วันที่ 15 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความคืบหน้าเกี่ยวกับความเคลื่อนไหว ของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม (กกต.) ภายหลังมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในพื้นที่ทั้ง หมด 4 เขต เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาโดยมีว่าที่ ส.ส.ชนะการเลือกตั้ง ประกอบด้วยเขตเลือกตั้งที่ 1 ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 2 ดร.มนพร เจริญศรี พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 3 นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ พรรคภูมิใจไทย และเขตเลือกตั้งที่ 4 นายชูกัน กุลวงษา พรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ กกต.นครพนมได้สรุปความเห็นเบื้องต้นเสนอไปยัง กกต.กลางให้รับรองผลการเลือกตั้งหมดทั้ง 4 เขต ในส่วนประเด็นการร้องเรียน มีเพียงสองเรื่องเกี่ยวกับการหาเสียงของบางพรรคการเมืองที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ตามขั้นตอนกฎหมายและเสนอไปยัง กกต.กลางพิจารณา ยังไม่พบปัญหาความผิดการซื้อเสียง
สำหรับข่าวลือสะพัดเกี่ยวกับผลการรับรองเลือกตั้งที่มีการแขวนว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 1 กับ 2 ยังไม่มีการยืนยันความชัดเจนจาก กกต.กลางเป็นเพียงข่าวลือในโลกโซเชียล
ด้านนายสมพล พงษ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการคณะการการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม (ผอ.กกต.) เปิดเผยว่า ตามระเบียบข้อกฎหมาย ในการพิจารณารับรองผลการเลือก ส.ส.จะต้องมีการพิจารณารับรอง แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับจากวันเลือกตั้งคือวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 โดยในส่วนของ กกต.นครพนม ได้สรุปความเห็นเบื้องต้น เสนอไปยัง กกต.กลางให้มีการรับรองผลการเลือกตั้งทั้งหมด 4 เขต ส่วนปัญหาการร้องเรียนยังมีประเด็นในเรื่องของการหาเสียงของบางพรรคการเมือง แต่ไม่สามารถระบุรายละเอียดได้และอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริง และรายงานไปยัง กกต.กลาง ตามขั้นตอนของกฎหมาย โดย ผอ.กกต.นครพนม กล่าวว่า ถึงแม้จะมีการเสนอความเห็นเบื้องต้นเพื่อรับรองผลการเลือกตั้งแต่ในระยะเวลา 1 ปี ยังสามารถไต่สวน หรือสอบสวนข้อเท็จจริงได้ จึงสามารถรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนได้ตามกฎหมาย
นอกจากนี้ กรณีในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมาทางตำรวจชุดสืบสวนนครพนม มีการตรวจยึดเงินสดพ่อค้ารายหนึ่งเกือบ 2 แสนบาท ผอ.กกต.เปิดเผยว่า เป็นการดำเนินการของตำรวจชุดสืบสวน ไม่มีเจ้าหน้าที่ กกต.นครพนมร่วมด้วยแต่กระทั่งภายหลังที่มีการตรวจยึด จึงแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ กกต.นครพนม ให้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริง ตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งพบเพียงเงินสดไม่พบเอกสารหลักฐานที่เชื่อมโยงเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เช่น ชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สำเนาบัตรฯ หรือใบแนะนำตัวผู้สมัครรับการเลือกตั้ง ฯลฯ เป็นเงินสดส่วนตัวที่นำติดตัวมาซื้อของ ถือว่าปกติทั่วไปทุกคนสามารถพกพาเงินสดได้ หลังการตรวจสอบจึงได้นำเงินสดดังกล่าวคืนแก่เจ้าของ โดยไม่มีความผิดการซื้อเสียง
อีกทั้งในส่วนของกรณีอื่นๆ ในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา ไม่มีการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในการซื้อเสียง มีเพียงการร้องเรียนทั่วไปเกี่ยวกับการหาเสียงแต่ยังไม่ยืนยันความผิด โดยทาง กกต.อยู่ระหว่างการดำเนินการไต่สวนตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อหาความชัดเจน อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับผลการรับรองการเลือกตั้งจะต้องรอทาง กกต.กลางยืนยันมาเป็นหนังสือเท่านั้น ส่วนที่มีการเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อโซเชียล ถือว่ายังไม่เป็นทางการ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี