องบอกตรงๆ การขนส่ง ผมส่งของประจำ มีการกดติ๊งก็ออกมารับปกติ มาจ่ายเงินก็เรื่องปกติ สินค้าทุกอย่างสั่งสะดวกซื้อ เขากดกริ่งไม่เกินสองทีเราก็ออกมาจ่ายเงินกันแล้ว บ้านผมสั่งเดลิเวอรี่ตลอด
ถ้าต่อไปมีคนมากดออดแบบนี้อีกล่ะ?
หนึ่ง : ตรงนี้น่าจะเป็นบทเรียนของการพูดจากัน แต่ไม่มีบริษัทไหนที่จะอบรมพนักงานให้กดออดขนาดนั้น ผมไม่เคยเจอพนักงานกดแบบนี้ ไม่ว่าขนส่งเจ้าไหน
บางเรื่องบริษัทไม่ได้เกี่ยว อาจเป็นภาวะของพนักงาน เขาอาจจะร้อนเพราะการขี่มอเตอร์ไซค์แดดร้อนๆ อ้าวๆ มันก็หนัก แต่อยากถามหนึ่งว่า แล้วถ้าวันนึงมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เจอพนักงานแบบริว เราจะควบคุมภาวะตัวเองยังไง และจะควบคุมคนที่บ้านยังไง?
หนึ่ง : ผมควบคุมได้อยู่แล้ว เพราะผมไม่เคยไปด่าด้วยคำหยาบคายเลยนะ ผมบอกว่าโอเค ผมไม่รับของนะ แต่คุณกวักมือเรียกผมด้วยถ้อยคำไม่สุภาพให้ออกไปนี่กัน ถ้าเขาออกไปก็จบแล้ว น้องเข้าใจว่าเหนื่อย แต่ก็ต้องเข้าใจมุมผมด้วย
ริว : พี่ไม่รับโทรศัพท์ด้วย
หนึ่ง : แต่ผมเดินออกมา
ริว : แต่ก่อนหน้านั้นพี่ได้เดินออกมา
ชำนัญ : ถ้าใจไม่ร้อนกัน เรื่องนี้จะไม่มีปัญหาเลย
หนึ่ง : ผมคุยกับน้องดีตลอด
หนึ่งอาจต้องคุยกับแม่ด้วย ดูแม่เป็นคนใจร้อน ไปยืนด่าเขาด้วย?
หนึ่ง : มันไม่มีใครชอบหรอกครับ ที่ไปด่าบุพการีแบบนั้น
ริวไม่ได้ด่าว่าลูกกะ... เพื่อนเขาด่า แต่เวลาไปไล่เก็บ คุณไปเก็บเขา?
หนึ่ง : ผมไม่รู้ด้วยว่าใครด่า มีการตะโกนโต้ตอบกัน
ริว : ตอนนั้นรปภ. ก็อยู่
หนึ่ง : ผมถึงบอกว่าให้เรียกคนที่ด่ามา
ริว : ถ้าพี่ไม่รู้ แล้วพี่จะพูดได้ไงว่าเรียกคนที่ด่ามา
หนึ่ง : น้องบอกไม่ได้เรียก ผมก็บอกว่าให้เรียกคนที่ด่ามา แค่นั้นเอง
น้องต้องไปส่งของแถวนั้นอีกมั้ย?
ริว : น่าจะไม่ได้ไปแล้วครับ
กังวลใจมั้ย?
หนึ่ง : ไม่กังวลใจ มาวันนี้ก็อยากเคลียร์ให้จบ
บริษัทอาจเปลี่ยนจุดให้คุณ ไม่ฝังใจแค้นกันเนอะ?
ริว : ไม่ครับ
คุณก็ไม่ได้กลัวอะไร?
หนึ่ง : มาเคลียร์ให้จบ โซเชียลก็ด่าเรา ไม่มีใครดีทั้งคู่
สุมิตรา : แต่กลับกันแม่ก็กลัวนะ แม่เห็นชายฉกรรจ์ แล้วรุมกันขนาดนี้ น้องตัวเล็ก แล้วเอาฮู้ดปิดหน้ากันขนาดนี้ แม่ก็กลัว ก็อยากให้จบนะ แต่ก็อยากได้คลิปเต็มๆ สิ่งที่อยากพูดถึงจะเป็นอาชีพนี้ ก็น้ำพักน้ำแรง ก็อยากให้สังคม ลูกบ้าน ใจเย็นๆ และเข้าใจ แต่ก็ขอบคุณลูกบ้านที่เข้าใจอาชีพนี้ เพราะเป็นอาชีพน้ำพักน้ำแรงจริงๆ รายได้ที่เด็กขยันส่งวันนึง 200 หลังคาเรือน เขามีกฎระเบียบเปิดกล่องไม่ได้ ซึ่งลูกค้าไม่ค่อยรู้เรื่องเหล่านี้ แล้วเด็กเป็นพนักงานหน้าด่าน เขามีอะไรอยู่ในหัวเขาเยอะมาก พร้อมสภาวะอากาศที่เขาทำงาน แต่ก็เป็นกำลังใจให้ไรเดอร์ดีกว่า มันเป็นอาชีพสุจริต อยากให้ยอมรับว่าเป็นอาชีพที่อยู่ในสังคม อยากให้ใจเย็นๆ กันนิดนึง ถ้าลูกบ้านหรือลูกค้าที่ดีอยู่แล้วก็ขอบคุณค่ะ น้องอาจใหม่ด้วย ทำงานไม่ถึง 2 อาทิตย์เอง แม่ก็ไม่ได้อยากให้ทำ แต่เขาบอกเขาโตแล้ว เขาก็อยากทำ
อยากให้เขาทำต่อมั้ย?
สุมิตรา : เขาบอกว่าเขาอยากทำ เขาไปได้สวย มีรายได้ตั้ง 3 หมื่นอัปต่อเดือน แต่เราไม่อยากให้ทำ เราห่วงคือจบก็อยากให้จบจริงๆ ก็เข้าใจหนึ่งนะ แต่แม่ก็รับไม่ได้ที่ทำแรงเกินไป ไปคลุมหัวเขา ภาพที่เห็นเขานั่งร้องไห้ เอาตรงๆ ใจสลาย ขอวอนขอคลิปที่เป็นจริง ถ้าเป็นจริงแม่ขอลูกแม่ได้ แม่ต้องการความจริง แค่นั้นเอง ขอคลิปเต็มๆ เลย
น้องอยากได้คลิปกล้องวงจรปิด พี่ทนายหาได้มั้ย?
ชำนัญ : เท่าที่ฟังดู มีคนในกลุ่มบาดเจ็บสาหัส ซึ่งอาจไปแจ้งความ และให้พนักงานสอบสวนขอเจ้าของกล้อง อาจเป็นทางนิติบุคคล
เจ้าของบ้านมีคลิปเต็ม?
หนึ่ง : ผมไม่ทราบ บ้านผมแค่ช่วงแรก
อยากได้คลิปช่วงทำร้ายกันถูกมั้ย?
ชำนัญ : ลองขอแต่ละบ้านที่เขามี ก็ขออนุเคราะห์เขาไป ถ้าเขาดึงไฟล์มาได้ ก็เอามาใช้ได้
ที่แม่พูด ไม่เคยรู้มาก่อน ห้ามเปิดกล่องก่อนเพราะอะไร?
ริว : มันสั่งเก็บเงินปลายทาง ถ้าลูกค้าไม่เอาเราต้องเสียตังค์เลย
บางทีเจ้าของบ้านไม่เข้าใจ การส่งพัสดุไปแล้วไม่ได้จ่ายตังค์ก่อน พอแกะบอกว่าไม่เอาแล้วคืน พนักงานต้องรับผิดชอบทันที เลยบอกว่าแกะตังค์ไม่ได้ ต้องจ่ายตังค์ก่อน?
หนึ่ง : มันมีมิจฉาชีพส่งของมา จ่าหน้าซองมา แม่ผมขอแกะ แม่ก็จ่าย
สุมิตรา : จริงๆ คือคุณไม่รู้กฎของพนักงาน พนักงานก็มีกฎของเขา
ชำนัญ : เวลามองใครในสังคม มองว่าถ้าเขาเป็นลูกเรา เป็นพี่เป็นน้องเรา เราจะเห็นใจเขาทันที
หนึ่ง : ผมไม่เคยรับพัสดุแบบนั้นอยู่แล้ว แต่วันนั้นผมอยู่บ้านพอดี
ชำนัญ : ยังดีที่เคสนี้ยังได้มาคุยกัน เคยเจอบางเคส กำพร้าพ่อ กำพร้าลูกไปเลยก็มี จากเหตุแค่อย่างนี้ บางทีการตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ต้องดึงสติเราให้ได้ เกิดเราลงไปวิวาทกันแล้ว ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คุณแม่ริวก็อาจสูญเสียลูกก็ได้ ทางหนึ่งก็อาจสูญเสียลูกเหมือนกัน
เราใช้อารมณ์มากเกินไป หรือโกรธ เขามาด่า คุณต่อยเขาไปทีเดียวเขาหลับเลย ถ้าเขาคอหักขึ้นมาคุณทำยังไง คุณติดคุก แม่คุณอยู่คนเดียว เลี้ยงหลานคนเดียว จบเลย ชีวิตการงานจบทุกอย่าง ทางนี้ลูกเขาก็ตาย จากจุดนิดเดียวเอง นี่คือสิ่งที่ทนายอยากอธิบายให้ฟัง แต่วันนี้ประเด็นเกิดแล้ว สุดท้ายต้องไปพูดคุยกันว่าจะเอายังไงต่อไป?
ชำนัญ : ต้องไปคุยกันในชั้นตร.และชั้นศาล ดูผลอาการบาดเจ็บ ถ้าไม่บาดเจ็บมากมาย พูดคุยไกล่เกลี่ยกันได้ ดูแลเยียวยากันไป อาจเป็นบทเรียนของทั้งสองฝ่าย
จริงๆ มีพยานในเหตุการณ์ เขาจะเข้าสายด้วยซ้ำ อยากให้เขาเข้ามั้ย?
หนึ่ง : ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยไปคุยกัน
มีคนเห็นตอนคุณทำเขา ไม่ได้ทำแค่ทีเดียว เราละไว้แค่นี้ สุดท้ายคงไม่มีอะไรดีขึ้น แต่บนชั้นศาลหรือโรงพัก ผมเชื่อว่าคนนี้เขาจะเป็นพยาน เพราะเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ใจเย็นๆ แล้วลองคุยกับคุณแม่ด้วย ส่วนริวก็คงมีสติมากขึ้นแล้วล่ะ แต่ก็วอนทางบ้านให้เข้าใจเขาด้วย?
สุมิตรา : ก็เป็นอาชีพจากน้ำพักน้ำแรง เขาทำงานหนัก และมีเวลาที่ต้องส่งด้วยค่ะ ฝนตกยังต้องไปส่งเลยค่ะ ก็ภูมิใจที่เขาไปทำ แต่การพูดของลูกถ้าเป็นแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้ ไม่ควรใช้คำแบบนี้
อยากบอกอะไรมั้ย?
หนึ่ง : ที่มาวันนี้อยากมาขอโทษ (ยกมือไหว้) อยากให้จบเท่านั้นเอง ผมมาเพื่อพูดตรงนี้แหละ ผมก็ไม่สบายใจเหมือนกัน
ริว : ถ้าผมทำอะไรให้พี่ไม่สบายใจ หรือพูดไม่ดี ผมก็ขอโทษด้วยครับ (ยกมือไหว้) แล้วก็ขอบคุณบริษัทที่ผมทำงานอยู่ ช่วยตามเรื่องให้อย่างดี
เดือนนึง 3 หมื่นเลยเหรอ?
ริว : ต้องขยัน มันมีค่าคอมค่าอะไรด้วย
ชำนัญ : บางทีเราโดดออกจากบ้านไป เราไม่รู้เลยว่าเราจะเจอเบอร์ใหญ่กว่าเราหรือเปล่า เขามีอะไรหรือเปล่า เราก็เสี่ยงนะ
หนึ่ง : ณ เหตุการณ์นั้น เข้าใจว่าสติ แต่คนไม่อยู่ในเหตุการณ์นั้นก็จะไม่รู้ว่าทำไมใจร้อน
ชำนัญ : แต่บทเรียนนี้จะทำให้เราใจเย็นขึ้น
หนึ่ง : เข้าใจครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี