วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 จากกรณี เมื่อช่วงเดือน มีนาคม ที่ผ่านมา รีสอร์ทแห่งหนึ่งได้เปิดให้บริการในลักษณะตู้คอนเทนเนอร์ 6 ตู้ ตั้งหันหน้าออกทะเล อยู่บริเวณหน้าผายอดเขาแสมสารหลวงพ่อดำ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้โฆษณาผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาพักผ่อน ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงการก่อสร้างและเปิดให้บริการรีสอร์ทแห่งนี้ ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากตั้งอยู่บนพื้นที่ราชพัสดุ และเป็นพื้นที่ดูแลของกองทัพเรือ ก่อนที่ พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ สั่งการให้ พลเรือโทสุทิน หลายเจริญ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และองค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร เข้าตรวจสอบพร้อมให้หยุดการประกอบธุรกิจและปิดให้บริการอย่างถาวร โดยจะมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในโอกาสต่อไปนั้น
ล่าสุด พลเรือโท สุทิน หลายเจริญ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ได้สั่งการให้ นาวาเอก ไพบูลย์ ม้วนทอง ผู้อำนวยการกองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ พร้อมเจ้าหน้าที่กองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ เจ้าหน้าที่กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ เข้าตรวจสอบ หลังมีการร้องเรียนว่ายังมีการเปิดให้บริการอยู่ จึงได้เข้าตรวจสอบพร้อมแจ้งทางผู้ดูแลรีสอร์ทว่า ทางฐานทัพเรือสัตหีบ ได้นำเจ้าหน้าที่กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ มาตรวจสอบสายไฟฟ้าที่ส่งไปยังรีสอร์ท โดยตัดกระแสไฟฟ้าในส่วนที่ส่งไปยังรีสอร์ท ที่เป็นลักษณะตู้คอนเทนเนอร์ ทั้ง 6 ตู้
เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามาว่ายังมีการลักลอบเปิดให้กับนักท่องเที่ยวเข้ามาพักอยู่ และเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งให้หยุดการประกอบธุรกิจและปิดการให้บริการอย่างถาวร จึงได้เข้ามาดำเนินการตัดไฟ โดยทางผู้ดูแลรีสอร์ทไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพข้างในรีสอร์ท ให้เพียงเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในรีสอร์ทเท่านั้น
โดยก่อนหน้านี้ กองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ มีหนังสือลงวันที่ 18 ส.ค.65 เลขที่ กห.0521.8/464 แจ้งไปยังผู้ดูแล เพื่อขอความร่วมมือให้ระงับการพัฒนาหรือดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ราชพัสดุ ตามแบบคำขออนุญาตดำเนินการในพื้นที่ราชพัสดุ (จป.3902) เรื่องขอเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่ออยู่อาศัย และการเกษตร ลงวันที่ 7 พ.ย.62 ทั้งนี้ ตามที่ท่านได้ยื่นขอเช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชบ.481 บริเวณหมู่ 1 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี (พื้นที่ 1) โดยมีวัตถุประสงค์การขอเช่าเพื่ออยู่อาศัย และประกอบการเกษตร กองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ขอแจ้งให้ทราบว่า พื้นที่ขอเช่าดังกล่าว เป็นพื้นที่ราชพัสดุใช้ในราชการกองทัพเรือ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชบ.481 อยู่ในที่ดินหวงห้าม ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตหวงห้าม ในท้องที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พ.ศ 2479
และเมื่อวันที่ 1 ส.ค.65 เจ้าหน้าที่กองสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ทำการตรวจพื้นที่ พบว่ามีการพัฒนาพื้นที่และนำตู้คอนเทนเนอร์มาติดตั้งไว้ ในบริเวณพื้นที่ขอเช่าจำนวน 6 ตู้ เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กองทัพเรือกำหนด จึงขอความร่วมมือให้ระงับการพัฒนาและหยุดดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ขอเช่าที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าว จนกว่าท่านจะได้รับความยินยอมให้เช่าจากกองทัพเรือ ลงนามโดย นาวาเอก สรณรรถ สนธิไทย ผู้อำนวยการกองอสังหาริมทรัพย์ฐานทัพเรือสัตหีบ ในสมัยที่ดำรงตำแหน่ง
สำหรับ ที่ดินในพื้นที่แสมสาร เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สงวนหวงห้ามตามกฎหมาย ต้องห้าม มิให้ออกโฉนดที่ดินแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดตามมาตรา 56 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติ ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ฉะนั้นราษฎรผู้อาศัยจึงไม่สามารถครอบครองกรรมสิทธิ์ใดๆ ในที่ดินได้ตามกฎหมาย ซึ่งความเป็นมาของที่ดินแสมสารเดิมคือ พื้นที่ของฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นพื้นที่เขตทรงสงวนตามพระบรมราชโองการใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่กองทัพเรือเป็นผู้รับผิดชอบ เป็นที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึก คลังเชื้อเพลิง และที่ตั้งหน่วยทหาร พื้นที่ฝึก และพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวในเรื่องความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล และภาพลักษณ์ของกองกำลังรักษาประเทศ อยู่ภายใต้ พรบ.ว่าด้วยเขตปลอดภัยในราชการทหาร การดำเนินการก่อสร้างใดๆ ในพื้นที่นี้ จึงต้องได้รับอนุญาตจาก กองทัพเรือ อย่างถูกต้องเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี