เตือนภัยมาอีก23-26เมษายน
พายุฤดูร้อนลูกใหม่
จ่อฟาดหางประเทศไทยตอนบน
ลมกระโชกแรง-ฟ้าผ่า-ลูกเห็บ
เชียงรายโดนก่อนบ้านพัง42หลัง
ส่งผลค่ามลพิษฝุ่นลดฮวบทันที
อุตุฯเตือนเตรียมรับมือด่วน! “พายุฤดูร้อน” ลูกใหม่ถล่มไทยตอนบน มาแน่ 23-26 เมษายน ในขณะที่ จ.เชียงราย โดนแล้วฟาดหางบ้านพัง 42 หลังส่งผลให้ค่ามลพิษฝุ่นลดฮวบทันที
เมื่อวันที่ 22 เมษายน กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่า ในช่วงวันที่ 23-26 เมษายน 2566 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับมีลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ จะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและด้านตะวันออกของภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร และสัตว์เลี้ยงในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนบริเวณอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
พายุถล่มเชียงรานบ้านพัก42หลัง
จากกรณีมีฝนตกหนักและพายุฤดูร้อนเมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้สำรวจผลกระทบ ซึ่งทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย แจ้งว่ามีพื้นที่ 5 อำเภอ ได้รับผลกระทบในช่วงเย็นโดยได้แก่ อ.เมืองเชียงราย มีจำนวน 10 ชุมชน ในเขตเทศบาลนครเชียงรายส่วนพื้นที่รอบนอกได้รับความเสียหาย 6 ตำบล 12 หมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมี อ.แม่สาย 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน อ.แม่สรวย 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน อ.แม่ฟ้าหลวง 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน และ อ.เวียงชัย 5 ตำบล 9 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นการล้มของต้นไม้ เสาไฟฟ้า ป้าย ร้านค้า ฯลฯ และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายของบ้านเรือน
โดยเฉพาะ อ.เวียงชัย พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนและสิ่งสาธารณูปโภคได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยเขต ต.เวียงชัย พบว่าที่หมู่ 12 และหมู่ 20 มีบ้านเรือนเสียหายจำนวน 5 หลังคาเรือน เสาไฟฟ้าบริเวณหน้าเทศบาล ต.สิริเวียงชัย ล้มลงมาและต้นไม้บริเวณห้าโรงเรียนเวียงชัยวิทยาคม หมู่ 10 หักโค่นลงมาพาดสายไฟฟ้า ส่วน ต.ดอนศิลา มีบ้านเรือนหมู่ 10 และหมู่ 16 จำนวน 3 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหายและต้นไมล้มพาดสายไฟฟ้าบริเวณหมู่ 7 และ ต.ผางาม มีบ้านเรือนพื้นที่หมู่ 3 ได้รับผลกระทบ 17 หลังคาเรือน หมู่ 14 จำนวน 1 หลังคาเรือน และหมู่ 15 จำนวน 1 หลังคาเรือน ต.เวียงเหนือ ที่หมู่ 5 จำนวน 1 หลังคาเรือน และ ต.เมืองชุม พื้นที่หมู่ 10 จำนวน 3 หลังคาเรือน
รวมบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหมด จำนวน 42 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ฝาบ้านและหลังคาถูกพายุพัดจนปลิวเสียหายรวมทั้งบางหลังถูกต้นไม้ใหญ่ล้มลงมาทับ ซึ่งผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย สั่งการให้มีการสำรวจรายละเอียดพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว
อากาศโล่งฝุ่นพิษลงลงทันที
ขณะที่บรรยากาศทั่วไปหลังฝนตกและพายุพบว่าอากาศปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้นโดยกรมควบคุมมลพิษตรวจวัดคุณภาพอากาศพบว่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ชายแดนไทย-เมียนมา ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย วัดได้ 66 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อ.เมืองเชียงราย วัดได้ 55 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และชายแดนไทย-สปป.ลาว อ.เชียงของ วัดได้ 68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร.
ลูกเห็บถล่มพะเยากลางดึก
ผู้สื่อข่าวได้ติดตามหลังจากเมื่อคืนวานและกลางดึก คืนที่ผ่านมาได้เกิดพายุฤดูร้อนลูกเห็บพัดถล่มหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบทำให้ บ้านเรือนประชาชน ได้รับความเสียหายโดยเฉพาะบ้านเรือน ตำบลท่าจำปี หมู่ 4-5-6 อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา บ้านเรือนประชาชน ถูกลมพายุลูกเห็บพัดถล่มเอาหลังคาปลิว หายไปได้รับความเสียหาย กว่า 50 หลังคาเรือน
โดยเมื่อคืนเวลา01.00น.วันที่22เมย.พายุลูกเห็บได้พัดเอาหลังคา และไม้เครื่องหลุดออกไปทั้งแถบไปตกในห้องนอนของบ้านที่เจ้าของบ้านกำลังนอนหลับอยู่แล้วถูกเศษกระเบิ้องมุงหลังคาและไม้เครื่องระแนงหล่นตกลงมาเฉียดศรีษะ และเศษกระเบื้องที่แตกหักหล่นใส่ตัวและศรีษะเจ้าของบ้านหัวแตกเลือดไหล และตามร่างกายบาดเจ็บขณะที่นอนอยู่บนเตียง จนต้องรีบวิ่งหนีออกจากบ้านในสภาพเปียกทั้งตัวและภายในบ้านถูกน้ำฝนตกใส่ ทำให้ ที่นอน เครื่องใช้ไฟฟ้าตลอดจนอย่างอื่น เสียหายทั้งหมด
จากการสอบถามนายวรวิทย์ ใหญ่วงค์ อายุ 47 ปี เลขที่ 80 หมู่ 5 ตำบลท่าจำปี กล่าวว่าพายุลูกเห็บมาเมื่อคืนเวลา01.00น.ได้พัดเอาหลังคา และไม้เครื่องระแนงหลุดออกทั้งแผงและตกใส่ตนเองขณะที่กำลังนอนหลับในห้องได้รับความเสียหายทั้งหลังและเจ้าของบ้านหนีรับวิ่งออกแทบไม่ทันโดยได้รับบาดเจ็บถูกกระเบื้องบริเวณหน้าผากและหลัง ซึ่งในวันนี้ทางป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลท่าจำปี ผู้ใหญ่บ้าน ได้ เข้าทำการสำรวจและช่วยเหลือในเบื้องต้น
จุดความร้อนอยู่ที่ 1,215 จุด
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 21 เมษายน 2566 ไทยพบจุดความร้อน 1,215 จุด ในขณะที่จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว อยู่ที่ 3,571 จุด, พม่า 2,959 จุด, เวียดนาม 728 จุด, กัมพูชา 507 จุด และ มาเลเซีย 33 จุด
ซึ่งข้อมูลจากดาวเทียมระบุอีกว่า จุดความร้อนในประเทศไทยวานนี้ พบในพื้นที่เกษตรมากที่สุด 336 จุด ตามด้วยพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 311 จุด, ป่าสงวนแห่งชาติ 299 จุด, พื้นที่เขต สปก. 130 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 123 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 16 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ #เชียงใหม่ 90 จุด
ระดับค่าฝุ่นยังอยู่ที่สีส้ม
ส่วนสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่ตรวจสอบจากแอปพลิเคชันเช็คฝุ่น เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา ภาพรวมทั่วประเทศยังคงเกินค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับสีส้มไปถึงสีแดงในหลายพื้นที่รวมเกือบ 60 จังหวัด โดยกระจายกันไปยังพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก และภาคกลาง โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ระดับสีแดง 3 จังหวัด ได้แก่ #ลำพูน มีค่า PM2.5 มากที่สุด 97 ไมโครกรัม ตามด้วย #แม่ฮ่องสอน และ #เชียงใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัย และงดกิจกรรมภายนอกอาคารสถานที่เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่จะตามมา ในขณะที่กรุงเทพมหานคร คุณภาพอากาศภาพรวมอยู่ในระดับสีส้มที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเขตบางบอน มีค่าฝุ่น PM2.5 อันดับหนึ่งอยู่ที่ 82.3 ไมโครกรัม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี