27 ต.ค.56 ที่สุด “ชลอ เกิดเทศ” อดีตผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ เจ้าของวลีเด็ด “ทำงานนี้เพื่อชาติ” ก็ได้รับอิสรภาพ หลังถูกจับกุมเป็นผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่าสองแม่ลูกศรีธนะขัณฑ์ คือคดีการเสียชีวิตของนางดาราวดี และ ด.ช.เสรี ภรรยา ฎสันติ ศรีธนะขัณฑ์” ซึ่งคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2537 ในยุคที่มี พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นอธิบดีกรมตำรวจ และได้ตำรวจมือปราบอย่าง พล.ต.ต.วรรณรัตน์ คชรัตน์ ผบก.ป. เป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี

ทีมงานตำรวจชุดนั้นมี อาทิ กองปราบปราม นำโดย พล.ต.ต.วรรณรัตน์ คชรักษ์ ผบก.ป. เป็นหัวหน้าทีมสืบสวน ชุดทำงาน อาทิ พ.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ. เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ประมวลศักดิ์ ศรีสมบุญ ผกก.2 ป. , พ.ต.ท.เมธี กุศลสร้าง รอง ผกก.1 ป. และ พ.ต.ต.ทวี สอดส่อง สว.ผ.4 กก.2ป. เป็นต้น ส่วนนครบาลมี พล.ต.ต.โสภณ วาราชนนท์ รองผบช.น.เป็นหัวหน้าทีม โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รอง อ.ตร. คุมคดีอีกชั้น

คดีดังกล่าวเกิดจากนายเกรียงไกร เตชะโม่ง ได้ขโมยเพชรของราชวงศ์ซาอุฯ หนีกลับมาประเทศไทย กระทั่งทางการประเทศซาอุดีอาระเบียประสานผ่านกระทรวงการต่างประเทศให้ช่วยติดตามตัวนายเกรียงไกรพร้อมเพชรส่งกลับคืน สมัยนั้นกระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลกรมตำรวจ ตั้งชุดเฉพาะกิจ โดยมี พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ เป็นผบช.ประจำกรมตำรวจ ติดตามยึดทรัพย์พร้อมนำตัวนายเกรียงไกรส่งดำเนินคดี ส่วนของกลางทั้งหมดที่ยึดได้ส่งกลับคืนให้ทางการซาอุฯ ต่อมาทางการซาอุฯ ได้ทักท้วงว่าเพชรที่ส่งคืนได้ไม่ครบ รวมทั้งนายซาอิด โคจา อุปทูตซาอุฯ ประจำประเทศไทย ได้เร่งรัดกรมตำรวจเร่งติดตามหาทรัพย์สินที่เหลือคืนมา โดยเฉพาะเพชรบลูไดมอนด์

หลังจากการหายไปของนางดาราวดีและด.ช.เสรีผ่านไป 1 เดือน พบศพสองแม่ลูกเสียชีวิต ถูกรถบรรทุกชนที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบศพสองแม่ลูกถูกจัดฉากอยู่ในรถเบนซ์ที่ถูกรถบรรทุกพุ่งชน จากการตรวจสอบภายในรถอย่างละเอียดพบพยานหลักฐานหลายอย่าง อาทิ ผ้าอนามัย 2 ห่อ ทั้งที่ซื้อจากกรุงเทพฯ และที่ห้างเอสพี พลาซ่า จ.สระแก้ว รวมทั้งผู้เสียชีวิตทั้งสองมีบาดแผลบริเวณกกหู และรอยฟกช้ำตามตัว จากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ถึงการเสียชีวิตไม่น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ คาดว่าถูกทำร้ายจนถึงแก่ความตายมาก่อน

ชุดสืบสวนติดตามจนพบแหล่งกักขังตัวสองแม่ลูกเป็นบังกะโล “กวีวิลล่า” อยู่ใกล้กับ ห้างเอสพี พลาซ่า อ.สระแก้ว จ.ปราจีนบุรี สมัยนั้น รวมทั้งพยานยืนยันทั้งแม่และเด็กเข้ามาซื้อของในห้าง โดยมีนายตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงตามจับกุมชุดอุ้ม ประกอบด้วย ตำรวจและพลเรือน อุ้มสองแม่ลูกมากักขังตัวไว้ก่อนจะฆ่าอำพรางคดี ทั้งหมดให้การซัดทอดจึงนำไปสู่การเสนอให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นชอบจึงอนุมัติออกหมายจับพล.ต.ท.ชลอต่อไป

คลิปภาพข่าวคดีอุ้มฆ่า "ดาราวดี-เสรี ศรีธนะขัณฑ์" 2 แม่ลูก

ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.45 ให้ลงโทษ พล.ต.ท.ชลอ ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน จำคุกตลอดชีวิต ในกรณีการฆาตกรรมนางดาราวดี และ ด.ช.เสรี ศรีธนะขัณฑ์

ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 3 มี.ค.49 ให้ประหารชีวิต ศาลฎีกามีคำพิพากษายืน ให้ประหารชีวิต เมื่อวันที่ 16 ต.ค.52 อย่างไรก็ดีในปี 53 พล.ต.ท.ชลอได้รับพระราชทานอภัยโทษ เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต และในปี 54 เหลือโทษจำคุก 50 ปี

จากคดีดังกล่าวจึงได้มีประกาศถอดยศ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมด เมื่อวันที่ 5 พ.ย.53 (ก่อนหน้านั้นยศที่ได้รับสูงสุด คือ พลตำรวจโท (พล.ต.ท.))

ต่อมา ปี 56 นายชลอ มีคุณสมบัติพักการลงโทษ ตรงตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ คือเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม จำคุกมาแล้ว 1 ใน 3 ของโทษ หรือ 18 ปี ในโทษจำคุกตลอดชีวิต และนายชลอยังเข้าเงื่อนพิเศษ คือเป็นนักโทษชราอายุเกิน 70 ปี และมีอาการป่วย ที่ระเบียบระบุว่าสามารถพักการลงโทษได้ตามเงื่อนไข อีกทั้งคดีจบสิ้นแล้ว คณะกรรมการจึงมีความเห็นสมควรให้พักการลงโทษ และได้ออกจากเรือนจำกลางบางขวาง ในวันที่ 25 ต.ค.56 และแต่ต้องไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติในเขตพื้นที่ที่แจ้งความจำนงไว้ทุกๆ 1 เดือน จนกว่าจะครบตามเงื่อนไข