"ชูวิทย์"ร้องสภาทนายความสอบมรรยาททนายความของ"เศรษฐา"อ้างฝ่าฝืน พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคลฯ

16 ส.ค.66 ที่สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนพหลโยธิน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง พร้อมคณะได้เดินทางมาที่สภาทนายความฯ โดยนำเอกสารมายื่น ขอให้สอบมรรยาททนายความนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย  กรณีที่นายวิญญัติ ได้เปิดเผย พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคลที่ ต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งนายวิญญัติได้กระทำการใดๆซึ่งไม่ได้รับอนุญาตในการเปิดเผยข้อมูลอันเป็นสิทธิเสรีภาพ เช่น ว่าตนเคยต้องคำพิพากษาเกี่ยวกับการทุจริตในรายการทรัพย์สิน และหนี้สิน จึงเป็นบุคคลต้องคำพิพากษา เกี่ยวกับทรัพย์และเกี่ยวกับการทำให้เสียทรัพย์ เมื่อหลายปีก่อน การกระทำและคำพูดดังกล่าวจึงเป็นการผิดมรรยาททนายความ

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า นายวิญญัติคงทราบดีว่า การเป็นทนายความนั้นจะต้องไปสู้กันบนบัลลังก์ เอกสารหลักฐานต่างๆไม่ใช่จะพูดเปิดเผยหรือกล่าวต่อสาธารณะ ได้ทุกอย่าง เพราะตัวเองเป็นทนายความ และมีมรรยาททนายความกำกับอยู่ วันนี้จึงนำเอกสารการให้สัมภาษณ์คำพูด ซึ่งอยู่ในการคุ้มครองตามพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มายื่นต่อสภาทนายความ พิจารณา

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า นายวิญญัติ จะเล่นการเมืองก็เล่นไปแต่ถ้าจะเล่นการเมืองด้วยและเป็นทนายความด้วย ก็ต้องแบ่งให้ถูกการเป็นนักการเมืองถือเป็นอาสาสมัคร จะทำงานเพื่อประเทศชาติไม่มีใครว่า แต่เมื่อเป็นนักการเมืองด้วยและเป็นทนายความด้วย จะต้องว่าความยังไง จะต้องถูกกำกับด้วยมรรยาททนายความ จะไปพูดจาก้าวล่วงผู้อื่นไม่ได้ และถามไปถึงนายวิญญัติ ว่าไม่รู้กฎหมายเลยหรือว่ามี พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จะไปเอาประวัติ คนอื่นมาพูด หากเป็นนักการเมืองก็พูดได้เพราะไม่มีอาชีพ แต่เมื่อเป็นทนายความก็เท่ากับฝ่าฝืนอาชีพ เพราะทนายความควรรู้กฎหมายเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ สภาทนายความฯรับคำร้องไว้ เพื่อส่งให้คณะกรรมการมรรยาททนายความพิจารณาต่อไป.