DSI ลุยค้น 11 จุด บริษัทนำเข้าหมูเถื่อน พร้อมยึดเอกสารตรวจสอบ ด้าน หน.ชุดสอบสวน เผยสายเรือ 17 แห่งเข้าให้ปากคำครบแล้ว เเย้ม 18 ส.ค.นี้ จ่อประชุมร่วมศุลกากร-ปศุสัตว์ ถกขั้นตอนขนย้ายเตรียมทำลายของกลาง 161 ตู้
จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) สนธิกำลังร่วมกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ ตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์บรรจุหมูแช่แข็ง 161 ตู้ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เบื้องต้นพบมูลค่าเลี่ยงภาษีอากร 460 ล้านบาทนั้น พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีขบวนการลักลอบนำเข้าซากสุกรแช่แข็ง 161 ตู้ เร่งสืบสวนสอบสวน จนกระทั่งสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายเรียกพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องเจ้าให้ปากคำ อาทิ บริษัทสายเรือที่รับจ้างนำเข้าสินค้าทั้ง 17 แห่ง เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร เป็นต้น
ล่าสุด วันนี้ (17ส.ค.66) พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน เปิดเผยความคืบหน้าว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้นำหมายค้นจากศาล ลงพื้นที่ตรวจค้นทั้งหมด 11 จุด อาทิ ในพื้นที่ลาดกระบัง ประเวศ หมู่บ้านพฤกษาวิลล์ กรุงเทพมหานคร, จ.ลพบุรี ,จ.นครปฐม เป็นต้น เพื่อเข้าตรวจยึดเอกสารที่ระบุถึงการสั่งสินค้าจากประเทศต้นทาง โดยทั้งหมดเป็นบริษัทนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำเข้าซากสุกรแช่เเข็งทั้ง 161 ตู้ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ต่างนำเข้าซากสุกร รายละประมาณ 10-30 ตู้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เราได้รับเอกสารบางส่วนจากทางกรมศุลกากรแล้วเช่นเดียวกัน แต่การตรวจยึดในวันนี้ เป็นไปเพื่อนำไปใช้ยืนยันในส่วนของเอกสารการนำเข้า
ส่วนการเรียกสอบปากคำเจ้าของบริษัทนำเข้าทั้ง 11 จุดในฐานะพยานนั้น พนักงานสอบสวนจะดำเนินการออกหมายเรียกภายหลังจากที่ตรวจสอบเอกสารครบถ้วน นอกจากนี้ ระหว่างการดำเนินการสอบสวนที่ผ่านมา บริษัทสายเรือทั้ง 17 แห่ง ซึ่งรับว่าจ้างบริษัทนำเข้าสินค้า ที่นำเข้าซากสุกรแช่แข็งทั้ง 161 ตู้ ได้มีการเข้าให้ปากคำในฐานะพยานกับพนักงานสอบสวนครบทั้งหมดแล้ว ซึ่งการเข้าให้ปากคำของบริษัทสายเรือมีประโยชน์ต่อสำนวนเป็นอย่างมาก เพราะแต่ละบริษัทสายเรือได้ให้ปากคำว่ามีบริษัทนำเข้ากี่รายที่ว่าจ้าง จึงเป็นสาเหตุของการขยายผล เข้าตรวจค้นบริษัทนำเข้าทั้ง 11 จุดในวันนี้ อีกทั้งเราจะต้องมาตรวจสอบขยายผลเพิ่มว่าใครที่เป็นคนลงนามสั่งสินค้าเข้ามา เพราะเรายังพบด้วยว่ามีบางบริษัทใน 11 จุดที่ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีรายงานอ้างว่ามีนายทุน 4-5 รายอยู่เบื้องหลังขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน หลังจากนี้เราจะมีการขยายผลต่อเนื่องแน่นอน แต่ในขั้นตอนนี้จะต้องดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นให้เสร็จสิ้น จึงจะสามารถเชื่อมโยงไปยังนายทุนกลุ่มดังกล่าวได้ รวมถึง การออกหมายเรียกพยาน ตลอดจนผู้ต้องหา 11 ชิปปิ้งเอกชน ก็เช่นเดียวกัน จะต้องค่อยๆดำเนินการไปทีละส่วน
เมื่อถามถึงประเด็นที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้มาร้องที่ดีเอสไอว่ายังมีหมูเถื่อนตกค้างอีกตู้คอนเทเนอร์กว่า 1,000 ตู้ตามท่าเรือต่างๆ เช่น ท่าเรือมุกดาหาร ท่าเรือคลองเตย ในส่วนนี้มีการตรวจสอบอย่างไรบ้างหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ณฐพล เผยว่า ตนได้รับทราบประเด็นดังกล่าวแล้ว แต่ในส่วนนี้จะเป็นการที่ต่างกรรมต่างวาระ เนื่องจากทราบว่าทางกรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์อยู่ระหว่างดำเนินการ หากพบว่ามีความผิดเป็นไปตามนั้นจริง กรมศุลกากรหรือกรมปศุสัตว์จะต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางดีเอสไออีกครั้งในภายหลัง คล้ายกับกรณีการเริ่มต้นทำคดีของขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน 161 ตู้
ต่อข้อถามว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการที่มีภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมสังเกตการณ์กระบวน การขนย้ายทำลายของกลางหมูเถื่อนอย่างไรบ้าง เพราะทางด้านนายอัจฉริยะ และตัวแทนผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย มีความกังวลเรื่องของกลางล่องหน พ.ต.ต.ณฐพล เผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 ส.ค.) เวลา 13.30 น. ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอจะมีการประชุมร่วมกับตัวแทนจากกรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์ เพื่อหารือให้เป็นมติเอกฉันท์เกี่ยวกับการกำหนดวันเวลา และขั้นตอนการขนย้ายเนื้อหมูเถื่อน หรือของกลางในคดี รวมถึงการทำลายฝังกลบด้วย
-001