‘กาชาด’ยื่นมือช่วย
ผู้ลี้ภัยจากฝั่งเมียนมา
ทะลักสู่ไทยแตะ4พัน
เผยยอดผู้ลี้ภัยจากสงครามในเมียนมาทะลักเข้าไทยที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนแตะ4 พันคน เสียชีวิตคาค่ายผู้อพยพแล้ว 1 ศพได้กาชาดยื่นมือช่วย ทั้งอาหาร น้ำ ยารักษาโรค
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ออกแถลงการณ์ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอนเรื่อง สถานการณ์ชายแดนพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนฉบับที่ 4 ประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2566 เวลา 14.00 น. มีเนื้อหาดังนี้
สถานการณ์บริเวณพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน พบว่า ยังคงปรากฎข่าวสารการปะทะกัน ระหว่างทหารเมียนมากับ กองกำลังชนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมาบริเวณตามแนวชายแดนในพื้นที่ ด้านตรงข้าม ช่องทางเสาหิน ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง และบริเวณช่องทางห้วยต้นนุ่น ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปัจจุบัน ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม ) ที่มีความกังวลจากสถานการณ์ในพื้นที่ ได้เดินทางเข้ามายังฝั่งไทย จำนวน 3,669 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 2 พื้นที่ รายละเอียดดังนี้
1.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านเสาหิน หมู่ที่ 1 ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยอดเดิม 2,761 คน เดินทางเข้า จำนวน 316 คน เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวจำนวน 1 คนคงยอดปัจจุบัน 3,076 คน
2.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านพะแข่ หมู่ที่ 3 ตำบลแม่กิ๊ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนยอดเดิม 410 คน เดินทางเข้า 183 คน คงยอดปัจจุบัน 593 คน
ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดูแลความปลอดภัยและการให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม กับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม. ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านเสาหิน ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง และพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านพะแข่ ตำบลแม่กิ๊ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขอแจ้งให้ทุกภาคส่วน ได้รับทราบว่า สถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ด้านตรงข้ามพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น ประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ของทั้งสองฝ่าย และไม่สนับสนุนให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ใช้พื้นที่ประเทศไทยเป็นพื้นที่สนับสนุนผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง
ในการนี้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ งดการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน
สำหรับสถานการณ์การสู้รบในรัฐคะยา ประเทศเมียนมา กองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงคะยา ประกอบด้วย กลุ่ม KA KNDF PDF ได้ทำการโจมตีทหารพม่า ที่ถูกส่งมากวาดล้างฝ่ายต่อต้านในพื้นที่ รัฐคะยา ที่ อ.บอลาแคะ พื้นที่บ้านแม่แจ๊ะ จ.ลอยก่อว์ ทำให้มีการสู้รบกันอย่างหนัก ส่งผลให้ราษฎรชาวคะยาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวพากันหลบหนีเข้าสู่ไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางด้านกลุ่มทหารติดอาวุธกลุ่มคะยา ได้เปิดการโจมตี ฐานที่มั่นทหารเมียนมา บริเวณตรงข้ามช่องทางห้วยต้นนุ่น ต.แม่เงา อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้มีการสู้รบอย่างหนัก
วันเดียวกัน นายสุรเชษฐ์ พุ้ยน้อย นายอำเภอแม่สะเรียง เดินทางร่วมกับ พัฒนาการอำเภอแม่สะเรียง ท้องถิ่นอำเภอแม่สะเรียง เกษตรอำเภอแม่สะเรียง เป็นตัวแทนนำสิ่งของจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน กิ่งกาชาดอำเภอแม่สะเรียง คณะสงฆ์อำเภอแม่สะเรียง กู้ชีพกู้ภัยแม่สะเรียง ผู้ประกอบการร้านค้า ภาคเอกชน มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากการสู้รบชายแดนชาวกะเหรี่ยงจากหมู่บ้านแม่แจ๊ะ หมู่บ้านห้วยทราย จากรัฐกะเหรี่ยงคะยา ณ บริเวณสนามหน้า สภ.เสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ในการช่วยเหลือผู้อพยพเบื้องต้น ประเภทสิ่งของที่มอบมี ข้าวสาร อาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋อง ปลาเค็ม ขนม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมทั้งร่วมวางแผน จัดการบริหารงานภายในกับศูนย์อำนวยยการร่วมฯ ณ พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบ้านเสาหิน ห่างจากชายแดนประมาณ 3 กิโลเมตร
จากสถานะการณ์ความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน จึงทำให้ชาวบ้านชุมชนกะเหรี่ยงชายแดนไทย-พม่า หอบลูกจูงหลานหนีการสู้รบมาเพื่อความปลอดภัยเข้าสู่ชายแดนช่องทางเสาหิน ทางศูนย์สั่งการชายแดน ไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวให้พักที่บ้านเสาหิน และได้ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม แต่ด้วยสถานการณ์ค่อนข้างฉุกเฉิน และมีชาวบ้านหนีมาค่อนข้างจำนวนมาก จึงทำให้การเตรียมพร้อมนั้นเริ่มมีปัญหาในด้านการให้ความช่วยเหลือ ทั้งเรื่องสถานที่ในการรองรับไม่เพียงพอ ด้านการสาธารณสุข อาหาร นมและน้ำสะอาด เป็นต้น เพราะชาวบ้านที่หนีมาบางรายมีแต่เสื้อผ้าติดตัวเท่านั้น มีทั้งเด็กแรกเกิด หญิงมีครรภ์ ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ(บางคนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้) ลุกหลานต้องแบกหามเข้ามายังเขตประเทศไทย สำหรับสถานการณ์ใน อ.แม่แจ๊ะ จ.ลอยก่อว์ รัฐคะยา แหล่งข่าวแจ้งว่าทหารพม่าได้ใช้อากาศยานทิ้งระเบิดใส่บ้านเรือนประชาชน ทำให้มีอาคารหลายหลัง เสียหายยับเยินอย่างหนัก ซึ่งการกระทำดังกล่าว ยิ่งเป็นการผลักดันให้มีผู้ลี้ภัยหนีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
โดยนายอำเภอแม่สะเรียงกล่าวว่า มีความจำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ตามหลักมนุษยธรรม ผู้หนีภัยจากการสู้รบ ที่จุดพักบ้านเสาหิน จำนวน 3,076 คน และคาดว่าจะยังคง ทยอยเข้ามาเพิ่มอีก ทำให้มีปัญหาทั้งที่พักอาศัย ฝนตก อาหารไม่เพียงพอ ยารักษาโรค ระบบสุขอนามัย ซึ่งในเบื้องต้นสิ่งของที่ต้องการ ประกอบไปด้วย น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง ของกินของใช้ นมเด็กอ่อน ยากันยุง ยาสามัญประจำบ้าน อุปกรณ์การทำอาหาร เป็นต้น น้ำดื่มและนมเด็ก ยังเป็นสิ่งที่ต้องการมากที่สุด ทั้งนี้ปริมาณข้าวสารใน 1 วัน ใช้ประมาณ 20 กระสอบ(กส.ละ45 กก.) หากต้องการจะบริจาคช่วยเหลือให้ประสานที่ สนง.กิ่งกาชาดอำเภอแม่สะเรียง เบอร์โทร 0639032081 และสามารถนำไปส่งมอบที่ จุดพักผู้ลี้ภัยบ้านเสาหินได้ ซึ่งการเดินทางเข้าพื้นที่ จะต้องเดินทางโดยรถยนต์ 4w จากที่ว่าการอำเภอแม่สะเรียงใช้เวลาประมาณ 4-5 ชม.หากมีฝนตกอาจทำให้มีปัญหาในเส้นทางและต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะรถจะต้องวิ่งลัดเลาะไปตามลำห้วยเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี