ทนายรณณรงค์ พา 3 สาว ถูกหนุ่มแสบหลอกให้รัก คบหาเป็นแฟนหลอกให้ออกรถให้ก่อนชิ่งหนีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อเกือบ 20 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
วันที่ 3 มิถุนายน 2566 น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี อาชีพขายของออนไลน์ น.ส.บี (นามสมมุติ ) อายุ 32 ปี อาชีพรับราชการ น.ส.ซี (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี อาชีพรับจ้างส่วนตัว นำเอกสารหลักฐานเดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับกองปราบปราม
ให้ช่วยเหลือหลังถูกนาย เต้ อายุ 39 ปี เข้ามาตีสนิทหลอกคบหาเป็นแฟนก่อนหลอกให้ช่วยเช่าซื้อรถเก๋ง รถกระบะ รถจยย.ป้ายแดง คนละ 5-6 คัน โดยอ้างว่าทำธุรกิจปล่อยเช่ารถก่อนจะเชิดรถหลบหนีไป ทำให้ผู้เสียหายถูกไฟแนนท์รถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย คนละ 5-6 ล้านบาท มีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวเกือบ 20 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
ซึ่งผู้เสียหายบางรายพอครอบครัวทราบเรื่องที่ลูกสาวถูกหลอกถึงขั้นแม่ต้องผูกคอตายเพราะตรอมใจไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาช่วยใช้หนี้ให้ลูกสาว ส่วนลูกสาวกลายเป็นโรคซึมเศร้าจนคิดสั้นจะฆ่าตัวตายตาม
หลังเกิดเรื่องมีการแจ้งความแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบางท้องที่ไม่รับแจ้งอ้างว่าเป็นเรื่องสามีภรรยาและเป็นความสมัครใจของผู้เสียหายเองที่ให้ด้วยความสเน่หา จึงได้ร่วมตัวกันเดินทางมาขอให้ทางทนายรณณรงค์ ช่วยเหลือ เพราะในเรื่องของคดีความ ไม่อยากให้ชายดังกล่าวไปหลอกหญิงสาวคนอื่นอีก
น.ส.เอ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนขายสินค้าทางออนไลน์อยู่กทม. กระทั่งปลายปี 64 ตนจะเดินทางกลับบ้านที่จ.บึงกาฬ จึงได้เข้าไปเล่นแอปพิเคชั่นอันหนึ่งเกี่ยวกับการเดินทาง ทางเดียวกัน ก็ได้พบกับนายเต้ ที่ทักเข้ามาหาว่าจะไปจ.บึงกาฬ เพื่อไปเที่ยวพอดีจึงได้นัดเจอกัน
หลังจากนั้นนายเต้ได้ขับรถเก๋งป้ายแดงมารับ ตอนแรกที่เจอก็รู้สึกว่าเขาแต่งตัวภูมิฐาน พูดจาดี จึงขึ้นรถไปด้วยกันจนมาถึงจ.บึงกาฬ เมื่อมาถึงตนจะช่วยออกเงินค่านำ้มันรถแต่นายเต้ บอกว่าไม่เป็นไรและให้ช่วยพาเที่ยวหลังจากนั้นจึงมีการแลกเบอร์โทรศัพท์กัน
ซึ่งต่อมานายเต้ ได้โทรศัพท์มาจีบตนจนคบหาเป็นแฟน และบอกให้ตนย้ายไปทำงานกับเขาที่จ.ขอนแก่น เพราะเขาเปิดบริษัทให้เช่ารถยนต์อยู่ที่นั้น ด้วยความที่รักจึงได้ยอมย้ายไปอยู่กินด้วยกัน แต่หลังจากนั้นไม่นานนายเต้ ได้มาขอให้ตนช่วยทำเรื่องซื้อรถเก๋ง รถกระบะ รถจยย.ป้ายแดง จำนวน 6 คัน
โดยอ้างว่าจะนำไปปล่อยเช่า แต่เขาไม่สามารถซื้อรถเป็นชื่อของตัวเองได้เพราะเพิ่งซื้อรถไปยังไม่ครบ 6 เดือนจึงต้องให้ตนเป็นคนซื้อให้ นอกจากนี้ยังยืมเงินตนไปอีก 895,000 บาทอ้างว่าไปจ่ายค่าลูกน้อง
กระทั่งผ่านไปได้ประมาณ 3 เดือนทางไฟน์แนนซ์รถได้โทรมาทวงค่างวดรถที่ตนเป็นคนเช่าซื้อทุกคันว่าไม่ได้มีการส่งค่างวดรถเข้ามาเลย ตนจึงได้ถามนายเต้ ว่าทำไม่ถึงไม่ส่งค่างวดรถ เขาบอกแค่ว่ายังเก็บเงินลูกค้าไม่ได้ จากนั้นก็หายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้อีกเลยตนมารู้ที่หลังพบว่ามีผู้เสียหายเกือบ 20 คนถูกนายเต้ หลอกคบหาเป็นแฟนแบบเดียวกับตนและหลอกให้ช่วยซื้อรถ จึงร่วมตัวกันเข้ามาร้องกองปราบ
เพราะทุกวันนี้ตนเครียดมาก ไฟแนนซ์รถโทรตามทวงหนี้ทุกวันจนไม่กล้ารับโทรศัพท์ใครแล้วบางที่ก็คิดอยากฆ่าตัวตายให้เรื่องมันจบไป ตอนนี้ตนเป็นหนี้กว่า 4.6 ล้านบาท แต่มีพี่ผู้เสียหายอีกคนที่ไม่ได้มาในวันนี้เจอมาหนักกว่าตนอีก
เพราะพี่เขาต้องเสียแม่ไปเพราะเรื่องนี้หลังทราบว่าลูกสาวถูกนายเต้ หลอกเป็นหนี้หลายล้านบาทและไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้แทนลูกสาวได้จนต้องฆ่าตัวตาย พร้อมส่งข้อความสุดท้ายให้ลูกสาวว่าต่อไปนี้ต้องอยู่คนเดียวแล้วน่ะ
ส่วนลูกสาวพอแม่ตายก็กลายเป็นโรคซึมเศร้าและคิดจะฆ่าตัวตายตามแม่มาหลายครั้งพวกตนก็ได้แต่คอยปลอบใจกัน วันนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับนายเต้ ให้ถึงที่สุดจะได้ไม่ไปสร้างเวรสร้างกรรมกับผู้หญิงคนไหนอีก เท่าที่ตนและผู้เสียเช็คประวัตินายเต้ พบว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อยักยอกทรัพย์ พอพ้นโทษออกจากเรือนจำก็มาก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายอีก
ด้านน.ส.บี กล่าวว่าตนถูกหลอกแบบเดียวกันกับน.ส.เอ ซึ่งตนทำงานอยู่ที่จ.เพร็ชบูรณ์ โดยนายเต้ เข้ามาตีสนิททางเฟสบุ๊ค ทำที่เข้ามาจีบตนโดยบอกกับตนว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลห้องฉุกเฉินรพ.ตร. หลังจากพูดคุยจนสนิทสนมแล้วนายเต้ บอกว่าตนทำธุรกิจปล่อยเช่ารถให้กับลูกค้า แต่ขาดเงินหมุนเวียนเพราะเพื่อนที่ร่วมทำด้วยกันได้ถอนหุ้นไปอยากให้ตนช่วยร่วมลงทุนแต่ตนไม่มีเงินมากขนาดนั้น นายเต้ จึงบอกว่าไม่ต้องลงเงินก็ได้แค่ช่วยไปซื้อรถเป็นชื่อตนมาให้กับเขาเพื่อปล่อยเช่าก็พอ
หลังจากน้ันนายเต้ ก็พาไปที่โชว์รูมขายรถ โดยให้ตนซื้อรถเก๋ง รถกระบะ รถจยย.ป้ายแดง ร่วม 7 คัน พอนายเต้ ได้รถไปแล้วก็หายเงียบไปตนไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ทุกวันนี้เป็นห่วงพ่อกับแม่อายุมากและเป็นคนเซ็นต์คำ้ประกันรถให้กับตน ก็ถูกไฟแนนซ์รถโทรตามทวงทุกวัน ตนก็ไม่มีเงินจะไปผ่อนค่างวดรถเพราะมันหลายคันเดือนหนึ่งหลายหมื่นบาท ตอนนี้เป็นหนี้กว่า 5 ล้านบาท
ด้านน.ส.ซี กล่าวว่า ตนทำงานรับจ้างอยู่ที่จ.ขอนแก่น นายเต้ ได้ทักเข้ามาหาจ้างไปทำงานให้ หลังจากนั้นก็พูดคุยเหมือนจีบตนจนโดยบอกว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปส.นอกเครื่องแบบและประกอบธุรกิจส่วนตัวปล่อยรถให้เช่า แต่เพื่อนที่ร่วมลงทุนถอนตัวไปจึงอยากให้ตนมารวมลงทุนด้วย
ตอนแรกก็ขอยืมเงินไปใช้จ่ายทำธุรกิจอ้างว่าค่าลูกน้อง ค่าทำรถซ่อมรถ ตนก็โอนไปให้ตลอดเป็นเงินกว่า 2.5 ล้านบาท จนไม่มีเงินนายเต้ บอกว่าให้ช่วยซื้อรถให้หน่อยจะเอาไปปล่อยเช่าทั้งรถเก๋ง รถกระบะ รถจยย.ป้ายแดง รวม 6 คัน ร่วมกว่า 4 ล้านบาท
ทุกวันนี้โดนไฟแนนช์ตามทวงฟ้องทุกวันจนไม่กล้าออกจากบ้าน เครียดมากอยากให้มีคนเข้ามาดำเนินคดีกับนายเต้ ให้ถึงที่สุด เพราะก่อนหน้านี้เท่าที่พวกตนทราบถ้าก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จ.เชียงรายรับแจ้งความพี่ผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายเต้ แต่ทางตำรวจไม่รับแจ้งอ้างว่าเป็นเรื่องของสามีภรรยาเขาก็คงไม่มาก่อเหตุกับพวกหนูที่จ.ขอนแก่นได้อีกเกือบ 20 ราย
ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆมีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวเกือบ 20 ราย ถูกหลอกให้ออกรถให้เขานำไปใช้ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตอนนี้รถทั้งหมดอยู่ที่ไหน แต่มีมูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ตนจะให้ผู้เสียหายทั้งหมดร่วบร่วมเอกสารหลักฐานทั้งหมดนำยื่นเรื่องที่กองบังคับการปราบปรามให้ช่วยเข้ามาทำคดีให้
นอกจากนี้ยังพบว่าคนก่อเหตุเวลาไปหลอกลวงเหยื่อก็จะมักอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปส.นอกเครื่องแบบและยังมีหมายจับติดตัวอยู่อีกหลายคดีเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ตนไม่เคยเจอใครที่หลอกลวงผู้เสียหายให้ไปออกรถให้คนหนึ่งครั้งละหลายๆคันแบบนี้มาก่อนถือว่าเป็นภัยสังคมอย่างมาก
ตอนนี้ผู้เสียหายหลายรายเครียดคิดสั้นจนจะฆ่าตัวตาย บางรายแม่รับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกสาวไม่ได้เพราะไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ช่วยลูกได้ฆ่าตัวตายไปแล้วก็มี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี