ตำรวจ ปคบ.จับมือ อย.กวาดล้างร้านขายยาไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รวบเภสัชกรเถื่อน 13 ราย ยึดของกลาง ยาแก้ไอส่วนผสม 4x100 ให้วัยรุ่น และยาต่างๆ มูลค่ากว่า 1.4 ล้านบาท ถูกเอาผิดหลายข้อหา
เมื่อวันที่ 15สิงหาคม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ.มอบหมายให้พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ.พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4บก.ปคบ.นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย). ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการอย.และภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช อุปนายกสภาเภสัชกรรมคนที่ 2แถลงผลการกวาดล้างจับกุมร้านขายยาที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นร้านขายยาทั่ว กทม.จับกุมผู้ต้องหาที่ไม่ใช่เภสัชกร 13 ราย ยึดของกลางยาชนิดต่างๆ กว่า 156 รายการ มูลค่ากว่า 1,400,000 บาท
การจับกุมดังกล่าวเนื่องจากก่อนหน้านี้ ทาง อย.ได้ประสานให้ตำรวจ บก.ปคบ.เข้าตรวจสอบร้านขายยาในพื้นที่ กทม.ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย มีการใช้บุคลากรที่ไม่ได้เป็นเภสัชกรประจำร้านจ่ายยาให้กับลูกค้า โดยเฉพาะยาแก้แพ้-แก้ไอ ยาเขียวเหลืองให้กับวัยรุ่นใช้ผสมยาเสพติดชนิด 4×100 จึงเป็นที่มาของการจัดระเบียบร้านขายยาทุกๆร้าน ที่จะต้องมีเภสัชกรประจำเป็นผู้จ่ายยาให้ลูกค้า
ทั้งนี้ ในห้วงระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม-9 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบร้านขายยา 14 ร้าน ประกอบด้วย ร้านไทยฟาร์มาซี 5 สาขา, ร้านคลินิกยา 4 สาขา, ร้านพูนทรัพย์ฟาร์มาซี 2 สาขา, ร้านขายยาพาดาเจริญเภสัช 2 สาขา และร้านบ้านยาของขวัญ โดยสามารถจับกุมบุคคลที่ไม่ใช่เภสัชกรจ่ายยารวมทั้งสิ้น 13 ราย พร้อมกับตรวจยึดยาปลอมได้ 572 ชิ้น ยาที่ไม่มีการขึ้นทะเบียน 212 ชิ้น ยาแก้ไอน้ำเชื่อม 24,722 ขวด ยาเขียวเหลืองหรือทรามาดอล 4,150 แคปซูล และยาควบคุมพิเศษอีก21 กล่อง
พ.ต.อ.สุพจน์ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ไม่ใช่เภสัชกร 13 ราย จากการตรวจสอบพบว่ามีวุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รวม 3 ราย มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 รวม 2 ราย และปริญญาตรี 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีในข้อหาประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต
สอบสวนเบื้องต้นทั้งหมดรับสารภาพว่า ได้รับจ้างให้ทำหน้าที่พนักงานของร้านขายยา ทำหน้าที่ขายยาให้ลูกค้า แต่จะมีเภสัชกรเข้ามาดูแลสัปดาห์ละ1 ครั้ง ได้ค่าจ้างเฉลี่ยเดือนละ 12,000-18,000 บาท
พ.ต.อ.สุพจน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนกลุ่มร้านขายยานั้น ตรวจพบว่ามีเจ้าของรายเดียวมีการจดแจ้งขยายสาขา เพื่อหวังได้โควตาสั่งยาแก้ไอที่จำกัดเอาไว้ให้เพียงร้านละ300ขวดต่อเดือน โดยยาแก้ไอดังกล่าวจะมีวัยรุ่นซื้อไปผสมเป็นเครื่องดื่ม4×100 ในพื้นที่ กทม.พบว่าระบาดมากในย่านรามคำแหง หัวมาก และลาดพร้าว เนื่องจากมีพี่น้องชาวภาคใต้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ชื่นชอบเครื่องดื่ม 4×100 พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจำนวนมาก ซึ่งได้ดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537 และความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 และจะเสนอพักใช้ใบอนุญาต ขณะที่เภสัชกรที่มีป้ายชื่อปรากฏว่าเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ในร้านขายยา จะดำเนินการพักใช้ใบอนุญาต2 ปี และดำเนินคดีอาญาซึ่งมีโทษปรับ
ขณะที่ ภก.วีระชัย กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ ได้มีการสืบสวนขยายผลตรวจสอบเครือข่ายร้านขายยากลุ่มเสี่ยง ที่มีพฤติการณ์ขายยาแก้แพ้ แก้ไอ และยาแก้ปวดทรามาดอลให้แก่กลุ่มเยาวชนจนสามารถตรวจยึดยาจำนวนมาก ปัจจุบัน อย.มีมาตรการกำกับดูแลการจำหน่ายยากลุ่มเสี่ยงตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่การผลิตนำเข้า การขายให้ร้านขายยา ตลอดจนการจ่ายยาให้ผู้ป่วย กรณีตรวจพบการซื้อขายยาในทางที่ผิด นอกจากจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ยังถูกพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 120วัน หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต นับตั้งแต่ปี 2561-ปัจจุบัน มีร้านขายยาที่ถูกพักใช้ใบอนุญาตไปแล้วกว่า78ร้านโรงงานผลิตยาถูกพักใช้ใบอนุญาต 2 แห่ง และบริษัทขายส่งยาถูกเพิกถอนใบอนุญาต 1 แห่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี