สัตวแพทย์ดูแล
พลายศักดิ์สุรินทร์
ยันอาการดีขึ้น
สัตวแพทย์ตรวจร่างกาย ทำแผล “พลายศักดิ์สุรินทร์” หนองในแผลลดลงต่อเนื่อง ถือเป็นข่าวดี แต่ยัง “งดเยี่ยม”ทุกกรณี
วันที่ 8 ก.ค.66 เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย Elephant Hospital, TECC โพสต์ภาพ “พลายศักดิ์สุรินทร์” พร้อมอัพเดทอาการ โดยระบุข้อความว่า...หายไป 2-3 วัน เพราะงานเข้ารัวๆ วันนี้เรามาอัพเดตอาการของเซเลปแห่งดินแดนห้างฉัตร “พลายศักดิ์สุรินทร์” กันบ้างค่ะ ช่วงนี้ยังคงอยู่ในช่วงปรับตัวกับพี่ควาญและเรียนรู้ภาษาไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่ลุงปุ้ย ควาญช้างศรีลังกาที่มาส่งเดินทางกลับประเทศไปแล้ว อาจจะยังมีขลุกขลักอยู่บ้าง แต่ก็ต้องเรียนรู้กันไปทั้งสองฝ่าย จึงต้องขอความร่วมมือ “งดเยี่ยม” ทุกกรณีนะคะ เพื่อให้สุดหล่อมีสมาธิกับการเรียนรู้ในครั้งนี้ค่า
มาที่เรื่องสุขภาพกันบ้าง ทางโรงพยาบาลช้างลำปางจัดเวรคุณหมอเข้าไปดูแลสุดหล่อโดยเฉพาะ โดยไม่ให้ปะปนกับเพื่อนช้างเชือกอื่น โดยกิจวัตรประจำวันคือการสังเกตและตรวจสุขภาพเบื้องต้น และทำแผลฝีที่สะโพกทั้งสองข้าง โดยแนวโน้มของแผลขณะนี้มีหนองลดลงอย่างต่อเนื่อง ก็ถือเป็นข่าวดีค่ะ
อย่างไรก็ตามช่วงนี้ยังคงเป็นช่วงทำความคุ้นเคยและกักโรค เพื่อความปลอดภัยเราจึงยังไม่สามารถตรวจอย่างละเอียดได้ ถ้าหากสามารถตรวจร่างกายเพิ่มเติมได้มากกว่านี้ ทางเราจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งค่ะ
ก่อนหน้านี้ นายพจน์ หาญพล เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบกล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ไปยังวัด Sri Dalada Maligawa หรือวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว เมืองแคนดี ตามคำเชิญของนาย Pradeep Nilanga Dela Nilame หัวหน้าไวยาวัจกรของวัดพระธาตุเขี้ยวแก้วซึ่งเป็นสถานที่ดูแล “พลายประตูผา” หรือ Thai Raja ในปัจจุบัน
ขณะนี้ “พลายประตูผา” อยู่ในช่วงตกมัน แต่ยังสามารถกินอาหาร ได้แก่ ใบปาล์ม kithul หญ้า อ้อย ได้ตามปกติ ในช่วงกว่า 30 นาทีที่สังเกตอาการ แม้มีผู้คนมากมาย แต่ “พลายประตูผา” ไม่ได้แสดงอาการดุดัน โดยควาญประจำตัวป้อนอาหารในระยะปลอดภัยได้เช่นเคย
เอกอัครราชทูตไทยได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนศรีลังกาในเวลาต่อมาว่า ทางการไทยไม่ได้มีความประสงค์ที่จะนำช้าง “พลายประตูผา” กลับประเทศไทย โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า ภารกิจส่ง “พลายศักดิ์สุรินทร์” หรือ Muthu Raja ไปรักษาอาการป่วยที่ประเทศไทย ได้สร้างความตระหนักรู้อย่างยั่งยืนในเรื่องสิทธิ การเลี้ยงดูและดูแลรักษาช้างและสัตว์ประเภทอื่นๆ ให้ดียิ่งขึ้นในทั้งสองประเทศ จากนี้ไปเราคงจะต้องเน้นเรื่องการความร่วมมือในการทำงานร่วมกันสำหรับอนาคต
ส่วนที่ปรากฏข่าวในสื่อโซเชียลมีเดียว่า ประเทศศรีลังกาจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากประเทศไทย หากนำช้างอีก 2 เชือกคือ “พลายศรีณรงค์” และ “พลายประตูผา” กลับ โดยเป็นการให้สัมภาษณ์ของนาย Neranjan Priyadarshana Dullewe Wijeyeratne อดีตไวยาวัจกรของวัดพระเขี้ยวแก้วซึ่งปัจจุบันเป็นนักการเมืองฝ่ายค้าน ตามข่าวยังระบุว่า นาย Neranjan มีอำนาจหลายอย่างในการจัดการและการส่งเสริมเกี่ยวกับวัดในเมืองแคนดี้นั้น เชื่อว่า เป็นการให้ความเห็นส่วนบุคคล โดยทางการศรีลังกาไม่ได้แจ้งสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว อีกทั้งปัจจุบันนาย Neranjan ไม่ได้มีบทบาทในการจัดการภายในวัดพระเขี้ยวแก้วแล้ว.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี