กวาดล้างทั่วปท.
ยึดปืนเถื่อน3พันกระบอก
ตร.เปิดยุทธการ“ล้างบางมือปืน คืนสันติชาวประชา”ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและอาวุธปืนทั่วประเทศ จับผู้ต้องหา 3,016 รายยึดปืนเถื่อนกว่า 3,000 กระบอก กระสุนปืนกว่า 1.6 แสนนัด ระเบิดอีก 2 ลูก
เมื่อวันที่ 25กรกฎาคมพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมคณะ แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและอาวุธปืนทั่วประเทศ ตามยุทธการ ‘ล้างบางมือปืน คืนสันติชาวประชา’ โดย พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า สำหรับยุทธการดังกล่าวเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ผบ.ตร.กำหนดมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 2566 ในส่วนมาตรการป้องกันปราบปราม ทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.ได้กำหนดให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายในห้วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 2566 เน้นกลุ่มเป้าหมายผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน และการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย สั่งการให้ทุกกองบัญชาการดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิด โดยที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ส่งเป้าหมายการสืบสวนขยายผลผู้ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนออนไลน์ ส่งขายให้ลูกค้าทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกหน่วยเข้าตรวจค้นเพิ่มเติมอีกกว่า 300 จุด
ทั้งนี้ ได้มีปฏิบัติการพร้อมกันในวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีการเข้าตรวจค้น 1,658 จุด จับกุมผู้ต้องหา 966 ราย ยึดของกลางอาวุธปืนเถื่อนไม่มีทะเบียน 811 กระบอก อาวุธปืนมีทะเบียนซึ่งเป็นของบุคคลอื่น (ปืนผิดมือ) 99 กระบอกเครื่องกระสุนปืน 44,540 นัดวัตถุระเบิด 2 ลูก และยาบ้า 6,239 เม็ด
สำหรับเป้าหมายสำคัญที่น่าสนใจคือกรณีตำรวจสภ.เขาพนม ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.กระบี่ และ บก.สส.ภ.8 เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักนายอนุชัย หรือบูม(สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดและพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งมีหมายจับติดตัว 3 หมาย หลบหนีคดีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้น ผู้ต้องหาไหวตัวทัน และขับจักรยานยนต์หลบหนีไปทางหลังบ้านซึ่งเป็นป่าละเมาะ เมื่อเจ้าหน้าที่ติดตามไป ผู้ต้องหาได้วิ่งสวนออกมาจากที่ซ่อนตัว แล้วใช้อาวุธปืนยิงใสเพื่อเปิดทางหลบหนี จึงถูกยิงตอบโต้ กระสุนถูกผู้ต้องหาเสียชีวิต
จากการตรวจสอบที่ศพ พบอาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม.ตกอยู่ข้างตัว และพบลูกระเบิดชนิดข้าง เอ็ม67 และระเบิดควัน 2 ลูก อยู่ในกระเป๋าสะพายที่ติดตัวอยู่ ทางพนักงานสอบสวนจึงร่วมกับอัยการ ฝ่ายปกครอง และแพทย์ ชันสูตรพลิกศพ ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในส่วนของ บช.ภ.4ได้เข้าจับกุมนายสมยศ หรือเอ็ม (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.ห้วยเกิ้ง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ในความผิดฐาน ทำประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่งนำเข้า มีหรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน สำหรับการค้า , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และมีและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมายพร้อมตรวจยึดอาวุธปืนดัดแปลงแบบออโตเมติกและลูกโม่ ลำกล้องขนาด 9 มม. ขนาด .38 และ .380 จำนวน 8 กระบอก แม็กกาซีน 17 อัน กระสุนปืนขนาดต่างๆ รวมกว่า 140 นัด ยาบ้า 8 เม็ด และอุปกรณ์พร้อมเครื่องมือที่ใช้ผลิตหรือดัดแปลงอาวุธปืนจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี ในห้วงระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม-21กรกฎาคม2566เจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมผู้ต้องหา 3,016 ราย ยึดของกลางอาวุธปืนเถื่อนไม่มีทะเบียน 2,901กระบอก,อาวุธปืนมีทะเบียนซึ่งเป็นของบุคคลอื่น (ปืนผิดมือ) 219กระบอก,เครื่องกระสุนปืน 163,380นัด , วัตถุระเบิด 2ลูกและยาบ้า 6,239เม็ด ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาอาชญากรรมที่มีการกระทำผิดโดยใช้อาวุธปืนก่อให้เกิดความสูญเสียและความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงมีการบูรณาการกวาดล้างผู้กระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนพร้อมกันทั่วประเทศ และเชื่อมั่นว่าจะทำให้ความรุนแรงของอาชญากรรมและการกระทำผิดกฎหมายลดลง จึงฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชน หากมีเบาะแส/เรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับเหตุอาชญากรรม หรือเรื่องอื่นๆ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี