สลดหญิงชราซื้อของใส่บาตรเสร็จกลับบ้านเอาเงินไปจ่ายให้ร้านค้า ถูกรถยนต์พุ่งชนเสียชีวิตคาที่ ชาวบ้านร้องขอให้สร้างสะพานลอย เพื่อความปลอดภัยของคนข้ามถนน เนื่องจากเกิดเหตุบ่อยครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.40 น.วันที่ 13 ส.ค. 66 ร.ต.อ. วีรวิชญ์ ศรีโพนดวน รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์ชนคนข้ามถนนเสียชีวิต ที่บ้านหนองครก ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงรีบออกไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับประสานกับ แพทย์เวรโรงพยาบาลศรีสะเกษ และหน่วยกู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางหลวงที่ 220 ศรีสะเกษ-ขุขันธ์ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 5 บ้านหนองครก พอไปถึงพบร่างหญิงชรา ทราบชื่อต่อมาคือ นางสำรอง เซตะวัน อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 1 ต.หนองครก อ.เมืองศรีสะเกษ นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนนในจุดเกิดเหตุ สภาพศพสวมเสื้อแขนกุดสีน้ำเงิน ใส่ผ้าถุง ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บษ 2339 ศรีสะเกษ์ มี นายสมรักษ์ แพงเพชร อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 42 หมู่ 15 ต.บ่อแก้ว อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ คนขับขี่ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ
ต่อมาช่วงเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุและหากล้องวงจรปิดที่อาจจะจับภาพเหตุการณ์ได้ ซึ่งก็ได้ไปที่ร้านค้าแห่งหนึ่งใกล้กับจุดเกิดเหตุ ซึ่ง น.ส.ภรภัสสร พิลาธนาทรัพย์ อายุ 43 ปีบ้านเลขที่ 178 หมู่ 1 ต.หนองครก ซึ่งเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมชาวบ้านอีกหลายคนได้พากันมาซื้อของที่ร้านและรอใส่บาตรพระในช่วงเช้า ซึ่งก็ทำแบบนี้อยู่เป็นประจำทุกวัน โดยหลังจากใส่บาตรกันเสร็จแล้วผู้ตายและชาวบ้านคนอื่นๆ ก็พากันกลับบ้านกันตามปกติ แต่ตอนคุณยายมาซื้อของไม่ได้เอาเงินมาจึงกลับไปบ้านที่อยู่ตรงข้ามร้าน เดินกลับมาเพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าของที่ใส่บาตร ขณะที่กำลังจะข้ามถนนมานั้นรถยนต์คันก่อเหตุก็พุงเข้าชนคุณยายอย่างจังตัวคุณยายกระเด็นลอยไปไกลและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่งานศพของคุณยายสำรอง พบว่าทางญาติได้นำศพคุณยายมาตั้งไว้ที่ศาลากลางบ้านหนองครก แล้ว นางแถมทอง ผิวงาม อายุ 55 ปี ชาวบ้านหนองครก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ถนนเส้นนี้เกิดอุบัติหตุบ่อยครั้งมาก ทั้งชนคนเดินทาง รถชนกัน ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะถนนช่วงนี้รถยนต์ที่ขับผ่านไปผ่านมาขับกันเร็วมาก ไม่ได้นึกถึงว่าจุดตรงนี้เป็นชุมชนเลย และคนในชุมชนนี้ก็จะข้ามไปข้ามมาระหว่าง 2 ฝั่งทางอยู่ตลอดทั้งวัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ถ้าเป็นไปได้อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสร้างสระพานลอยให้คนได้ใช้ข้ามถนนไปมาอย่างปลอดภัยด้วย ไม่เอาทางม้าลาย เพราะถ้าเดินข้ามทางม้าลายรถยนต์ที่วิ่งมาก็วิ่งชนคนข้ามถนนอยู่ดี จะให้ดีต้องเป็นสะพานลอยเท่านั้นถึงจะปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางญาติของคุณยายสำรอง อยากจะให้ช่วยตามหาญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตด้วย เพราะคุณยายสำรอง มีลูกทั้งหมด 5 คน เสียชีวิตไป 1 คน เหลือ 4 คน ลูกคนที่ 1 ชื่อ นางอัมพร สังเพชร ชื่อเล่น หยอง อายุ 54 ปี และคนที่ 3 คือ น.ส.เรียน เชตวัน ชื่อเล่น จิ อายุ 51 ปี ซึ่งทั้ง 2 คน ไม่เจอแม่มา 10 กว่าปีแล้ว ถ้าได้ดูข่าวก็อยากให้รู้ว่าแม่ (คุณยายสำรอง) ได้เสียชีวิตแล้ว
ตำรวจสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ผู้ตายอาศัยอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามของร้านค้า คุณยายจะชอบเดินข้ามถนนมาซื้อของที่ร้านค้าฝั่งตรงข้ามอยู่เป็นประจำ แต่ตอนเกิดเหตุผู้ตายกำลังเดินข้ามถนนจะจ่ายค่าของที่ซื้อไปใส่บาตรเมื่อเช้า ขณะกำลังเดินข้ามมานั้น รถยนต์ที่อยู่เลนใน ช่องซ้าย ได้ชะลอความเร็วลงเพื่อจะให้คุณยายเดินข้ามถนนไป แต่มีรถยนต์อีกคันซึ่งเป็นรถยนต์คันเกิดเหตุขับมาอย่างเร็วในเลนขาวไม่ทันเห็นคุณยายที่กำลังข้ามถนนเนื่องจากรถเลนซ้ายบังอยู่เลยพุงชนคุณยายเข้าอย่างจังจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพทำแผนที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมกับสอบปากคำคนขับรถยนต์คันเกิดเหตุ และคนที่เห็นเหตุการณ์แล้ว ก่อนจะได้นำศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลศรีสะเกษอีกครั้ง เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี