WHOสั่งจับตา
โควิดBA.2.86
‘สายพันธุ์ใหม่’
ระบาดหลายปท.
อนามัยโลกสั่งจับตา โควิด BA.2.86สายพันธุ์ใหม่ พบระบาดแล้วในหลายประเทศ ด้านกรมวิทยาศาสตร์ฯจับตาโควิดต่อเนื่องเผยพบโอมิครอน EG.5.1 แล้ว 15 ราย
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 องค์การอนามัยโลก ระบุ ผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมาว่าได้จัดให้ BA.2.86 เป็นสายพันธุ์ย่อยที่ต้องจับตามอง เนื่องจากมีการกลายพันธุ์เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดีจนถึงขณะนี้มีการรายงานว่าพบการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ย่อยดังกล่าวในไม่กี่ประเทศเท่านั้น
คณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (ซีดีซี) ก็โพสต์บน X ในวันเดียวกันว่า ได้จัดให้โควิดสายพันธุ์ย่อย BA.2.86 เป็น “สายพันธุ์ย่อยที่ต้องจับตามอง” เนื่องจากพบการกลายพันธุ์เป็นจำนวนมาก ซีดีซีระบุว่า BA.2.86 ถือเป็นตัวแปรย่อยใหม่ที่ตรวจพบในสหรัฐ เดนมาร์ก และอิสราเอล อย่างไรก็ดี ระหว่างที่กำลังเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ BA.2.86 คำแนะนำของซีดีซีเกี่ยวกับการป้องกันตัวเองจากโควิด-19 ยังคงเหมือนเดิม
ดร.เอส เวสลีย์ ลอง ผู้อำนวยการด้านการแพทย์จุลชีววิทยาการวินิจฉัยที่ฮูสตันเมธอดิสต์ กล่าวว่า BA.2.86 มีการกลายพันธุ์ของไวรัสถึง 36 จุดจากไวรัสกลายพันธุ์ XXB.1.5 ที่มีการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน แต่ยังต้องติดตามกันต่อไปว่า BA.2.86 จะสามารถแพร่ระบาดได้มากกว่าไวรัสโควิดกลายพันธุ์ตัวอื่นๆ หรือไม่ หรือมีความได้เปรียบในการหลบหนีภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อหรือการฉีดวัคซีนโควิดหรือไม่อย่างไร
“ข้อกังวลที่ใหญ่ที่สุดคือมันอาจทำให้เกิดการพุ่งขึ้นของผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ และทำให้เกิดการติดเชื้อมากกว่าที่เราได้เห็นในการแพร่ระบาดระลอกล่าสุด แต่วัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับมันได้” ดร.ลองกล่าว
ขณะที่ เจสซี บลูม นักไวรัสวิทยา ที่ศูนย์มะเร็งเฟรดฮัทช์กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ในเบื้องต้นบ่งชี้ว่า สายพันธุ์ย่อย BA.2.86 จะสามารถหลบหนีภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อหรือการฉีดวัคซีนได้เท่ากับหรือมากกว่า XXB.1.5 อย่างไรก็ดี จากการประเมินเบื้องต้น BA.2.86 น่าจะแพร่ระบาดได้น้อยกว่าโควิดสายพันธุ์ย่อยที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ แต่จำเป็นที่จะต้องมีข้อมูลที่มากขึ้นเพื่อประกอบการพิจารณา
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีองค์การอยามัยโลก (WHO) จัดให้โรคโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.X หรือ BA.2.86 เป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าติดตาม เนื่องจากพบว่ามีการกลายพันธุ์เป็นจำนวนมาก ว่า กรมวิทยาศาสตร์ฯได้ติดตามรายงานขององค์การอนามัยโลกอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ก็ทราบว่า ได้มีจัดให้สายพันธุ์ BA2.86 เป็นสายพันธุ์ที่ต้องจับตามอง หรือ VUM ซึ่งต้องรอดูข้อมูลเพิ่มเติม เพราะยังมีจำนวนที่พบน้อยมาก และยังเป็นเพียงข้อสันนิษฐานในห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ที่พบว่ามีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่ง
“ซึ่งจะต้องนำมาเปรียบเทียบกับรหัสพันธุกรรมโควิด-19 จริงที่มีอยู่ และหลายครั้งก็พบว่า ไม่ได้เป็นไปตามข้อมูลที่พบในแล็บ กรณี BA.2.86 ก็ต้องรอพิสูจน์อีกระยะ ส่วนที่มีระบุว่า เป็นสายพันธุ์ BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์เก่าแต่กลับมาโผล่อีกครั้ง ก็ต้องรอดูกันต่อไป เพราะหากโผล่มาแล้ว 2 สัปดาห์ แล้วหายไปก็จบ ดังนั้น สายพันธุ์ที่จะอยู่ได้ต่อไปจะต้องแพร่ระบาดได้เร็ว ซึ่งในอดีตสายพันธุ์เบต้า เป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงที่สุด แต่เนื่องจากแพร่ระบาดได้ไม่เร็ว ในที่สุดก็หายไป” นพ.ศุภกิจ กล่าว
และว่า สิ่งที่ต้องจับตาดู BA.2.86 นั้น จะดูว่า มีความสามารถในการระบาดเพิ่มขึ้นหรือไม่ หากสัดส่วนเพิ่มขึ้นจริง คาดว่าใช้เวลาไม่นานก็จะมาแทนที่ตัวเดิม แต่ขณะนี้ พบเพียง 4 คนเท่านั้น จากตัวเลขการติดเชื้อทั่วโลกวันละนับแสนคน และดูความรุนแรงของผู้ป่วยและอัตราการตาย หากไม่เพิ่มขึ้นมาก ก็แสดงว่าไม่รุนแรง และดูว่าหลบภูมิคุ้มกันหรือไม่ เพื่อดูประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีอยู่ จึงขอให้ความมั่นใจกับคนไทยว่า กรมวิทยาศาสตร์ฯ มีการถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อโควิด-19 ทั้งตัวทุกสัปดาห์ และติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากมีในไทยก็สามารถตรวจพบได้แน่
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยสายพันธุ์ที่แพร่ระบาด เป็นหลักยังคงเป็นสายพันธุ์ XBB.1.16 ส่วนสายพันธุ์ย่อย EG.5.1 ที่องค์การอนามัยโลก ยกระดับให้เป็นสายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจ หรือ VOI ซึ่งเดิมพบ 8 ตัวอย่าง และการถอดรหัสพันธุกรรมรอบใหม่เดือนสิงหาคม พบอีก 7 ตัวอย่าง รวม 15 ตัวอย่าง ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น เพราะสายพันธุ์ EG.5.1 กำลังระบาดในหลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น ยุโรปบางส่วน ฯลฯขณะนี้ กรมวิทยาศาสตร์ฯ กำลังจับตาดู คาดว่าจะติดต่อกันได้ง่ายขึ้น แต่ไม่รุนแรง ทั้งนี้ การป้องกันตนเองทั้งสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงที่ชุมชน และฉีดวัคซีนป้องกัน ยังเป็นมาตรการที่ป้องกันได้ดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี