ศุลกากรสั่งอายัดหินทรายลอบนำเข้าผิดกฎหมาย ยันมีอำนาจดูแลแค่ฝั่งไทย หน่วยงานคลิปเสียงดีลลับหลุด ยังบ่ายเบี่ยงไม่ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับแนวทางการจัดระเบียบท่าทรายของนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เพื่อป้องกันปัญหาลักลอบนำเข้าหินทรายในแม่น้ำโขงจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแบบผิดกฎหมาย อีกทั้งวางมาตรการบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับส่วย จึงมีการนำคลิปเสียงของบุคคลอ้างเป็นผู้มีอำนาจในหน่วยงานสำนักงานเจ้าท่า สาขานครพนม อ้างว่ามีอำนาจครอบจักรวาลในการดูแลเอื้อประโยชน์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ ถือเป็นการใช้ช่องว่างกฎหมายในการแสวงหาประโยชน์จากการดูดหินทราย ส่อไปในทางทุจริตเรียกรับส่วย ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรมเจ้าท่าว่า ชายในคลิปเสียงนั้นมีอำนาจจริงไหม โดยทางผู้สื่อข่าวติดต่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหารแต่ทางสำนักงานกรมเจ้าท่า สาขานครพนม ยังบ่ายเบี่ยงไม่ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง 

ล่าสุดนางนิภาวรรณ ใยบัวเทศ นายด่านศุลกากรนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องออกมากล่าวในฐานะเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่กำกับดูแลผู้ประกอบการท่าทรายว่า ได้ดำเนินการตามกฎหมายศุลกากรทุกขั้นตอนและมีขอบข่ายอำนาจหน้าที่ เฉพาะการนำเข้ามายังฝั่งไทย กรมศุลกากรไม่มีอำนาจในการตรวจสอบว่าการซื้อขายหินทรายในแม่น้ำโขง ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับฝั่ง สปป.ลาวนั้น ถูกต้องหรือไม่หากมีเอกสารหลักฐานการนำเข้าถูกต้องตามระเบียบ ถือว่าสามารถนำเข้าหินทรายได้ตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับปัญหาผู้ประกอบการท่าทราย มีปัญหายืดเยื้อมานานถึงแม้จะมีการอนุญาตดูดหินทรายทั้งตามมาตรา 9 พ.ร.บ.ที่ดินที่ให้ดำเนินกิจการดูดทรายภายในประเทศ รวมถึงการนำเข้าระหว่างประเทศตามมาตรา 86 วรรคสองของ พ.ร.บ.ศุลกากร แต่ยังมีปัญหาเรื่องความชัดเจน เกี่ยวกับการขออนุญาตนำเข้า เนื่องจากมีปัญหาเรื่องน่านน้ำที่ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันได้ว่า น่านน้ำเป็นของไทย หรือทาง สปป.ลาว ทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ประกอบการ

โดยที่ผ่านมีการยึดหลักในการดูดหินทรายนำเข้าระหว่างประเทศ จะต้องดูดในพื้นที่น่านน้ำชายแดนลาว ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นการประมาณด้วยระยะสายตา แต่ไม่มีข้อตกลงระหว่างประเทศ จึงเป็นช่องว่างทางกฎหมาย ที่เอื้อให้หน่วยงานภาครัฐบางหน่วยงาน เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการท่าทราย เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ในการช่วยเหลือการออกเอกสารนำเข้า ตบตาเจ้าหน้าที่ศุลกากรเพื่อเลี่ยงภาษี จนมีปัญหาการแฉพฤติกรรมของคนที่อ้างว่ามีอำนาจ ในหน่วยงานสำนักงานเจ้าท่า สาขานครพนม เพราะผู้ประกอบการบางรายถูกเอาเปรียบเรียกรับเงินมาตลอด

โดย นางนิภาวรรณ ใยบัวเทศ นายด่านศุลกากรนครพนม เผยว่า สำหรับการดูแลควบคุมการดูดทราย จะมี 2 รูปแบบ ในส่วนแรก คือ ตามมาตรา 9 ของ พ.ร.บ.กรมที่ดิน เป็นการดูดทรายในประเทศไทย ในส่วนนี้ศุลกากรนครพนม ไม่ได้เข้าไปกำกับดูแล เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ แต่จะดูแลในส่วนของมาตรา 86 วรรคสอง เฉพาะนำเข้าเท่านั้น โดยมีเอกสารอนุมัติจากประเทศต้นทางมาสำแดง เดิมทีผู้ประกอบการท่าทรายจะต้องมาขออนุญาตที่ศุลกากรนครพนมโดยตรง กระทั่งเมื่อปี 2563 มีการเปลี่ยนแปลงพร้อมจัดตั้งคณะทำงาน ชื่อว่าคณะทำงานจัดทำความเห็นประกอบการขออนุญาตนำเข้าสินค้าทางอื่นนอกจากทางอนุมัติตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 86 วรรคสอง มีหน่วยงานเกี่ยวข้องถึง 17 หน่วยงานร่วมปฏิบัติ ทำหน้าที่ดูแล ตรวจสอบการขออนุญาตของผู้ประกอบการดูดทราย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ รวมถึงกระบวนการต่างๆ พิจารณาลงความเห็น ก่อนลงนามอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด

ส่วนการนำเข้าผู้ประกอบการจะต้องขออนุญาตนำเข้าทุกครั้ง แล้วแต่รูปแบบ มีทั้งรายวัน รายสัปดาห์ แล้วแต่กรณี หากถามว่าระเบียบพิธีการ นำเข้าทางศุลกากรจะรู้หรือไม่ว่า หินทรายที่นำเข้ามาจากฝั่งไทย หรือฝั่งลาว ไม่สามารถรู้ได้อย่างแน่นอน เป็นการดำเนินการของผู้ประกอบการที่นำเข้ามาโดยแจ้งการนำเข้า ในรูปแบบของการซื้อขายกับทางฝั่งลาว โดยมีหน่วยงานศุลกากรเป็นคนดูแลตรวจสอบ ส่วนการจัดเก็บคิดเพียงภาษีมูลค่าเพิ่มจากราคาซื้อขาย เพราะหินทรายยกเว้นอากรตามกฎหมาย ยืนยันไม่กังวลเรื่องการนำเข้าเกินความเป็นจริง เพราะมีกระบวนการตรวจสอบ รวมถึงมีกล้องวงจรปิด และประมาณการตามขั้นตอนอย่างละเอียด

ในส่วนการตรวจสอบว่าจะนำเข้ามาจากไทย หรือทางลาว ศุลกากรไม่สามารถตรวจสอบได้ มีอำนาจหน้าที่เพียงตรวจสอบปริมาณการนำเข้า ทั้งหินทั้งทรายและไม่จำเป็นต้องนำหินทรายไปพักที่ฝั่งลาว ก่อนนำเข้ามาไทย แล้วแต่ข้อตกลงซื้อขายของผู้ประกอบการ แต่ต้องมีหลักฐานซื้อขายยื่นเรื่องต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรทุกครั้ง

กรณีปัญหาเรื่องการนำเข้ามีหน่วยงานตรวจสอบว่า นำเข้าถูกต้องหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ทำตามขอบเขต ไม่มีอำนาจที่จะไปตรวจสอบว่าจะต้องมีการนำไปพักไว้ที่ไหน หรือดูดมาจากไหน เพียงตรวจสอบการขออนุญาตนำเข้าในปริมาณที่ถูกต้องและจะต้องเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ที่ผ่านมายืนยันไม่มีปัญหากระทำผิดกฎหมาย โดยการซื้อขายกับฝั่งลาวเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการ ฝากถึงผู้ประกอบการหากยังมีปัญหา หรือไม่เข้าใจระเบียบพิธีการนำเข้า-ส่งออกให้แจ้งมาทางศุลกากร หรือทำหนังสือมาสอบถาม ก็จะได้วางแนวทางมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด - 003