อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองร่วมคิกออฟกำจัดผักกระฉูดวัชพืชน้ำในบึงมอ พร้อมดันเป็นแหล่งท่องเที่ยว พรานเบ็ดได้จุดล่าปลาแห่งใหม่แล้ว
วันที่ 24 ก.ค.66 เวลาประมาณ 10.00 น. บริเวณแหล่งน้ำบึงมอ เขตพื้นที่เทศบาลตำบลท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เดินทางมาร่วมพิธีเปิดกิจกรรมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามผังภูมิสังคม เพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo-social Map) ให้เป็นไปตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย เรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง อย่างเป็นรูปธรรม
ครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย กรมการพัฒนาชุมชน และ กรมที่ดิน จับมือกับจังหวัดนครพนม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม (อบจ.ฯ) อำเภอท่าอุเทน เทศบาลตำบลท่าอุเทน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 (นพค.22) หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนม สภ.ท่าอุเทน รพ.ท่าอุเทน รวมถึง คณะกรรมการจัดทำผังภูมิสังคมฯ ระดับจังหวัด,อำเภอ,ตำบลและหมู่บ้านในท้องที่ ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน 7 ภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะด้านการศาสนา ประชาชนจิตอาสา ที่เข้าร่วมดำเนินการอย่างคับคั่ง โดยทางมณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) นอกจากส่งกำลังพลช่วยแล้ว ยังได้จัดรถครัวสนามทำอาหารแจกผู้ร่วมกิจกรรมอีกด้วย
นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม กล่าวต่ออธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ว่า การบริหารจัดการน้ำฯ แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดโครงการหรือกิจกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชน และพัฒนาเมือง โดยน้อมนำต้นแบบการจัดการทรัพยากรน้ำ และลดความเสี่ยงจากการเกิดภัยพิบัติของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และน้อมนำพระราชดำรัส “อารยเกษตร” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 มาใช้ดำเนินการ ภายใต้กลไกการทำงานในรูปแบบของโครงการอำเภอ”บำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการ
“ทั้งนี้ มีการประสานงานและคัดเลือกโครงการ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลตำบลท่าอุเทน ในการดำเนินโครงการ และอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ จิตอาสา ภาคีเครือข่าย ประชาชนในพื้นที่ และภาคเอกชน อันจะก่อให้เกิดพลังในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ไปสู่การปฎิบัติในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม” ผวจ.นครพนม กล่าว
ทางด้าน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้ประชุมติดตามนโยบายผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มีข้อสั่งการให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้ง และจัดทำแผนการปฏิบัติงาน (Action Plan) ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝนช่วงเดือนพฤษภาคม
โดยการจัดทำผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo – social Map) และเน้นย้ำให้มีการนำแผนไปสู่การปฏิบัติแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกมิติให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม โดยกำหนดระยะเวลาการดำเนินการ 31 สัปดาห์ (ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ถึง มิถุนายน 2566) ในทุกจังหวัด
อธิบดีกรมโยธาฯ กล่าวต่อว่า กลไกการทำงานของโครงการจัดทำผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo-social Map) สรุปเป็นบันได 5 ขั้น โดยบันไดขั้นแรกจะอาศัยการบอกเล่าสภาพภูมิสังคมจากชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ ให้พวกเขาถ่ายทอดออกมาเป็นแผนผัง แผนที่ พร้อมบอกเล่าปัญหาที่ประสบภัยอยู่ในปัจจุบัน
จากนั้นก็เข้าสู่บันไดขั้นที่ 2 กรมโยธาฯจะนำแผนผังที่เขียนด้วยมือของชาวบ้านจากการลงพื้นที่ประชุม สแกนเข้าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยเจ้าหน้าที่จะสามารถทราบปัญหา ทางกายภาพของพื้นที่นั้น ๆ และให้เป็นไปตามความต้องการของชาวบ้าน เช่น พื้นที่ลุ่มชาวบ้านอยากได้สะพานหนีน้ำ หรือพื้นที่ดอนชาวบ้านอยากให้สร้างถนนเพื่อเพิ่มทางสัญจร
เมื่อมาถึงบันไดขั้นที่ 3 ประชุมพิจารณาโครงการที่ได้การสนับสนุนจากภาครัฐ โดยขั้นตอนนี้ทางอำเภอต้องพิจารณากลั่นกรองโครงการมาก่อน เรียงจากโครงการขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และเร่งด่วนจากมากไปหาน้อย กระทั่งบันไดขั้นที่ 4 การประชุมพิจารณาโครงการสำคัญขนาดใหญ่ ที่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมาก ทางจังหวัดจะพิจารณามอบหมายให้แต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้าแผนพัฒนา และถ้ามีโครงการที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณ สามารถบูรณาการหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่าย ทำให้สามารถดำเนินการได้ทันที
และบันไดขั้นสุดท้าย การนำโครงการที่ได้ไปดำเนินการให้แล้วเสร็จ ผลจากการพัฒนาจากโครงการผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo – social Map) ก็จะได้โครงการที่มาจากความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่จริง ทำให้ได้โครงการที่ตรงใจตามความต้องการของชาวบ้าน ส่งผลให้เป็นการใช้งบประมาณ ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
“ฉะนั้นเป็นการพัฒนาจากรากหญ้าขึ้นสู่ปลายยอด และถ้าหากเราทำแบบนี้ทั่วประเทศ จะทำให้สังคมไทยเข้มแข็งยั่งยืนตามแบบ SDGs (Sustainable Development Goals) หรือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาฯ กล่าว
บึงมอมีเนื้อที่ 86 ไร่ ตั้งอยู่ระหว่าง หมู่ 4 และ 5 ต.ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เป็นแหล่งน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ ที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของคนในชุมชนท่าอุเทน สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ประมาณ 343,400 ลูกบาศก์เมตร มีสัตว์น้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญในการดำรงชีวิตและทำกิจกรรมของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงเป็นแหล่งน้ำที่ใช้ในการอุปโภคและการเกษตร เพราะบึงแห่งนี้มีน้ำตลอดทั้งปี
ปัจจุบันบึงมอมีความตื้นเขิน เกิดจากวัชพืชน้ำเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากและขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว วัชพืชดังกล่าวคือผักกระฉูดหรือผักกระเฉดบก มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ใกล้เคียงกับผักกระเฉดทุกอย่าง จะมีข้อแตกต่างกันที่ผักกระเฉดมีทุ่นสีขาวหุ้มลำต้น แต่ต้นของพักกระฉูดไม่มี และไม่มีสรรพคุณทางยาสมุนไพรใดๆ และอาจเกิดกระทบต่อระบบนิเวศน์ในระยะยาว เพราะผักกระฉูดสามารถขยายพันธ์ได้รวดเร็ว และเป็นพืชที่กำจัดยากมาก
เดิมบึงมอมีความลึกอยู่ที่ 3 เมตร ต่อมาเกิดการทับถมของตะกอนดิน ส่งผลให้แหล่งน้ำตื้นเขิน เหลือความลึกแค่ 1.8 เมตรเท่านั้น คาดว่าปริมาณวัชพืชน้ำมีประมาณ 1,360 ตัน อาจต้องใช้เวลาประมาณ 2 วันจึงจะแล้วเสร็จ
หลังกำจัดวัชพืชน้ำเรียบร้อย ทางเทศบาลตำบลท่าอุเทนจะเดินหน้าพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์และสภาพพื้นที่โดยรอบ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์แหล่งน้ำ นำพันธุ์ปลามาปล่อยเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเอาเบ็ดมาตกพักผ่อนหย่อนใจ โดยห้ามใช้แหหรืออวน รวมถึงใช้รองรับการทำกิจกรรมของชุมชน เพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพ และเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี