'พ.ต.อ.ภาคภูมิ' เผย อดีตผู้การฯชลบุรี มีเวลาส่งคำให้การแก้ข้อหาภายใน 5 วัน อธิบายสาเหตุคุมตัว 'เป้' เข้ากองบังคับการชลบุรี-การรีดเงิน 140 ล. ก่อนเตรียมสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน ชี้มูลความผิดยกก๊วน
วันที่ 20 มิถุนายน 2566 จากกรณีที่นายธนินวัฒน์ อุดมเชาวเศรษฐ์ หรือ "เป้" เจ้าของเว็บพนันออนไลน์แจ้งจับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กับพวกนายตำรวจ ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และข้อหาอื่น ๆ โดยอ้างว่า กลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันอุ้มรีดเงินกว่า 140 ล้านบาท ทั้งยังอ้างประโยคที่ว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่…เป้เขียนมา” จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ภายหลังได้มีการโยกย้ายให้นายตำรวจที่ต้องคดีดังกล่าวพร้อมตั้งกรรมการสอบสวน และให้นายตำรวจทั้งหมดมารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหายังสโมสรตำรวจ ตามที่มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 หนึ่งในคณะทำงานชุดคลี่คลายคดี ว่า สำหรับคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ที่จะต้องนำส่งให้พนักงานสอบสวนภายในระยะเวลา 5 วันนั้น เจ้าตัวไม่มีเหตุจำเป็นต้องเข้ามาเอง สามารถมอบหมายให้บุคคลอื่นนำเข้ามาส่ง หรือจะเข้ามาส่งเองก็ได้ ส่วนประเด็นที่เจ้าตัวจะต้องชี้แจง เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา อาทิ ม.157 การละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ / ม.149 การเรียกรับผลประโยชน์ / ม.309 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใด เป็นต้น เพื่ออธิบายว่าการนำตัวผู้ต้องหาไปพบในวันเกิดเหตุข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทำไมจึงนำตัวผู้ต้องหาไปที่กองบังคับการจังหวัดชลบุรี และเมื่อเข้าไปพบแล้ว มีพฤติการณ์เรียกรับเงินตามที่ถูกกล่าวอ้างหรือไม่อย่างไร และการที่ผู้ต้องหาถูกนำตัวไปยังจุดอื่นๆหลายที่ เพราะสาเหตุอะไร ในขณะนั้นไปในสถานะใด เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ระบุอีกว่า ยังมีประเด็นเรื่องจำนวนเงิน 140 ล้านบาท ว่าอดีตผู้บังคับการฯชลบุรี มีความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งเจ้าตัวก็จะต้องชี้แจงผ่านหนังสือคำให้การแก้ข้อกล่าวหาให้ครบถ้วนทุกประเด็น อาจจะระบุว่าไม่มีส่วนรู้เห็น หรือไม่ได้เรียกรับใดๆ ก็เป็นสิทธิที่เจ้าตัวสามารถให้การอย่างไรก็ได้ แต่คณะพนักงานสอบสวนก็จะนำคำให้การนั้นไปประกอบพิจารณากับพยานหลักฐานที่รวบรวมไว้ และถ้าหากมีประเด็นใดที่พนักงานสอบสวนเล็งเห็นเพิ่มเติม เห็นควรว่าต้องเรียกมาสอบปากคำ จากนั้นจึงค่อยออกหมายเรียกต่อไป แต่ถ้าไม่มีเหตุให้สอบปากคำเพิ่มเติม ก็จะยึดในคำให้การนั้นๆ ถัดไปจึงส่งสำนวนให้กับทาง ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาไต่สวนในส่วนของพฤติการณ์การทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเรามีกรอบระยะเวลา 30 วัน
เมื่อถามถึงเรื่องการที่นายเป้ และอดีตผู้การฯชลบุรี มีส่วนร่วมในการตั้งศูนย์ ศปอส.ชลบุรี พร้อมร่วมคัดเลือกตำรวจผู้ปฏิบัติงานเองนั้น พ.ต.อ.ภาคภูมิ ระบุว่า ในประเด็นนี้เจ้าตัวก็จะต้องทำคำชี้แจงให้การเช่นเดียวกัน และพนักงานสอบสวนก็จะต้องไปตรวจสอบดู หากไม่ครบถ้วนตามประเด็น ก็อาจจะกำหนดประเด็นคำถามที่ขาดเหลือเพื่อให้เจ้าตัวตอบให้ครบ
พ.ต.อ.ภาคภูมิ ระบุด้วยว่า แม้นายเป้ในขณะนี้ยังถือว่าเป็นผู้เสียหายในคดี แต่ในอีกกรณีหนึ่งก็เป็นผู้ต้องหาในคดีจัดให้มีการเล่นการพนัน-ฟอกเงิน หากมีประเด็นใดที่ต้องสอบถามเพิ่มเติม ก็จะต้องเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยานเพื่อให้ได้ข้อมูล ส่วนเรื่องเว็บพนันที่เจ้าตัวเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการต่อ ทั้งการมอนิเตอร์ และไล่ตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นๆ รวมถึงเรื่องทรัพย์สินที่มาจากการทำเว็บพนันโดยตรง ทั้งนี้ ภายหลังจากนี้เราจะเร่งติดตามการจ่ายเงินทั้ง 5 จุด ว่ามีผู้เกี่ยวข้องใดอีกบ้าง เพื่อพิจารณาออกหมายจับ หรือเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา คาดว่าจะมีอีกมาก อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 4-5 นาย และพลเรือน จำนวน 4-5 นาย เป็นต้น เพราะจุดจ่ายเงินที่พบนั้น จากแนวทางการสอบสวน ประกอบด้วย 1.พิกัดคูคต อ.ลำลูกกา 2.พิกัดจังหวัดเชียงราย 3.พิกัดสนามบินสุวรรณภูมิ 4.พิกัดโรงแรมเซ็นทารา พัทยา และ 5.พิกัดร้านกาแฟแห่งหนึ่งใน อ.บางละมุง อย่างไรก็ตาม เราทราบตัวผู้รับเงินในบางจุดแล้ว ประมาณ 2-3 จุด จากนี้จะให้พยานมาชี้ตัวบุคคล เพราะพยานสามารถจำหน้าได้ โดยเราก็จะหารูปมาให้พยานชี้ว่าคนนี้คือบุคคลที่อยู่ในจุดรับจ่ายเงินหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี