นายฮ้อยส่งออกโคเนื้อยิ้มเวียดนามปลดแบล็คลิสต์สั่งล็อตแรก 180 ตัวมูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท กรมปศุสัตว์ตั้งเป้า 1 พันล้านต่อปี
วันที่ 10 ก.ค.66 ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม นายสัตวแพทย์ประภาส ภิญโญชีพ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์วีระสันติ ประทุมพล ปศุสัตว์เขต 4 นายสัตวแพทย์สามารถ อ่อนสองชั้น ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม นายสัตวแพทย์ต่อพงศ์ ประเสริฐสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร นายไพศาล พัฒนเดชกุล หัวหน้าด่านกักกันสัตว์นครพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบคัดกรองโคเนื้อ สายพันธุ์ชาโรเล่กว่า 180 ตัว คิดมูลค่ารวมเป็นเงินเกือบ 20 ล้านบาท เพื่อนำโคทั้งหมดส่งออกผ่านด่านชายแดน จ.นครพนม ส่งต่อไปยังปลายทางคือประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นโคเนื้อพันธุ์ชาโรเล่ที่ผ่านมาตรฐานการเลี้ยงของเกษตรกร จากฟาร์มในจังหวัดสุพรรณบุรี ควบคุมโดยกรมปศุสัตว์ ที่กำกับดูแล ส่งเสริมให้เกษตรกรไทย เลี้ยงโคเนื้อส่งออก ร่วมกับพ่อค้าเอกชนที่เข้าร่วมโครงการส่งออกโคเนื้อกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า เพิ่มมูลค่าการส่งออก สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเลี้ยงโคเนื้อมากยิ่งขึ้น
ในครั้งนี้ถือเป็นการส่งออกล็อตแรกในรอบปี เนื่องจากอดีตผ่านมาทางประเทศเวียดนาม ขึ้นแบล็คลิสต์สั่งแบนโคเนื้อจากไทย เพราะมีการตรวจสอบพบสารเร่งเนื้อแดง ทำให้การส่งออกชะงักไปนานหลายเดือน ภายหลังกรมปศุสัตว์ ได้กำชับเกษตรกร ส่งเสริมให้เลี้ยงโคเนื้อภายใต้มาตรฐานที่กำกับไว้ สร้างความเชื่อมั่นกับประเทศปลายทาง เพื่อให้เป็นสินค้าส่งออก เพิ่มมูลค่ารายได้ต่อเกษตรกรผู้เลี้ยง และประสบความสำเร็จ โคทุกตัวผ่านการตรวจสอบคัดกรอง ไม่มีสารเร่งเนื้อแดง และปลอดโรคติดต่อ ทำให้สามารถส่งออกได้อีกครั้ง ในล็อตแรกนี้คิดมูลค่าเป็นเงินเกือบ 20 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าส่งเสริมเลี้ยงโคเนื้อเพื่อส่งออก ตั้งเป้าเงินสะพัดปีละกว่า 1,000 ล้านบาท
โดยโคพันธุ์ชาโรเล่ ได้รับการส่งเสริมเลี้ยงเป็นสัตว์เศรษฐกิจ ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และได้มีการตรวจสอบคัดกรองโรคทุกขั้นตอน ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่กำหนดไว้ ก่อนที่จะส่งข้ามชายแดน จ.นครพนม ผ่านประเทศลาวไปยังเวียดนามต่อไป
นายสัตวแพทย์ประภาส ภิญโญชีพ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงประเทศเวียดนาม มีความต้องการโคเนื้อ จากเกษตรกรไทยสูงมาก เดือนละไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัวที่นำส่งออกผ่านจังหวัดชายแดนอีสาน ไปยังประเทศเวียดนาม เพราะถือว่าเป็นโคเนื้อที่มี คุณภาพมาตรฐานสูง ภายหลังเมื่อช่วงปีที่ผ่านมาประสบปัญหา การส่งออกชะงัก เพราะโคเนื้อถูกแบนจากเวียดนาม หลังมีการตรวจสอบพบมีการใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยง ทำให้กระทบเศรษฐกิจ รายได้ของเกษตรกรเลี้ยงโคเนื้อของไทยลดลง จึงขายได้เพียงในประเทศเท่านั้น
ทางกรมปศุสัตว์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานปศุสัตว์ทั่วประเทศ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบดูแลเกษตรกร สร้างความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยง แก้ปัญหาสารปนเปื้อนเร่งเนื้อแดง ด้วยการนำอาหารที่ผ่านการรับรองคุณภาพปลอดสารพิษไปเลี้ยงโคขุน จนเกษตรกรเกิดความรู้ความเข้าใจ พร้อมสร้างความร่วมมือกับกลุ่มนายทุนเอกชน ที่เข้าร่วมโครงการรับซื้อโคเนื้อส่งออก ปัจจุบันมีนายทุนเอกชนทั่วประเทศ จำนวน 14 ราย ที่มาขอร่วมส่งออกโคเนื้อผ่านกรมปศุสัตว์รับรองมาตรฐาน ก่อนส่งออกมีการกักโคเนื้อ เป็นเวลาประมาณ 30 วัน และตรวจคัดกรองโรค รวมถึงตรวจสารปนเปื้อนเร่งเนื้อแดง จากปัสสาวะของโคเนื้อ ที่สาสามารถตรวจสอบได้ทันที เมื่อตรวจผ่านมาตรฐาน พอถึงกำหนดจึงทำการส่งออก
ก่อนหน้านี้ได้มีการเจรจากับทางผู้รับซื้อทางประเทศเวียดนามอีกครั้ง โดยให้ความมั่นใจว่าโคเนื้อเมื่อถึงมือผู้บริโภคปลอดสารเร่งเนื้อแดง 100 เปอร์เซ็นต์ การเจรจาถือว่าประสบผลสำเร็จสำเร็จ สามารถส่งออกได้อีกครั้ง ถือเป็นล็อตแรกที่ชายแดน จ.นครพนม จำนวน 180 ตัว ที่นำมาจากกลุ่มโคเนื้อ จ.สุพรรณบุรี และเมื่อมาถึงนครพนมประตูส่งออกได้นำปัสสาวะโคมาตรวจสอบคัดกรองอีกครั้งตามกระบวนการ ก่อนที่จะนำเอกสารยืนยันต่อศุลกากร อนุญาตให้รถบรรทุกโคผ่านสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ไปยังประเทศเวียดนามตามลำดับ
สำหรับโคเนื้อส่วนใหญ่ ผู้ส่งออกจะมีการคัดเลือกโคเนื้อพร้อมขุน น้ำหนักประมาณ 300 -400 กิโลกรัม ก่อนที่จะนำไปเลี้ยงขุน ในระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน ให้ได้น้ำหนักประมาณ 600-700 กิโลกรัม เฉลี่ยราคากิโลกรัมละ 100-150 บาท รวมมูลค่าประมาณตัวละ 70,000-80,000 บาท ในล็อตแรกของปีนี้ได้เจรจาส่งออกจำนวน 180 ตัว มูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับซื้อของประเทศเวียดนาม ยืนยันโคเนื้อไทย ได้มาตรฐานเนื้อปลอดภัย พร้อมมีการประชาสัมพันธ์ให้กับพี่น้องเกษตรกร ทำความเข้าใจดูแลเลี้ยงให้มีมาตรฐาน ตามคำแนะนำของกรมปศุสัตว์ เป็นการเพิ่มมูลค่า สร้างอาชีพสร้างรายได้ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเวียดนามมีความต้องการโคเนื้อไทยจำนวนไม่อั้น ทางกรมปศุสัตว์ตั้งเป้าจะต้องส่งออกโคเนื้อสร้างเงินสะพัดปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประเทศคู่ค้า ในด้านมาตรฐานและคุณภาพของโคเนื้อไทย ภายใต้สโลแกนโคเนื้อไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี