ครูจ้างอนุบาลออกโรงรับผิดพูดความจริงแล้วถอดกระโปรงนักเรียนอนุบาล 2 วัย 5 ขวบจริง ทำกระทบจิตใจเด็กรุนแรง เหตุเขียนตัวที(T)ไม่สวย หลังพ่อแม่เข้าร้องผ่านสื่อ ครูไม่พูดความจริง ล่าสุดครูรายดังกล่าวน้อมรับและยกมือไหว้ขอโทษผู้ปกครอง ด้านแม่ยังยืนกรานดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่ต้นสังกัดครู ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เตรียมพิจารณาบทลงโทษ หากผิดรุนแรงถึงขั้นไล่ออก เผยครูเพิ่งจะมายอมรับความจริงภายหลัง
จากกรณีพ่อแม่ของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 5 ขวบ นักเรียนระดับชั้นอนุบาล 2/2 โรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่ง ใน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เข้าพบผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง เพื่อเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องความเป็นธรรม หลังจากเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา คุณครูผู้หญิง น.ส.แก้ว (สงวนชื่อ-สกุล) อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นคุณครูประจำชั้นได้ทำโทษลูกสาว โดยการถอดกระโปรง กลางห้องเรียนต่อหน้าเพื่อนๆทั้งหญิงและชายในชั้นเรียนกว่า 28 คน
โดยอ้างว่าลูกสาวเขียนอักษรภาษาอังกฤษตัว ที (T) ไม่สวยและได้นำกระโปรงมาวางตั้งไว้บนพื้นหน้าชั้นเรียน พร้อมกับให้ลูกสาวกลับไปนั่งเขียนตัวที (T) ที่โต๊ะโดยมีเพียงแค่กางเกงในตัวเดียว พร้อมทั้งขู่ว่าถ้าบอกผู้ปกครองอีก จะไม่ให้นอนกลางวัน ทำให้ผู้ปกครองเดือดร้อนใจ เนื่องจากเด็กเกิดความกลัวครู อับอายเพื่อน ไม่กล้ามาโรงเรียน พร้อมทั้งในช่วงแรกคุณครูปฎิเสทว่าไม่ได้กระทำ แต่ต่อมากลับรับว่ากระทำจริง
ภายหลังจากปรากฏเป็นข่าว ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (17 ก.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องทำงาน ผอ.โรงเรียนอนุบาลดังกล่าวในพื้นที่ ต.ย่านตาขาว น.ส.กชมนต์ หรือแม่โดม อายุ 26 ปี พร้อมด้วยนายปริวุฒิ อายุ 40 ปีผู้เป็นพ่อ ชาว ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ได้เดินทางเข้าพบนายอำนวย สุวรรณพัฒน์ ผู้อำนวยการสถานศึกษา นางสุภาณี ช้อนขำ ผู้อำนวยการกองการศึกษาเทศบาลฯ นางชนิกานต์ อุไรรัตน์ ท้องถิ่น อ.ย่านตาขาว นายสุวิว มณีโชค ปลัดเทศบาลฯ และคุณครูแก้ว (สงวนชื่อ-สกุล) ซึ่งเป็นครูพนักงานจ้างเหมาทั่วไป (ไม่ได้บรรจุรับราชการ) เพื่อเข้ามาพูดคุยหาทางออกกัน ก่อนที่คุณครูรายดังกล่าวจะออกมายอมรับความผิด ว่าได้กระทำจริง พร้อมทั้งยกมือขอโทษผู้ปกครองของนักเรียน โดยไม่มีเหตุการณ์บานปลายเกิดขึ้น
นายอำนวย สุวรรณพัฒน์ ผู้อำนวยการสถานศึกษา กล่าวว่า หลังจากปรากฏเป็นข่าวกรมส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้สั่งการและกำชับมาแล้ว และการกระทำเช่นนี้ แบบนี้มันผิดจรรยาบรรณวิชาชีพอยู่แล้ว แม้กระทั่งการตีนักเรียนก็มีกฎหมายข้อห้าม ฉะนั้นพฤติกรรมการลงโทษแบบนี้จริงๆแล้วเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ไม่มีความเหมาะสม ตนเพิ่งทราบเรื่องเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังเหตุเกิดวันที่ 13 ก.ค. ตอนแรกที่สอบถามครูรายดังกล่าวก็คงปฏิเสธบางส่วน แต่บางส่วนก็ยอมรับความจริง แต่ก็ไม่ทั้งหมด หลังจากที่ได้ทำการสอบสวนวันนี้ทั้งฝั่งผู้ปกครองและครูคู่กรณี ก็ได้ทราบความจริงทั้งหมดแล้ว
เมื่อช่วงเช้าก็ได้พาผู้ปกครองพาดูที่เกิดเหตุและได้สอบถามเหตุการณ์กับนักเรียนในห้องก็ได้ความว่าครูประพฤติถอดกระโปรงนักเรียนจริงๆ หลังจากนี้จะได้ทำรายงานถึงต้นสังกัดคือเทศบาลย่านตาขาวตามลำดับ ส่วนการช่วยเหลือเด็กเบื้องต้นต้องทำการย้ายห้องเรียน เฝ้าสังเกตพฤติกรรม ซึ่งทางโรงเรียนจะให้การช่วยเหลือที่สุด
ส่วนนางสุภาณี ซ้อนขำ ผู้อำนวยการกองการศึกษาเทศบาลฯ กล่าวว่า ครูดังกล่าวทำงานมาที่นี่ 7 ปีแล้ว เท่าที่เห็นพฤติกรรมที่ผ่านมาครูคนดังกล่าวเป็นคนที่รักเด็ก เอาใจใส่ในการเรียนการสอน แต่เรื่องทำโทษเด็กบางทีอาจจะเกินเลยไปจนเด็กร้องไห้ จนตนมาทราบตนก็เสียใจ ยอมรับว่าครูรายนี้บอกความจริงเราไม่หมด ตนก็เพิ่งมาทราบเรื่องทั้งหมดหลังการสอบสวน จากนี้ต้องรอบันทึกจากโรงเรียน และตั้งคณะกรรมการสอบสวน ก่อนจะส่งเรื่องไปให้ทางท้องถิ่น จ.ตรัง และว่ากันไปตามระเบียบถ้าร้ายแรงก็ว่าไปตามบทลงโทษตามระเบียบเทศบาล ซึ่งโทษถ้าพบว่าร้ายแรงจริงๆ คือการไล่ออก ซึ่งเด็กเล็กตั้งแต่ 0-6 ขวบควรให้ในสิ่งที่เหมาะสมเพราะเป็นวัยที่จดจำ อยากให้ทุกคนที่เป็นครูตระหนักการลงโทษเด็กมีหลายรูปแบบ แต่การลงโทษแบบนี้ไม่เหมาะสมแน่นอน ส่วนจะลงโทษยังไงต้องรอผลสอบ และผู้บริหารเทศบาลว่าไปตามระเบียบ
ขณะที่ น.ส.กชมนต์ หรือแม่โดม อายุ 26 ปี กล่าวว่า วันนี้ได้พบผู้บริหารสถานศึกษาแล้ว ก็ได้รับการยอมรับว่าครูรายนั้นถอดกระโปรงลูกสาวตนจริง โดยให้ลูกสาวตนเขียนตัว T จนเสร็จก่อนให้ใส่กระโปรงกลับตามเดิม และทาง ผอ.โรงเรียนก็ได้บอกถึงการดำเนินการทางวินัยและบทลงโทษต่างๆ ให้ตนฟัง ซึ่งหลังจากที่ได้พบครูรายดังกล่าวในตอนแรกยังโกรธที่ครูรายนั้นยังไม่ยอมรับ จนต้องสอบถามเด็กในห้องก่อนมายอมรับภายหลัง
ตอนนี้ก็ยังไม่รู้สึกพอใจ เพราะลูกสาวตนได้รับผลกระทบเยอะ เช่น ไม่กล้ามาโรงเรียน ไม่อยากพบครูคนนี้แล้ว อับอายเพื่อนในห้อง ทางตำรวจ สภ.ย่านตาขาว ได้ติดต่อให้เข้าสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว หลังจากนี้อยากให้โรงเรียนแก้ไขปัญหานี้ ผลกระทบที่น้องจะได้รับ ย้ายห้องไปเรียนห้องอื่นจะเข้ากับเพื่อนได้มั้ย อยากให้โรงเรียนกำชับครูลงโทษตามเหตุสมควร ฝากถึงผู้ปกครองรายอื่นหากพบว่าลูกตัวเองโดนกระทำเกินกว่าเหตุ อยากให้ออกมาเรียกร้องเพื่อที่จะไม่โดนกระทำแบบนี้อีก ทำโทษได้ตีได้แต่อย่าละเมิดสิทธิเด็ก ทำให้เด็กได้รับความอับอาย เพราะเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจลูกสาวตนมาก ส่วนหลังจากนี้ทางคดีเบื้องต้นตนก็ยังคงดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ในเบื้องต้นวันนี้ก็ยังคงไม่มีการยอมความแต่อย่างได แต่อย่างไรก็ต้องปรึกษากับทางครอบครัวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามที่ สภ.ย่านตาขาว ทาง พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว เผยว่าหลังจากผู้เสียหายเข้ามาขอแจ้งความ ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีก็ได้รับแจ้งความไว้แล้ว และในวันนี้ทาง พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้กำชับในคดีนี้มาแล้ว พร้อมทั้งในวันนี้ตนได้สั่งการให้ ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว (เจ้าของคดี) เชิญผู้ปกครองมาทำการสอบปากคำ และจะดำเนินการประสานสหวิชาชีพมาสอบเด็กที่เสียหายอีกครั้งตามขั้นตอนของกฏหมาย และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี