ฝนกระหน่ำระบายไม่ทัน
ท่วมนิคมบางปู
กทม.สำลักน้ำหลายแห่ง
อุตุฯเผยสถานการณ์7วัน
พายุฝนถล่มหนักทั่วไทย
รบ.สังลุยกำจัดผักตบชวา
กทม.อ่วมต่อเนื่อง ถนนลาดพร้าว ช่วงซอยลาดพร้าว 23 ไปถึงซอย 41 น้ำท่วมขังยาว 5 กิโลเมตร จราจรติดขัด
สัญจรลำบาก ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ เขตส่งออก เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ ส่วน จ.ระยองตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ผู้ว่าฯ กระบี่ สั่งกำชับติดตามสถานการณ์น้ำดูแลประชาชนใกล้ชิด กรมอุตุฯ เผยช่วง 7 วันข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเมื่อกลางดึกวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ส่งผลให้หลายๆ พื้นที่เกิดน้ำท่วมก่อนจะมีน้ำขังบนพื้นผิวจราจรจนถึงช่วงเช้า โดยบริเวณถนนลาดพร้าวขาออก ช่วงซอยลาดพร้าว 23 ไปจนถึงซอยลาดพร้าว 41 ยังคงมีน้ำท่วมขังบนพื้นผิวการจราจรตลอดเส้นทางเป็นระยะทางเกือบ 5 กิโลเมตร มีน้ำท่วมขังบนถนนสภาพเหมือนคลอง ทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ประชาชนสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก
ส่วน ที่ จ.สมุทรปราการ มีฝนตกหนักในพื้นที่ช่วงดึก ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ นิคมอุตสาหกรรมบางปู ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ที่เคยเป็นปัญหาน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 ก.ค. ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู เขตส่งออก มีปริมาณน้ำท่วมขัง ด้านทางตรงทางเข้าประมาณ 20-30 เซนติเมตร ส่วนด้านในมีปริมาณน้ำท่วมสูง 30-50 เซนติเมตร รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ ถูกน้ำท่วมสูงเกือบครึ่งคัน และทำให้การสัญจรเป็นไปด้วยความลำบาก จะต้องใช้รถกระบะยกสูง หรือ รถบรรทุก ในการส่งคนเข้าออกในพื้นที่ โดยพนักงานในพื้นที่ต้องมารอขึ้นรถเพื่อไปเข้างาน บริเวณถนนเมนหลักของนิคมเป็นจำนวนมาก ส่วนรถจักรยานยนต์ที่พนักงานนำมาก็ต่างพากันจอดริมถนนเมนหลัก ทำให้รถติดยาว
ส่วนที่ จ.ระยอง จากกรณีมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.นิคมพัฒนา และ อ.เมืองระยอง จนเป็นเหตุทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ จ.ระยอง โดยมวลน้ำจาก อ.นิคมพัฒนา ได้ไหลลงคลองทับมาจำนวนมาก ก่อนจะเอ่อท่วมหลายพื้นที่ใน ต.ทับมา อ.เมืองระยอง ล่าสุดมวลน้ำได้ไหลไปถึงพื้นที่ ม.3 ชุมชนบ้านหนองมะหาด ต.ทับมา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำแล้ว
นายอัธยา นวลอุทัย ปภ.ระยอง กล่าวว่า เช้าวันนี้ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ ม.3 บ้านหนองมะหาด ต.ทับมา อ.เมืองระยอง บริเวณหมู่บ้านแดนใหม่ วิลลา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ประมาณ 10 - 20 ซม.แต่มวลน้ำยังไม่ท่วมเข้าบ้านเรือนประชาชนแต่อย่างใด
เทศบาลตำบลทับมา ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง เพื่อเร่งดำเนินการสูบน้ำจากหมู่บ้านแดนใหม่ ลงสู่คลองทับมาด้วยแล้ว ขณะนี้น้ำที่ท่วงขังลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสถานการณ์น้ำในคลองทับมาก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องทางโครงการชลประทานระยอง ได้รายงานว่าปริมาณน้ำบริเวณสะพานเขาโบสถ์ลดลงต่ำกว่าจุดวิกฤติ 2.50 เมตร เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากไม่มีฝนตกตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาหากวันนี้ไม่มีฝนตกลงซ้ำในพื้นที่จังหวัดระยองอีก คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ
จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ระยอง ทำให้เกิดน้ำท่วมในบริเวณบ้านหนองมะหาด หมู่ 3 และหมู่ 4 ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งเป็นจุดเดิมที่เคยท่วมเมื่อปีก่อนก่อน อย่างเช่น หมู่บ้านแดนใหม่ หมู่บ้านอยู่สบาย หมู่บ้านสวนแก้ว หมู่บ้านศักดิ์ทิพย์ 2 ซึ่งอยู่ติดกับคลองทับมา น้ำทะลักเข้าท่วมแล้ว และมีแนวโน้มระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก เนื่องจากมวลน้ำตากนิคมพัฒนาไหลลงมาผ่านทับมาลงสู่ทะเล
ล่าสุดทางหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ศาลาเอนกประสงค์ ใน ต.ทับมา โดยมีชาวบ้านประมาณ 20 ครอบครัว มาพักอาศัยชั่วคราวซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้จัดโรงครัว ปรุงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย นอกจากนี้ยังจัดทำกระสอบทราย ป้องกันน้ำท่วม โดยให้ประชาชนมารับกระสอบทรายไปวางป้องกันบ้านของตัวเองได้ด้วย ซึ่งทางกองทัพเรือภาคที่ 1 ก็ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร มาช่วยตักทรายบรรจุกระสอบ เพื่อแจกจ่ายให้ชาวบ้านด้วย
ส่วนสถานการณ์น้ำที่บริเวณบ้านหนองมะหาด ถนนหนทาง และหมู่บ้านจัดสรรกว่า 10 แห่ง เต็มไปด้วยน้ำ ที่ทะลักขึ้นมาตามท่อระบายน้ำ รวมถึงน้ำที่ล้นคลองทับมาเข้าท่วม
นายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอเมืองกระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน หลังจากได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้คลองหลายสาย น้ำเริ่มเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่บริเวณลุ่มต่ำริมคลองในพื้นที่ ต.ทับปริก และ ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ ซึ่งเป็นคลองที่รับน้ำจากเทือกเขาพนมเบญจา ตัดผ่าน ก่อนน้ำไหลลงปากแม่น้ำกระบี่ เบื้องพบน้ำไหลเข้าท่วมบ้านประชาชนแล้ว 2-3 หลัง ซึ่งเป็นบ้านที่เคยถูกน้ำท่วมซ้ำซากที่เกิดฝนตกหนัก เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย
นายสุวิทย์ กล่าวว่า หลังจากที่เกิดฝนตกหนักตลอด 1-2 วันที่ผ่านมา ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้สั่งกำชับให้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจากฝนตกหนักที่อาจจะส่งผลกระทบกับประชาชนได้ ในพื้นที่ อ.เมืองกระบี่ สำหรับจุดเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ปริมาณน้ำจากเทือกเขาพนมเบญจา อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา ไหลลงคลองห้วยโต้ ผ่านคลองทับปริก และไหลลงคลองกระบี่ใหญ่ ก่อนที่จะไหลลงปากแม่น้ำกระบี่ บางจุดน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ในที่ลุ่มต่ำ
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาผักตบชวา จึงได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย(มท.) โดย ยผ. ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาผักตบชวาที่กีดขวางทางน้ำในแม่น้ำสายหลัก แหล่งน้ำปิดขนาดใหญ่ แหล่งน้ำเชื่อมโยง และในแหล่งน้ำปิดสาธารณะ
ทั้งนี้ ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 3 คณะ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนแก้ไขปัญหา ได้แก่ 1.คณะกรรมการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวา โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีอธิบดี ยผ. เป็นกรรมการและเลขานุการ 2.คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาผักตบชวา โดยมี ปลัด มท. เป็นประธาน และมีอธิบดี ยผ. เป็นคณะอนุกรรมการและเลขานุการ และ 3.คณะทำงานเพื่อปฏิบัติการแก้ไขปัญหาผักตบชวา ระดับจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน และมี ยผ.จังหวัด เป็นคณะทำงานและเลขานุการ
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วัน ข้างหน้า ระหว่างวันที่ 21-27 ก.ค.2566ในช่วงวันที่ 21-25 ก.ค. ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนในช่วงวันที่ 26-27 ก.ค. 66 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน และภาคใต้ มีกำลังค่อนข้างแรงตลอดช่วง ทำให้บริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่งผลทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อนึ่ง พายุโซนร้อน “ทกซูรี” บริเวณด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น คาดว่าจะเคลื่อนผ่านตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน ในช่วงวันที่ 25-26 ก.ค. 2566 หลังจากนั้นจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งตอนใต้ของประเทศจีนในวันที่ 27 ก.ค. 2566
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 21-25 ก.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองสำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งตลอดช่วง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 24-27 ก.ค. 66
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี