ปลัด มท.เปิดอบรมหลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่นที่ 81 ย้ำเป้าหมายสำคัญของพวกเราทุกคน คือ ทำให้ประชาชนมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเป็นรูปธรรม ในระหว่างบรรยายหัวข้อ “ประสบการณ์นักบริหาร” เพื่อสร้างผู้บริหารที่ดีร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างยั่งยืน

วันนี้ (7 ส.ค.66) เวลา 08.00 น.ที่ห้องประชุมอัษฎางค์ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดอบรมหลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่นที่ 81 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พร้อมบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ประสบการณ์นักบริหาร” โดยมี นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ว่าที่ร้อยเอก ธีรพงศ์ ครุธดิลกานันท์ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายสุรพล เจริญภูมิ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายรณรงค์ เทพรักษ์ ผู้แทนกรมการปกครอง นายพินัย อนันตพงศ์ นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ อาจารย์ที่ปรึกษาประจำหลักสูตร นายบุญธรรม ถาวรทัศนกิจ ผู้อำนวยการสถาบันดำรงราชานุภาพ พร้อมผู้เข้าร่วมศึกษาอบรมรวมทั้งสิ้น 80 คน แบ่งเป็นข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย 60 คน และภายนอกสังกัดกระทรวงมหาดไทย 20 คน ร่วมในพิธีเปิด ซึ่งหลักสูตรฯ นี้ มีระยะเวลาฝึกอบรมรวม 10 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม ถึง 12 ตุลาคม 2566 ณ กรุงเทพมหานครและวิทยาลัยมหาดไทย อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณคณาจารย์ และผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่มีความตั้งใจและให้ความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ วันนี้ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติมาบรรยายแก่ผู้เข้าอบรมทุกท่าน ขอให้พวกเราภาคภูมิใจว่า "กระทรวงมหาดไทย" เป็นส่วนราชการที่ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในเรื่องการพัฒนาคนเพื่อมุ่งสู่การเพิ่มคุณภาพการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ควบคู่กับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน สำหรับหลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.) เป็นหลักสูตรที่พุ่งเป้าพัฒนาข้าราชการระดับสูงก่อนเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง และต่อมาสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) ได้จัดทำหลักสูตรนักบริหารระดับสูง (นบส.) ทำให้ในปัจจุบันนี้ มีเพียงหลักสูตร นปส. เพียงหลักสูตรเดียวที่ได้รับการรับรองว่าเป็นหลักสูตรเทียบเท่ากับ นบส. ในการเป็นคุณสมบัติเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ดังนั้น ขอให้ทุกท่านขับเคลื่อนอุดมการณ์บำบัดทุกข์ บำรุงสุขพี่น้องประชาชนร่วมกับส่วนราชการทุกส่วน เพื่อนำไปสู่การทำให้ประเทศชาติของเรามั่นคงเเข็งเเรง และทำให้พี่น้องประชาชนได้มีความสุขอย่างยั่งยืนที่เเท้จริง

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักสูตรเพื่อพัฒนาผู้บริหารให้เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีสมรรถนะด้านการบริหารจัดการที่ดี รวมทั้งเป็นผู้มีคุณธรรมและจริยธรรม พร้อมสำหรับการเป็นผู้บริหารระดับสูงในอนาคต โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในห้องเรียนและนอกสถานที่ อาทิ การเรียนรู้ทักษะการทำงานเป็นทีม ด้วยการฝึกอบรมวิชาลูกเสือ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี การเรียนรู้จากการปฏิบัติ (Action Learning) ด้วยการศึกษาข้อมูลจริงในพื้นที่ชุมชน/หมู่บ้าน ประยุกต์กับการศึกษาในห้องเรียนเพื่อใช้แก้ไขปัญหาต่างๆ ของพื้นที่ การทัศนศึกษาดูงานนอกสถานที่ และการจัดทำรายงานการศึกษาส่วนบุคคล และรายงานกลุ่ม เพื่อเสนอแนะแนวทางการบริหารหรือการพัฒนาหน่วยงาน ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ นำไปสู่การ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน

“ขอให้ นปส. รุ่นที่ 81 ทุกท่าน นำแนวคิด Change for Good ไปใช้เป็นหลักคิดในการศึกษาและการทำงาน รวมถึงในทุกๆ เรื่อง โดยมีเป้าหมายสำคัญเดียวกัน คือ การทำให้ประชาชนมีความสุข ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งต่อยอดแนวพระราชดำริหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ หรือ "อารยเกษตร" อันเป็นศัพท์บัญญัติที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงอธิบายถึงการพัฒนาพื้นที่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมีการจัดพื้นที่ครบทุกส่วน มีโคก มีหนอง มีนา มีพืชไร่ พืชสวน ผสมผสานทำให้มีความมั่นคงทางด้านอาหาร และด้านคุณภาพชีวิตอย่างสมบูรณ์ เพื่อสนองแนวพระราชปณิธาน "ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ที่พระองค์ท่านมีความประสงค์ให้พี่น้องประชาชนมีความสุข มีความมั่นคงในการดำรงชีวิต อันเป็นความสำคัญสูงสุดในการพัฒนาประเทศ” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า ขอให้ทุกท่านมีจิตใจที่รุกรบ ในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดยถือว่างานของทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกกอง กรม กระทรวง เป็นภาระหน้าที่ของพวกเราผู้เข้าอบรมหลักสูตร นปส. ทุกคน เพราะว่าภารกิจของทุกกระทรวง ล้วนแล้วแต่มีเป้าหมายเดียวกัน สอดคล้องกับภารกิจของกระทรวงมหาดไทย คือ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ดังนั้น เราต้องเป็นทีมเดียวกัน ที่ทำหน้าที่บูรณาการทุกเครือข่ายเข้าด้วยกัน และยึดหลักประชาชนเป็นศูนย์กลาง ต้องมองเห็นพี่น้องประชาชนเป็นดังญาติพี่น้อง ที่เราจะต้องลงไปหาเข้าไปหา ดังพุทธศาสนสุภาษิต "ททมาโน ปิโย โหติ : ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก" การเป็นผู้ให้ คือ การเป็นผู้เสียสละ แบ่งปัน ให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ แก่ผู้อื่น เมื่อให้แล้วผู้รับก็มีความสุข และถ้าเราทำให้ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ และพี่น้องประชาชนรักเราได้ ความสนิทสนมคุ้นเคยจะเกิดขึ้น ดังพุทธพจน์ "วิสฺสาสปรมา ญาติ" ที่แปลว่า ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง ด้วยการหมั่นลงพื้นที่ อีกสำคัญหนึ่งประการก็คือ การเป็นจิตอาสาทั้งในภาครัฐ ภาครัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ที่มีเป้าหมายเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมโดยถือเป็นหน้าที่ต้องกระวีกระวาด มิใช่เพียงแค่เป็นประธานในการจัดงานพิธีต่าง ๆ แต่ต้องเข้าไปร่วม เข้าไปคลุกคลีตีโมง ลงมือทำ ดังที่คติพจน์ประจำใจของคนมหาดไทย คือ “ผู้นำต้องทำก่อน” โดยการบูรณาการจาก 7 ภาคีเครือข่าย ทั้งภาคราชการ ภาคผู้นำศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และภาคสื่อสารมวลชน และนำหลักการทรงงาน "บวร บรม ครบ" ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากโครงการพระราชดำริ 4,741 โครงการ ผ่านกระบวนการสำคัญ 4 ประการ คือ การพบปะพูดคุย ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมทำ และร่วมรับประโยชน์ ซึ่งหากทุกคนช่วยกันทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นในทุกชุมชน ก็จะทำให้ความยั่งยืนสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกมิติ

“หลักสูตรนักปกครองระดับสูงจะเป็นประโยชน์และสร้างความภาคภูมิใจให้กับทุกท่านที่เข้ารับการอบรมและการใช้ชีวิตร่วมกัน ขอให้ทุกท่านนำความรู้ที่ได้จาการอบรมในครั้งนี้ ต่อยอดเพื่อขับเคลื่อนงานส่วนรวม มีอะไรขอให้ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เพื่อความผาสุกของประเทศชาติ และความสุขของพี่น้องประชาชนคนไทยอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในตอนท้าย

- 006